สุราษฎร์ธานี- จังหวัดสุราษฎร์ธานี น้อมนำพระราชเสาวนีย์ตั้งกลุ่ม 299 แห่ง โครงการธนาคารต้นไม้ คาดปี 53 ปลูกป่าได้กว่า 1.4 ล้านต้น
นายดำริห์ บุญจริง ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า จากการที่สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ได้มีพระราชเสาวนีย์ให้ประชาชนในทุกภาคส่วนได้ตระหนักและเห็นความสำคัญของป่าไม้และแหล่งน้ำ โดยช่วยดูแล รักษา และฟื้นฟูทรัพยากรป่าไม้และสิ่งแวดล้อม โดยใช้แนวทางตามที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เคยตรัสไว้ตอนหนึ่ง ความว่า เจ้าหน้าที่ป่าไม้ควรจะปลูกต้นไม้ลงในใจคนเสียก่อน แล้วคนเหล่านั้นก็พากันปลูกต้นไม้ลงบนแผ่นดินและรักษาต้นไม้ด้วยตนเอง
ประกอบกับได้ทรงมีพระราชดำรัสเกี่ยวกับแนวคิดการปลูกป่า โดยให้ใช้วิธีปลูก 3 อย่าง แต่ประโยชน์ 4 อย่าง คือ ไม้ใช้สอย ไม้กินได้ และไม้เศรษฐกิจ โดยปลูกรองรับการชลประทาน ปลูกรับซับน้ำและปลูกอุดช่วงไหล่ตามร่องห้วยโดยรับน้ำฝนอย่างเดียวและอนุรักษ์ดินและน้ำ
จังหวัดสุราษฎร์ธานี จึงได้น้อมนำพระราชเสาวนีย์ดังกล่าวมาสู่การปฏิบัติที่เป็นรูปธรรม โดยการจัดทำโครงการธนาคารต้นไม้ขึ้น ซึ่งโครงการดังกล่าวมีแนวคิดที่จะให้ภาคประชาชนโดยเฉพาะเกษตรกรปลูกต้นไม้เศรษฐกิจในที่ดินทำกินของตนเอง เพื่อสร้างมูลค่าและใช้ทรัพย์สินดังกล่าวเป็นทุน
ทั้งนี้ มีเป้าหมายให้หน่วยงานราชการองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รณรงค์ให้ประชาชนในพื้นที่รวมกลุ่มเพื่อจัดตั้งธนาคารต้นไม้ โดยมีเป้าหมายจำนวน 299 แห่ง แต่ละแห่งปลูกไม้ต่ำกว่า 5,000 ต้น และคาดว่าภายในปี 2553 จังหวัดสุราษฎร์ธานีจะมีต้นไม้ไม่ต่ำกว่า 1,490,000 ต้น
สำหรับโครงการดังกล่าวจะเพิ่มพื้นที่ป่าให้กับจังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยมีประชาชนเป็นเจ้าของและดูแลต้นไม้ที่ตนเองปลูกไว้ เพื่อให้เกิดความยั่งยืน และถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ เนื่องในวโรกาสมหามงคล เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ 77 พรรษา มหาราชินี ในวันที่ 12 สิงหาคม 2553
นายดำริห์ บุญจริง ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า จากการที่สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ได้มีพระราชเสาวนีย์ให้ประชาชนในทุกภาคส่วนได้ตระหนักและเห็นความสำคัญของป่าไม้และแหล่งน้ำ โดยช่วยดูแล รักษา และฟื้นฟูทรัพยากรป่าไม้และสิ่งแวดล้อม โดยใช้แนวทางตามที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เคยตรัสไว้ตอนหนึ่ง ความว่า เจ้าหน้าที่ป่าไม้ควรจะปลูกต้นไม้ลงในใจคนเสียก่อน แล้วคนเหล่านั้นก็พากันปลูกต้นไม้ลงบนแผ่นดินและรักษาต้นไม้ด้วยตนเอง
ประกอบกับได้ทรงมีพระราชดำรัสเกี่ยวกับแนวคิดการปลูกป่า โดยให้ใช้วิธีปลูก 3 อย่าง แต่ประโยชน์ 4 อย่าง คือ ไม้ใช้สอย ไม้กินได้ และไม้เศรษฐกิจ โดยปลูกรองรับการชลประทาน ปลูกรับซับน้ำและปลูกอุดช่วงไหล่ตามร่องห้วยโดยรับน้ำฝนอย่างเดียวและอนุรักษ์ดินและน้ำ
จังหวัดสุราษฎร์ธานี จึงได้น้อมนำพระราชเสาวนีย์ดังกล่าวมาสู่การปฏิบัติที่เป็นรูปธรรม โดยการจัดทำโครงการธนาคารต้นไม้ขึ้น ซึ่งโครงการดังกล่าวมีแนวคิดที่จะให้ภาคประชาชนโดยเฉพาะเกษตรกรปลูกต้นไม้เศรษฐกิจในที่ดินทำกินของตนเอง เพื่อสร้างมูลค่าและใช้ทรัพย์สินดังกล่าวเป็นทุน
ทั้งนี้ มีเป้าหมายให้หน่วยงานราชการองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รณรงค์ให้ประชาชนในพื้นที่รวมกลุ่มเพื่อจัดตั้งธนาคารต้นไม้ โดยมีเป้าหมายจำนวน 299 แห่ง แต่ละแห่งปลูกไม้ต่ำกว่า 5,000 ต้น และคาดว่าภายในปี 2553 จังหวัดสุราษฎร์ธานีจะมีต้นไม้ไม่ต่ำกว่า 1,490,000 ต้น
สำหรับโครงการดังกล่าวจะเพิ่มพื้นที่ป่าให้กับจังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยมีประชาชนเป็นเจ้าของและดูแลต้นไม้ที่ตนเองปลูกไว้ เพื่อให้เกิดความยั่งยืน และถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ เนื่องในวโรกาสมหามงคล เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ 77 พรรษา มหาราชินี ในวันที่ 12 สิงหาคม 2553