สตูล - กลุ่มอนุรักษ์พิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติป่าต้นน้ำโตนปลิว พร้อมเยาวชนและชาวบ้านในพื้นที่ อ.ควนโดน จ.สตูล ร่วมกันปลูกต้นไม้ยืนต้นบนพื้นที่ป่าต้นน้ำตกโตนปลิวถวายในหลวง เพื่อให้ประชาชนได้ตระหนักในการอนุรักษ์ ปกป้อง พิทักษ์ รักษาทรัพยากรในชุมชนตนเอง
วันนี้ (6 ธ.ค.) กลุ่มอนุรักษ์พิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติป่าต้นน้ำโตนปลิว นำเยาวชน ชาวบ้านในพื้นที่ร่วมกันปล่อยพันธ์ปลาน้ำจืดลงสู่น้ำตกโตนปลิว ม.1 บ้านทุ่งมะปรัง ต.วังประจัน อ.ควนโดน จ.สตูล พร้อมร่วมกันปลูกต้นไม้ยืนต้นบนพื้นที่ป่าต้นน้ำน้ำตกโตนปลิวถวายในหลวง โดยมีนายปรีชา ดำเกิงเกียรติ นายอำเภอควนโดนเป็นประธานในพิธีเปิดก่อนร่วมกับชาวบ้านปล่อยพันธ์ปลาปลูกป่าดังกล่าว
พร้อมกันนี้กลุ่มอนุรักษ์พิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติป่าต้นน้ำโตนปลิว นำโดยนายศักดิ์เกรียง หมีนโฉะ ประธานกลุ่มนำกล่าวคำประกาศเจตนารมณ์ของกลุ่มฯ เพื่อตระหนักในการอนุรักษ์ ปกป้อง พิทักษ์ รักษาทรัพยากรในชุมชนตนเอง
ในการนี้ประธานกลุ่มอนุรักษ์พิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติป่าต้นน้ำโตนปลิว กล่าวว่า ในอดีตพื้นที่ป่าคลองมาเหลามีความอุดมสมบูรณ์ไปด้วยทรัพยากรธรรมที่สำคัญมากมาย เช่น ป่าไม้ สัตว์ป่า พืชสมุนไพร สายน้ำ ลำธาร อีกทั้งมีน้ำตกหลายสายที่ขึ้นชื่อได้แก่ น้ำตกโตนปลิว น้ำตกโตนลำพร้าว ชาวบ้านใช้ประโยชน์จากป่าและสายน้ำแห่งนี้และเป็นแหล่งที่ทำมาหากินในการเก็บของป่าขายและพืชผัก เห็ด หาหวายเพื่อทำเข่งขาย หลังจาการกรีดยางพาราหรือว่างจากการทำอาชีพหลัก ที่สำคัญป่าคลองมาเหลายังเป็นป่าต้นน้ำมีการทำประปาภูเขาที่ใช้หล่อเลี้ยงคนในชุมชนกว่า 140 ครัวเรือน และหมู่บ้านใกล้เคียงแต่สภาพปัจจุบัน เกิดการบุกรุกพื้นที่ป่าเพื่อการจับจองที่ดินทำกินและตัดไม้เศรษฐกิจส่งขายจากคนนอกพื้นที่และในพื้นที่ โดยผ่านการซื้อขายจากนายหน้าในหมู่บ้านใกล้เคียง และการรุกคืบของการทำเกษตรเชิงเดี่ยว เช่น ยางพาราทำให้สภาพพื้นที่โล่งเตียน ป่าใหญ่ถูกทำลายลดลงอย่างรวดเร็ว ส่งผลต่อทรัพยากรและทำให้ความหลากหลายของระบบนิเวศน์อีกทั้งทำให้เกิดวิกฤตโลกร้อนที่ต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วน
รวมถึงสัตว์ป่าลดลงบางชนิดก็สูญพันธุ์และที่สำคัญไปกว่านั้นน้ำในลำคลองที่หล่อเลี้ยงคนในชุมชนมีสารเคมีปนเปื้อนลงในสายน้ำซึ่งเป็นสารเคมีเพื่อการจับปลา สารเคมีในสวนยางเมื่อฝนตกชะล้างลงสู่สายน้ำลำคลอง ซึ่งการใช้ประโยชน์จากน้ำบริโภคและใช้สอยในครัวเรือนส่งผลกระทบในระยะยาว