ศูนย์ข่าวภูเก็ต - เกิดเหตุ 2 คนร้าย วัยรุ่นชาย ขับรถจักรยานยนต์ตามประกบยิงหนุ่มภูเก็ต วัย 17 ปี เสียชีวิตคาที่ ก่อนซิ่งหนีลอยนวล เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานฆ่าล้างแค้น และเรื่องชู้สาว ล่าตัวเพื่อนที่นั่งซ้อนท้ายมาด้วยกันสอบเพิ่ม มีส่วนเกี่ยวข้องกับมือปืนหรือไม่ หลังเกิดเหตุซิ่งรถหนีปล่อยเพื่อนนอนตายกลางถนน
เมื่อเวลา 23.45 น.คืนวันที่ 5 ธันวาคม เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า เกิดเหตุยิงกันที่บริเวณสะพาน รอยต่อระหว่างบ้านดอน-บ้านเชิงทะเล ต.เชิงทะเล อ.ถลาง มีผู้เสียชีวิต ให้เดินทางไปตรวจสอบด้วย จึงรายงานให้ พ.ต.อ.วิฑูรย์ กองสุดใจ ผกก.สภ.เชิงทะเล ทราบ พร้อมนำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน และเจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ตไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุอยู่บนช่องจราจร เส้นทางจากบ้านดอนมุ่งหน้าไปบ้านเชิงทะเล ต.เชิงทะเล พบศพ นายนฤเดช พรหมชัย อายุ 17 ปี อยู่บ้านเลขที่ 230 หมู่ 6 ต.ศรีสุนทร อ.ถลาง จ.ภูเก็ต สวมเสื้อแจกเก็ตแขนยาวสีดำ นุ่งกางเกงขายาว สีกรมท่า นอนหงายจมกองเลือดอยู่บนพื้นถนน สภาพศพถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาด เข้าที่บริเวณสะบักหลังด้านขวาจำนวน 1 นัด กระสุนฝังใน จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุไม่พบหัวกระสุน หรือปลอกกระสุนของทูตมรณะแต่อย่างใด จึงมอบศพให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ตนำส่งชันสูตรที่โรงพยาบาลถลาง เพื่อผ่าเอาหัวกระสุนออก
จากการสอบสวนชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุนายนฤเดชได้นั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ไม่ทราบยี่ห้อ สี และหมายเลขทะเบียน โดยมีเพื่อนชายเป็นคนขับ ออกจากบ้านตีนเล ต.เชิงทะเล อ.ถลาง มุ่งหน้าไปบ้านดอน ต.ศรีสุนทร อ.ถลาง เพื่อจะกลับบ้านพักที่อยู่บริเวณบ้านยา ต.ศรีสุนทร ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 2 กิโลเมตร เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุได้มีชายวัยรุ่น 2 คน ขี่รถจักรยานยนต์ประกบข้างรถนายนฤเดช
จากนั้นวัยรุ่นที่นั่งซ้อนท้ายได้ชักปืนออกมาจ่อยิงนายนฤเดชจำนวน 1 นัด กระสุนพุ่งเข้าที่สะบักหลังด้านขวา ทำให้นายนฤเดชตกจากรถจักรยานยนต์ลงไปนอนจมกองเลือดที่พื้น ส่วนเพื่อนที่เป็นคนขับได้ขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป ปล่อยให้นายนฤเดชนอนเสียชีวิตอยู่ที่พื้นถนนเพียงลำพัง จากนั้นคนร้ายได้ขี่รถจักรยานยนต์เลี้ยวกลับแล้วหลบหนีไปทางบ้านเชิงทะเล ต.เชิงทะเล และหายไปกับความมืด
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งไว้ 2 ประเด็นหลัก คือ ฆ่าชำระแค้นกันในกลุ่มวัยรุ่น และเรื่องชู้สาว ซึ่งจะได้ติดตามเพื่อนนายนฤเดช ที่เป็นคนขี่รถจักรยานยนต์คันดังกล่าวมาสอบปากคำว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับการสังหารนายนฤเดชมากน้อยหรือไม่ อย่างไร เพื่อจะเป็นแนวทางในการสืบสวนสอบสวนติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
เมื่อเวลา 23.45 น.คืนวันที่ 5 ธันวาคม เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า เกิดเหตุยิงกันที่บริเวณสะพาน รอยต่อระหว่างบ้านดอน-บ้านเชิงทะเล ต.เชิงทะเล อ.ถลาง มีผู้เสียชีวิต ให้เดินทางไปตรวจสอบด้วย จึงรายงานให้ พ.ต.อ.วิฑูรย์ กองสุดใจ ผกก.สภ.เชิงทะเล ทราบ พร้อมนำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน และเจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ตไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุอยู่บนช่องจราจร เส้นทางจากบ้านดอนมุ่งหน้าไปบ้านเชิงทะเล ต.เชิงทะเล พบศพ นายนฤเดช พรหมชัย อายุ 17 ปี อยู่บ้านเลขที่ 230 หมู่ 6 ต.ศรีสุนทร อ.ถลาง จ.ภูเก็ต สวมเสื้อแจกเก็ตแขนยาวสีดำ นุ่งกางเกงขายาว สีกรมท่า นอนหงายจมกองเลือดอยู่บนพื้นถนน สภาพศพถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาด เข้าที่บริเวณสะบักหลังด้านขวาจำนวน 1 นัด กระสุนฝังใน จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุไม่พบหัวกระสุน หรือปลอกกระสุนของทูตมรณะแต่อย่างใด จึงมอบศพให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ตนำส่งชันสูตรที่โรงพยาบาลถลาง เพื่อผ่าเอาหัวกระสุนออก
จากการสอบสวนชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุนายนฤเดชได้นั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ไม่ทราบยี่ห้อ สี และหมายเลขทะเบียน โดยมีเพื่อนชายเป็นคนขับ ออกจากบ้านตีนเล ต.เชิงทะเล อ.ถลาง มุ่งหน้าไปบ้านดอน ต.ศรีสุนทร อ.ถลาง เพื่อจะกลับบ้านพักที่อยู่บริเวณบ้านยา ต.ศรีสุนทร ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 2 กิโลเมตร เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุได้มีชายวัยรุ่น 2 คน ขี่รถจักรยานยนต์ประกบข้างรถนายนฤเดช
จากนั้นวัยรุ่นที่นั่งซ้อนท้ายได้ชักปืนออกมาจ่อยิงนายนฤเดชจำนวน 1 นัด กระสุนพุ่งเข้าที่สะบักหลังด้านขวา ทำให้นายนฤเดชตกจากรถจักรยานยนต์ลงไปนอนจมกองเลือดที่พื้น ส่วนเพื่อนที่เป็นคนขับได้ขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป ปล่อยให้นายนฤเดชนอนเสียชีวิตอยู่ที่พื้นถนนเพียงลำพัง จากนั้นคนร้ายได้ขี่รถจักรยานยนต์เลี้ยวกลับแล้วหลบหนีไปทางบ้านเชิงทะเล ต.เชิงทะเล และหายไปกับความมืด
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งไว้ 2 ประเด็นหลัก คือ ฆ่าชำระแค้นกันในกลุ่มวัยรุ่น และเรื่องชู้สาว ซึ่งจะได้ติดตามเพื่อนนายนฤเดช ที่เป็นคนขี่รถจักรยานยนต์คันดังกล่าวมาสอบปากคำว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับการสังหารนายนฤเดชมากน้อยหรือไม่ อย่างไร เพื่อจะเป็นแนวทางในการสืบสวนสอบสวนติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
