ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - สถานการณ์น้ำท่วมที่จ.สงขลา ยังคงขยายวงกว้างเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องล่าสุดมีพื้นที่ซึ่งถูกน้ำท่วมเพิ่มเป็น9 อำเภอ 40 ตำบล 241หมู่บ้าน ชาวบ้านเดือดร้อน 86,627 คน 23,251 ครัวเรือน อพยพไปอยู่ในที่ปลอดภัย 291 คน มูลค่าความเสียหายกว่า 33 ล้านบาท ส่วนรถไฟรถเส้นทางหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ เปิดเดินแล้ว
วันนี้ (22 พ.ย.) เจ้าหน้าที่จากศูนย์อุทกวิทยาและทรัพยากรน้ำภาคใต้ลงพื้นที่สำรวจระดับและปริมาณน้ำตามลำคลองต่างๆ ในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เพื่อประเมินสถานการณ์หลังจากที่ยังมีฝนตกหนักติดต่อกันโดยพบว่าลำคลองในพื้นที่รอบนอกระดับน้ำเริ่มลดลงอย่างต่อเนื่อง แต่ที่น่าเป็นห่วงขณะนี้คือระดับน้ำในคลองอู่ตะเภา และคลองระบายน้ำ ร.1 ซึ่งทำหน้าที่ระบายน้ำลงสู่ทะเลสาบสงขลา เนื่องจากระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งระดับน้ำที่เพิ่มขึ้นส่วนหนึ่งมาจากน้ำที่ระบายจากแก้มลิงในพื้นที่ ต.คอหงส์ ที่รับน้ำจากเขาคอหงส์จนเต็มพิกัดจนต้องระบายออก ซึ่งชาวบ้านที่อยู่สองฝั่งคลองของคลองอู่ตะเภาและคลองระบายน้ำ ร.1 ยังอยู่ในภาวะเสี่ยงที่จะเกิดน้ำเอ่อล้นเข้าท่วมและต้องเตรียมพร้อมตลอด24 ชั่วโมง
สถานการณ์น้ำในคลองอู่ตะเภาและคลองระบายน้ำร.1 ซึ่งเป็นคลองรับน้ำก่อนระบายลงสู่ทะเลสาบสงขลา เข้าขั้นวิกฤต ล่าสุดทางเทศบาลนครหาดใหญ่ได้ยกระดับการเตือนภัยน้ำท่วมของคลองทั้งสองแห่งอยู่ในขั้นที่สองโดยเปลี่ยนจากธงเขียวเป็นธงเหลือง ให้ประชาชนติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิดเนื่องจากระดับน้ำทั้งสองคลองต่ำกว่าตลิ่งน้อยกว่า1.50 เมตร ขณะที่ประชาชนที่อาศัยอยู่ในเขตเทศบาลนครหาดใหญ่จำนวนมากยังคงเดินทางมาเฝ้าดูระดับทั้งสองคลองอย่างใกล้ชิดเพื่อเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์น้ำท่วมฉุกเฉิน
ขณะเดียวกัน ภาวะฝนที่ยังคงตกหนักได้ส่งผลให้หลายพื้นที่ของ จ.สงขลา เกิดภาวะน้ำท่วมหนัก โดยเฉพาะในพื้นที่ ต.เกาะยอ อ.เมืองสงขลา น้ำป่าจากภูเขาเทวดา ได้ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนและเส้นทางจรจารบริเวณห้าแยกเกาะยออย่างหนัก การจราจรติดขัดและรถเล็กไม่สามารถผ่านไปมาได้ ส่งผลกระทบต่อการเดินทางเนื่องจากบริเวณห้าแยกเกาะยอเป็นจุดเชื่อมต่อระหว่าง3 อำเภอ คือ อ.เมือง อ.หาดใหญ่ และอ.สิงนคร
ส่วนความคืบหน้าเหตุน้ำท่วมรางรถไฟในพื้นที่หมู่ 5 ต.พังลา อ.สะเดา จ.สงขลา ตั้งแต่เมื่อวานนี้ (21 พ.ย.)ส่งผลให้รถไฟระหว่างสถานีหาดใหญ่ถึงสถานีปาดังเบซาร์ ต้องหยุดเดินรถชั่วคราว
ล่าสุด นายทนงศักดิ์ พงษ์ประเสริฐ ผู้อำนวยการศูนย์ภาคใต้การรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า เส้นทางดังกล่าวสามารถเปิดเดินรถได้ตามปกติแล้วตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมาหลังจากที่ระดับน้ำที่ท่วมรางลดลงและฝ่ายซ่อมบำรุงทางได้เข้าไปตรวจสอบสภาพรางพบว่าไม่ได้รับความเสียหายแต่อย่างใดและสามารถเปิดเดินรถได้ทุกขบวนทั้งขบวนรถระหว่างประเทศและขบวนขนส่งสินค้า
อย่างไรก็ตาม ในระหว่างนี้ได้สั่งการให้มีการสำรวจเส้นทางสายใต้ตั้งแต่จ.นครศรีธรรมราชรวมถึงเส้นทาง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นพิเศษ โดยเฉพาะจุดที่เกิดน้ำท่วมรางซ้ำซากเพื่อเข้าไปดำเนินการแก้ไข