ศูนย์ข่าวภูเก็ต-จังหวัดภูเก็ตร่วมลงนามบันทึกข้อตกลง กับห้างสรรพสินค้าและหน่วยงานภาครัฐ ตามโครงการ “ภูเก็ตปลอดถุงพลาสติก” เริ่มดีเดย์วันแห่งความรัก 14 ก.พ.ที่จะถึงนี้ หวังลดปริมาณขยะเข้าเตาเผาและรักษาสิ่งแวดล้อมภูเก็ตให้ยั่งยืน
วันนี้ (4 ธ.ค.) นายวิชัย ไพรสงบ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานในการลงนามบันทึกข้อตกลงร่วมตามโครงการ "ภูเก็ตปลอดถุงพลาสติก" ระหว่างจังหวัดภูเก็ตกับห้างสรรพสินค้าและผู้แทนกระทรวงในจังหวัดภูเก็ต โดยมี หัวหน้าส่วนราชการ ตัวแทนห้างร้านต่างๆ ในจังหวัดภูเก็ต และแขกผู้มีเกียรติเข้าร่วมลงนามและเป็นสักขีพยาน ณ ห้องประชุมศาลากลาง (หลังใหม่)
นายวิชัย ไพรสงบ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากวันที่ 4 ธันวาคม เป็นวันสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ จังหวัดภูเก็ตจึงได้กำหนดจัดให้เป็นวันลงนามในบันทึกข้อตกลงร่วม ระหว่างจังหวัดภูเก็ตกับบริษัทห้างร้านต่างๆ และส่วนราชการในจังหวัดภูเก็ต เพื่อแสดงเจตนารมณ์ร่วมในการลดใช้ถุงพลาสติกให้ได้ไม่น้อยกว่า 5,000 ตันต่อปี ซึ่งจะสามารถลดการนำเข้าพลังงานที่ใช้ผลิตถุงพลาสติกเทียบเท่าน้ำมันดิบกว่า 8 ล้านลิตรต่อปี
สำหรับโครงการ "ภูเก็ตปลอดถุงพลาสติก" นั้นถือเป็นหนึ่งในโครงการ "ภูเก็ตเขียว" มียุทธศาสตร์ในการดำเนินการ 3 ด้านคือ ด้านพิทักษ์สิ่งแวดล้อม ด้านการนำพลังงานทดแทนมาใช้ในทุกรุปแบบ และด้านการลดใช้พลังงานจากฟอสซิล ที่ผ่านมาจังหวัดโดยคณะทำงานได้มีการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการจัดทำโครงการตลาดนัดพลังงาน โครงการพลังงานชุมชน และโครงการสร้างอาสาสมัครพลังงานชุมชน ฯลฯ ซึ่งได้ผลรับเป็นที่น่าพอใจอย่างมาก
ในส่วนของโครงการ "ภูเก็ตปลอดถุงพลาสติก" คณะทำงานได้เล็งเห็นว่าปัญหาขยะของจังหวัดภูเก็ตเป็นปัญหาที่ต้องรีบแก้ไขอย่างเร่งด่วน เนื่องจากในปัจจุบันปริมาณขยะในจังหวัดภูเก็ตโดยรวมแล้วมีมากกว่า 500 ตันต่อวัน แต่เรามีเตาเผาขยะที่สามารถรองรับการกำจัดได้เพียง 250 ตันต่อวันเท่านั้น ทำให้เกิดปัญหาขยะสะสม ซึ่งต้องใช้วิธีการกำจัดด้านอื่นเข้ามาทดแทน อาทิ การฝังกลบ เป็นต้น แต่ก็มีพื้นที่รองรับได้เพียงจำกัด อีกทั้งยังมีผลกระทบต่อสภาพสิ่งแวดล้อมและมลภาวะต่อชุมชนข้างเคียงอีกด้วย
ดังนั้น คณะทำงานจึงเล็งเห็นว่า มีความจำเป็นที่จะต้องหาวิธีอย่างอื่นเข้ามาช่วยเหลือ เพื่อทำให้ปริมาณขยะลดลง อาทิ การสร้างจิตสำนึกให้ประชาชนและชุมชนในการหยุดหรือลดการเพิ่มขยะ การคัดแยกขยะ เป็นต้น
ในส่วนของการลดปริมาณขยะนั้น คณะทำงานเห็นว่าเป็นเรื่องของการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุที่ดีที่สุด จึงได้มีการรณรงค์สร้างจิตสำนึกแก่นักเรียนในโรงเรียน ส่วนราชการ รวมทั้งการฝึกอบรมประชาชนในการนำขยะมาผลิตก๊าซชีวภาพในชุมชน และการฝึกอบรมอาสาสมัครพลังงานประจำตำบล เพื่อช่วยเป็นแกนนำในหมู่บ้านในการลดการใช้พลังงาน และนำพลังงานทดแทนมาใช้ประโยชน์ให้มากที่สุด
จากการที่ได้ให้คณะทำงานออกประชาสัมพันธ์โครงการ "ภูเก็ตปลอกถุงพลาสติก" กับบรรดาส่วนราชการ และบริษัทห้างร้านต่างๆ นั้น ก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ซึ่งทุกภาคส่วนสามารถเข้าร่วมโครงการได้ทันที โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายด้านงบประมาณแต่อย่างใด โดยเป็นการเชิญชวนประชาชน และผู้ร่วมในโครงการได้นำถุงผ้ามาใช้แทนถุงพลาสติกเมื่อเวลาไปจ่ายตลาดหรือซื้อของตามห้างร้านต่างๆ
พร้อมทั้งขอความร่วมมือไปยังบริษัทห้างร้านต่างๆ ให้ความร่วมมือ โดยงดการแจกถุงพลาสติกฟรีแก่ลูกค้า แต่เปลี่ยนมาเป็นการซื้อแทนหากลุกค้าต้องการ ซึ่งวิธีการเช่นนี้ในหลายประเทศทั่วโลกเริ่มใช้กันแล้ว เช่น สาธารณรัฐประชาชนจีน ไต้หวัน ฮ่องกง แคนนาดา เดนมาร์ก สวีเดน ฯลฯ โดยจากสถิติพบว่าสามารถลดการใช้ถุงพลาสติกไปได้ 40-60 % เลยทีเดียว
การลงนามบันทึกข้อตกลงร่วมในวันนี้ ทางบริษัทห้างร้านต่างๆ และส่วนราชการ ที่ได้เข้าร่วมโครงการ "ภูเก็ตปลอดถุงพลาสติก" ได้ตกลงกำหนดให้วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2553 ซึ่งเป็นวันแห่งความรัก และวันรักษ์ภูเก็ต เป็นวันเริ่ม Kick off ดังนั้นช่วงเวลาตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป จึงขอให้หน่วยงานต่างๆ ได้ช่วยกันประชาสัมพันธ์เพื่อให้ประชาชนได้รับทราบวัตถุประสงค์ของโครงการเป็นการสร้างแนวร่วม และพร้อมให้ความร่วมมือกับการนำถุงผ้ามาใช้แทนถุงพลาสติกต่อไป
สำหรับห้างสรรพสินค้าที่เข้าร่วมโครงการภูเก็ตปลอดถุงพลาสติก ประกอบด้วย ห้างสรรพสินค้าในเครือเซ็นทรัล ห้างบิ๊กซี ห้างสรรพสินค้าโอเชียนภูเก็ตและป่าตอง บิ๊กวัน ซุปเปอร์ซีบ ภูเก็ตโกรเซอรี่ แฟมิรี่ มาร์ท อินเด็กซ์ ลิฟวิ่ง มอลล์ เอส บี เฟอร์นิเจอร์ 108 Shop เฟรชมาร์ท ท็อปซุปเปอร์มาร์เก็ต ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน เป็นต้น
