ยะลา - ผบ.พตท. มั่นใจจัดกำลังดูแลความปลอดภัยนายกรัฐมนตรีไทยและมาเลย์ เปิดสะพานมิตรภาพไทยมาเลย์ ย้ำไม่จำเป็นใช้กำลังผสมไทยมาเลย์ เนื่องจากเป็นการปฏิบัติในเขตไทย
วันนี้ ( 7 ธ.ค. ) พล.ท.กสิกร คีรีศรี ผู้บัญชาการผสมพลเรือน ตำรวจ ทหาร (พตท.) เปิดเผยถึงการจัดกำลังดูแลความปลอดภัยนายกรัฐมนตรีไทย และมาเลย์ เดินทางมาเปิดสะพานมิตรภาพ ที่บริเวณชายแดนบ้านบูเกะตา อ.แว้ง จ.นราธิวาส ว่า มีการมอบความรับผิดชอบในหลายระดับ ในส่วนของกองทัพภาคที่ 4 ได้มีคำสั่งจัดตั้งกองอำนวยการรักษาความปลอดภัย และใช้กำลังจากหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาสที่มีอยู่ในพื้นที่ เป็นกองกำลังรักษาความปลอดภัย
โดยแบ่งออกเป็นหลายส่วนทั้งที่สะพานบูเกะตา ที่โรงเรียนสอนศาสนาและที่พักภายในตัวเมืองนราธิวาส ซึ่งในแต่ละจุดมีแผนการปฏิบัติและผู้รับผิดชอบที่ชัดเจน คาดว่าการเตรียมการทุกอย่างสมบูรณ์เรียบร้อยแล้ว การดูแลความปลอดภัยตามบริเวณชายแดน นั้น ไม่มีการประสานเพื่อกำลังทางฝ่ายมาเลย์ แต่อย่างใด เนื่องจากเป็นการปฏิบัติในเขตประเทศไทย ดังนั้นจะใช้กองกำลังของฝ่ายไทยทั้งหมด
ในขณะเดียวกันในพื้นที่ปกติของจังหวัดยะลา ปัตตานีและ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา ยังคงปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ จึงไม่น่าเป็นห่วงว่าทางกองทัพนำกำลังไปใช้ในพื้นที่จังหวัดนราธิวาสแต่อย่างใด สำหรับเนื้อสาระ นั้น คงไม่มีอะไรที่ทางกองทัพจะเข้าไปเกี่ยวข้อง เนื่องจากเป็นการมาปฏิบัติภารกิจในเรื่องของการเปิดสะพานและเยี่ยมเยียนประชาชนในพื้นที่เท่านั้น ซึ่งทางกองทัพรับผิดชอบในภารกิจในการจัดกำลังดูแลความปลอดภัยละความเรียบร้อย
วันนี้ ( 7 ธ.ค. ) พล.ท.กสิกร คีรีศรี ผู้บัญชาการผสมพลเรือน ตำรวจ ทหาร (พตท.) เปิดเผยถึงการจัดกำลังดูแลความปลอดภัยนายกรัฐมนตรีไทย และมาเลย์ เดินทางมาเปิดสะพานมิตรภาพ ที่บริเวณชายแดนบ้านบูเกะตา อ.แว้ง จ.นราธิวาส ว่า มีการมอบความรับผิดชอบในหลายระดับ ในส่วนของกองทัพภาคที่ 4 ได้มีคำสั่งจัดตั้งกองอำนวยการรักษาความปลอดภัย และใช้กำลังจากหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาสที่มีอยู่ในพื้นที่ เป็นกองกำลังรักษาความปลอดภัย
โดยแบ่งออกเป็นหลายส่วนทั้งที่สะพานบูเกะตา ที่โรงเรียนสอนศาสนาและที่พักภายในตัวเมืองนราธิวาส ซึ่งในแต่ละจุดมีแผนการปฏิบัติและผู้รับผิดชอบที่ชัดเจน คาดว่าการเตรียมการทุกอย่างสมบูรณ์เรียบร้อยแล้ว การดูแลความปลอดภัยตามบริเวณชายแดน นั้น ไม่มีการประสานเพื่อกำลังทางฝ่ายมาเลย์ แต่อย่างใด เนื่องจากเป็นการปฏิบัติในเขตประเทศไทย ดังนั้นจะใช้กองกำลังของฝ่ายไทยทั้งหมด
ในขณะเดียวกันในพื้นที่ปกติของจังหวัดยะลา ปัตตานีและ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา ยังคงปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ จึงไม่น่าเป็นห่วงว่าทางกองทัพนำกำลังไปใช้ในพื้นที่จังหวัดนราธิวาสแต่อย่างใด สำหรับเนื้อสาระ นั้น คงไม่มีอะไรที่ทางกองทัพจะเข้าไปเกี่ยวข้อง เนื่องจากเป็นการมาปฏิบัติภารกิจในเรื่องของการเปิดสะพานและเยี่ยมเยียนประชาชนในพื้นที่เท่านั้น ซึ่งทางกองทัพรับผิดชอบในภารกิจในการจัดกำลังดูแลความปลอดภัยละความเรียบร้อย