พัทลุง - เกิดเหตุบนถนนสายโคกขาม-ท่าควาย คนร้ายใช้อาวุธปืน .38 ยิงผู้ตายขณะขับรถจักรยานยนต์กลับจากตัดหญ้าให้โค เจ้าหน้าที่เชื่อสาเหตุมาจากความขัดแย้งส่วนตัวและผู้ตายเป็นพยานปากเอกในคดีงัดเซฟวัดเมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา
วันนี้ (22 พ.ย.) เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. พ.ต.ท.วิสุทธิ์ ข้องจิตรพนักงานสอบสวน (สบ.2) สภ.เขาชัยสน ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า มีเหตุยิงกันได้รับบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตขณะเข้ารักษาตัวใน รพ.เขาชัยสน เหตุเกิดบนถนนสายโคกขาม-ท่าควาย ท้องที่ ม.8 ต.เขาชัยสน อ.เขาชัยสน จ.พัทลุง จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และรุดไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.วิศัลย์ ศุภวงศ์ ผกก.สภ.เขาชัยสน พ.ต.ท.ศิริวัฒน์ โมรานนท์ รอง ผกก.(ปป.) พ.ต.ต.กิติพัฒน์ วัฒนเสน สวป. นายตำรวจที่เกี่ยวข้อง และร่วมชันสูตรพลิกศพกับแพทย์เวร รพ.เขาชัยสน ทราบว่าผู้เสียชีวิตรายนี้ คือ นายพัน เรือดรอด อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 53 ม.8 ต.เขาชัยสน อ.เขาชัยสน จ.พัทลุง สภาพศพถูกยิงด้วยอาวุธปืน .38 เข้าที่บริเวณศีรษะด้านขวากระสุนฝังใน และมือทั้ง 2 ข้าง รวม 3 นัด
ส่วนในที่เกิดเหตุตำรวจพบหัวกระสุนอาวุธปืน .38 ตกอยู่ 1 หัว จึงเก็บไปเป็นหลักฐานในการสืบสวนสอบสวนหาตัวคนร้ายมาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
จากการสอบสวนในขั้นต้นทราบว่า ผู้ตายมีอาชีพทำสวนยางพารา และมีความประพฤติเรียบร้อย ก่อนเกิดเหตุผู้ตายขี่จักรยานยนต์ไปตัดหญ้าเพื่อเตรียมไว้ให้โคได้กินในช่วงน้ำท่วม บริเวณริมถนนสายโคกขาม-ท่าควาย ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านพักผู้ตายประมาณ 250 เมตร ในขณะที่ผู้ตายตัดหญ้าเสร็จและเตรียมตัวจะกลับบ้านก็ได้มีคนร้าย 2 คน ขี่จักรยานยนต์สีดำ (ไม่ทราบยี่ห้อและทะเบียน) โดยมีเข่งใส่หญ้ามาด้วย เพื่อทำทีเป็นตนตัดหญ้าให้ผู้ตายตายใจ เมื่อคนร้ายขี่จักรยานยนต์มาใกล้ตัวผู้ตายคนร้ายที่นั่งหลังได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่ผู้ตายในระยะเผาขนจนผู้ตายล้มลงจมกองเลือด จากนั้นคนร้ายได้ลงมายิงใส่อีก 2 นัด ก่อนที่จะเดินไปนั่งซ้อนท้าย จักรยานยนต์ขับหลบหนีไปตามเส้นทางถนนท่าควาย-เขาชัยสน
ด้าน พล.ต.ต.กิตติสัณห์ เดชสุนทรวัฒน์ ผบก.ภ.จว.พัทลุง กล่าวว่า สำหรับประเด็นสังหารในคดีนี้ ในเบื้องต้นตำรวจมุ่งไปในประเด็นความขัดแย้งเรื่องส่วนตัว และประเด็นที่ผู้ตายเห็นเหตุการณ์ที่กลุ่มคนร้าย 3 คน เข้าไปงัดกุฏิพระปลัดฉ้อง อุตธมฺโม อายุ 45 ปี เจ้าอาวาสวัดหัวหรั่ง ซึ่งกุฏิหลังดังกล่าว อยู่ด้านหลังของวัดและอยู่ใกล้บ้านผู้ตายโดยกลุ่มคนร้ายได้ยกเซฟซึ่งบรรจุเงินประมาณ 3 แสนบาท ก่อนที่จะบรรทุกรถกระบะขับหลบหนีไปอย่างลอยนวล โดยเหตุเกิดประมาณ 2 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งก่อนหน้านี้กลุ่มคนร้ายเคยเข้าไปงัดกุฏิหลังดังกล่าวไปแล้ว 1 ครั้ง ทางวัดจึงนำเหล็กดัดมาใส่ เพื่อป้องกันการงัดประตูกุฏิแต่คนร้ายก็ตัดเหล็กดัดเข้าไปยกเซฟเงินสดหลบไปได้
พล.ต.ต.กิตติสัณห์ กล่าวอีกว่า ในด้านการสืบสวนสอบสวนในคดียกเค้าเซฟเงินสดของวัดในครั้งนี้ในขณะนี้ พ.ต.อ.พ.ต.อ.วิศัลย์ ศุภวงศ์ ผกก.สภ.เขาชัยสน กำลังรวบรวมพยานหลักฐานยื่นต่อศาล จ.พัทลุง
เพื่อขออนุมัติหมายจับต่อศาล จ.พัทลุง ซึ่งคนร้ายคาดว่าผู้ตายที่เห็นเหตุการณ์การยกเค้าเซฟเจ้าอาวาส น่าจะเป็นพยานปากเอกในคดีดังกล่าว จึงส่งมือปืนมาปลิดชีพดังกล่าว ในส่วนประเด็นความขัดแย้งเรื่องส่วนตัว ในเรื่องที่ผู้ตายเป็นคนกลางในการเจรจาคดีทำร้ายร่างกาย แต่ผู้กระทำความผิดไม่ยอมจ่ายเงินให้ผู้เสียหาย จนทำให้เกิดความขัดแย้งกันระหว่างผู้ตายกับผู้กระทำความผิด
วันนี้ (22 พ.ย.) เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. พ.ต.ท.วิสุทธิ์ ข้องจิตรพนักงานสอบสวน (สบ.2) สภ.เขาชัยสน ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า มีเหตุยิงกันได้รับบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตขณะเข้ารักษาตัวใน รพ.เขาชัยสน เหตุเกิดบนถนนสายโคกขาม-ท่าควาย ท้องที่ ม.8 ต.เขาชัยสน อ.เขาชัยสน จ.พัทลุง จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และรุดไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.วิศัลย์ ศุภวงศ์ ผกก.สภ.เขาชัยสน พ.ต.ท.ศิริวัฒน์ โมรานนท์ รอง ผกก.(ปป.) พ.ต.ต.กิติพัฒน์ วัฒนเสน สวป. นายตำรวจที่เกี่ยวข้อง และร่วมชันสูตรพลิกศพกับแพทย์เวร รพ.เขาชัยสน ทราบว่าผู้เสียชีวิตรายนี้ คือ นายพัน เรือดรอด อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 53 ม.8 ต.เขาชัยสน อ.เขาชัยสน จ.พัทลุง สภาพศพถูกยิงด้วยอาวุธปืน .38 เข้าที่บริเวณศีรษะด้านขวากระสุนฝังใน และมือทั้ง 2 ข้าง รวม 3 นัด
ส่วนในที่เกิดเหตุตำรวจพบหัวกระสุนอาวุธปืน .38 ตกอยู่ 1 หัว จึงเก็บไปเป็นหลักฐานในการสืบสวนสอบสวนหาตัวคนร้ายมาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
จากการสอบสวนในขั้นต้นทราบว่า ผู้ตายมีอาชีพทำสวนยางพารา และมีความประพฤติเรียบร้อย ก่อนเกิดเหตุผู้ตายขี่จักรยานยนต์ไปตัดหญ้าเพื่อเตรียมไว้ให้โคได้กินในช่วงน้ำท่วม บริเวณริมถนนสายโคกขาม-ท่าควาย ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านพักผู้ตายประมาณ 250 เมตร ในขณะที่ผู้ตายตัดหญ้าเสร็จและเตรียมตัวจะกลับบ้านก็ได้มีคนร้าย 2 คน ขี่จักรยานยนต์สีดำ (ไม่ทราบยี่ห้อและทะเบียน) โดยมีเข่งใส่หญ้ามาด้วย เพื่อทำทีเป็นตนตัดหญ้าให้ผู้ตายตายใจ เมื่อคนร้ายขี่จักรยานยนต์มาใกล้ตัวผู้ตายคนร้ายที่นั่งหลังได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่ผู้ตายในระยะเผาขนจนผู้ตายล้มลงจมกองเลือด จากนั้นคนร้ายได้ลงมายิงใส่อีก 2 นัด ก่อนที่จะเดินไปนั่งซ้อนท้าย จักรยานยนต์ขับหลบหนีไปตามเส้นทางถนนท่าควาย-เขาชัยสน
ด้าน พล.ต.ต.กิตติสัณห์ เดชสุนทรวัฒน์ ผบก.ภ.จว.พัทลุง กล่าวว่า สำหรับประเด็นสังหารในคดีนี้ ในเบื้องต้นตำรวจมุ่งไปในประเด็นความขัดแย้งเรื่องส่วนตัว และประเด็นที่ผู้ตายเห็นเหตุการณ์ที่กลุ่มคนร้าย 3 คน เข้าไปงัดกุฏิพระปลัดฉ้อง อุตธมฺโม อายุ 45 ปี เจ้าอาวาสวัดหัวหรั่ง ซึ่งกุฏิหลังดังกล่าว อยู่ด้านหลังของวัดและอยู่ใกล้บ้านผู้ตายโดยกลุ่มคนร้ายได้ยกเซฟซึ่งบรรจุเงินประมาณ 3 แสนบาท ก่อนที่จะบรรทุกรถกระบะขับหลบหนีไปอย่างลอยนวล โดยเหตุเกิดประมาณ 2 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งก่อนหน้านี้กลุ่มคนร้ายเคยเข้าไปงัดกุฏิหลังดังกล่าวไปแล้ว 1 ครั้ง ทางวัดจึงนำเหล็กดัดมาใส่ เพื่อป้องกันการงัดประตูกุฏิแต่คนร้ายก็ตัดเหล็กดัดเข้าไปยกเซฟเงินสดหลบไปได้
พล.ต.ต.กิตติสัณห์ กล่าวอีกว่า ในด้านการสืบสวนสอบสวนในคดียกเค้าเซฟเงินสดของวัดในครั้งนี้ในขณะนี้ พ.ต.อ.พ.ต.อ.วิศัลย์ ศุภวงศ์ ผกก.สภ.เขาชัยสน กำลังรวบรวมพยานหลักฐานยื่นต่อศาล จ.พัทลุง
เพื่อขออนุมัติหมายจับต่อศาล จ.พัทลุง ซึ่งคนร้ายคาดว่าผู้ตายที่เห็นเหตุการณ์การยกเค้าเซฟเจ้าอาวาส น่าจะเป็นพยานปากเอกในคดีดังกล่าว จึงส่งมือปืนมาปลิดชีพดังกล่าว ในส่วนประเด็นความขัดแย้งเรื่องส่วนตัว ในเรื่องที่ผู้ตายเป็นคนกลางในการเจรจาคดีทำร้ายร่างกาย แต่ผู้กระทำความผิดไม่ยอมจ่ายเงินให้ผู้เสียหาย จนทำให้เกิดความขัดแย้งกันระหว่างผู้ตายกับผู้กระทำความผิด