นครศรีธรรมราช - เกิดเหตุคนร้ายยิง ผู้ใหญ่บ้านใน อ.ปากพนัง เสียชีวิตคาที่ ส่วนคนร้ายหนีรอดไปได้ทามกลางความมืด เจ้าหน้าที่เชื่อเป็นประเด็นขัดแย้งกันภายในท้องถิ่น เพราะผู้ตายได้ส่งลูกชายชนะเลือกตั้งไปนั่งในตำแหน่งรองนายก
วันนี้ (16 พ.ย.) พ.ต.ท.ไชยยันต์ บัณฑิต สว.เวรสอบสวน สภ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช รับแจ้งเหตุฆ่ากันตายที่หน้าบ้านเลขที่ 51 ม.4 ต.บ้านใหม่ อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช ผู้ตายมีตำแหน่งเป็นผู้ใหญ่บ้านในท้องที่ดังกล่าว หลังจากนั้นจึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.วีระพล มั่นเมือง ผกก. พ.ต.ท.ประภาส รอดเกลี้ยง สวป. กำลังสายตรวจตำบล ชุดสืบสวน ฝ่ายปกครอง และแพทย์เวรชันสูตร รพ.ปากพนัง
หลังจากเข้าถึงที่เกิดเหตุพบผู้เสียชีวิตทราบชื่อต่อมา คือ นายธรรมรงค์ ขวัญศรี อายุ 59 ปี ผู้ใหญ่บ้าน ม.4 ต.บ้านใหม่ อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช ถูกยิงเสียชีวิตหน้าบ้านพักของตัวเอง เบื้องต้นพบว่าถูกยิงด้วยอาวุธปืนเข้าบริเวณศีรษะ ลำตัว หน้าท้องและแผ่นหลังรวม 5 นัด ในที่เกิดเหตุยังพบปลอกกระสุนปืน 2 ชนิด คือขนาด 11 มม. และ 9 มม.รวม 5 ปลอก เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐานเพื่อตรวจสอบอาวุธปืนที่ใช้ยิง
สอบสวนพฤติการก่อนเกิดเหตุทราบว่า นายธรรมรงค์ผู้ตายได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนกลับมาจากร่วมงานศพลูกบ้าน เมื่อมาถึงหน้าบ้านตัวเอง เชื่อว่ามีคนร้ายไม่ต่ำกว่า 2 คนรออยู่แล้ว เมื่อได้จังหวะคนร้ายได้ใช้อาวุธปืน 2 ชนิดยิงเข้าใส่นายธรรมรงค์เสียชีวิตคาที่ ก่อนจะหลบหนีหายไปในความมืดโดยที่ไม่มีใครเห็น เมื่อสิ้นเสียงปืนภรรยาและลูกที่อยู่ในบ้านได้วิ่งออกมาดูจึงพบว่านายธรรมรงค์เสียชีวิตไปแล้ว
พ.ต.ท.ประภาส รอดเกลี้ยง สวป.สภ.ปากพนัง เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ที่ ต.บ้านใหม่ อ.ปากพนัง นครศรีธรรมราช ได้มีการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) บ้านใหม่ นายธรรมรงค์ผู้ตายได้ส่งลูกชายลงในทีมบริหารในตำแหน่งรองนายก อบต. ซึ่งเป็นทีมหน้าใหม่ การหาเสียงในช่วงนั้นเต็มไปด้วยความดุเดือดหาเสียงกันอย่างเข้มข้นและเมื่อมีการลงคะแนนปรากฏว่าทีมของลูกชายนายธรรมรงค์สามารถเอาชนะเข้าสู่ตำแหน่งบริหารได้ ลูกชายของนายธรรมรงค์ไปนั่งในตำแหน่งรองนายก
“ประเด็นการเมืองท้องถิ่นเชื่อว่าน่าจะเป็นประเด็นสำคัญที่อาจเป็นมูลเหตุเนื่องจากการแข่งขันทางการเมืองโดยนายธรรมรงค์ไปสร้างความโกรธแค้นในกับคู่แข่งบางคน เมื่อมีการเลือกตั้งเสร็จจึงอาจจะมีการล้างแค้นกันก็เป็นได้ ส่วนประเด็นอื่นๆ นั้นเรายังไม่พบข้อมูล ขณะนี้กำลังเร่งสืบสวนติดตามข้อมูลทุกด้านเพื่อเป็นข้อมูลในการขยายผลหาตัวคนร้ายต่อไปแล้ว”
วันนี้ (16 พ.ย.) พ.ต.ท.ไชยยันต์ บัณฑิต สว.เวรสอบสวน สภ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช รับแจ้งเหตุฆ่ากันตายที่หน้าบ้านเลขที่ 51 ม.4 ต.บ้านใหม่ อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช ผู้ตายมีตำแหน่งเป็นผู้ใหญ่บ้านในท้องที่ดังกล่าว หลังจากนั้นจึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.วีระพล มั่นเมือง ผกก. พ.ต.ท.ประภาส รอดเกลี้ยง สวป. กำลังสายตรวจตำบล ชุดสืบสวน ฝ่ายปกครอง และแพทย์เวรชันสูตร รพ.ปากพนัง
หลังจากเข้าถึงที่เกิดเหตุพบผู้เสียชีวิตทราบชื่อต่อมา คือ นายธรรมรงค์ ขวัญศรี อายุ 59 ปี ผู้ใหญ่บ้าน ม.4 ต.บ้านใหม่ อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช ถูกยิงเสียชีวิตหน้าบ้านพักของตัวเอง เบื้องต้นพบว่าถูกยิงด้วยอาวุธปืนเข้าบริเวณศีรษะ ลำตัว หน้าท้องและแผ่นหลังรวม 5 นัด ในที่เกิดเหตุยังพบปลอกกระสุนปืน 2 ชนิด คือขนาด 11 มม. และ 9 มม.รวม 5 ปลอก เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐานเพื่อตรวจสอบอาวุธปืนที่ใช้ยิง
สอบสวนพฤติการก่อนเกิดเหตุทราบว่า นายธรรมรงค์ผู้ตายได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนกลับมาจากร่วมงานศพลูกบ้าน เมื่อมาถึงหน้าบ้านตัวเอง เชื่อว่ามีคนร้ายไม่ต่ำกว่า 2 คนรออยู่แล้ว เมื่อได้จังหวะคนร้ายได้ใช้อาวุธปืน 2 ชนิดยิงเข้าใส่นายธรรมรงค์เสียชีวิตคาที่ ก่อนจะหลบหนีหายไปในความมืดโดยที่ไม่มีใครเห็น เมื่อสิ้นเสียงปืนภรรยาและลูกที่อยู่ในบ้านได้วิ่งออกมาดูจึงพบว่านายธรรมรงค์เสียชีวิตไปแล้ว
พ.ต.ท.ประภาส รอดเกลี้ยง สวป.สภ.ปากพนัง เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ที่ ต.บ้านใหม่ อ.ปากพนัง นครศรีธรรมราช ได้มีการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) บ้านใหม่ นายธรรมรงค์ผู้ตายได้ส่งลูกชายลงในทีมบริหารในตำแหน่งรองนายก อบต. ซึ่งเป็นทีมหน้าใหม่ การหาเสียงในช่วงนั้นเต็มไปด้วยความดุเดือดหาเสียงกันอย่างเข้มข้นและเมื่อมีการลงคะแนนปรากฏว่าทีมของลูกชายนายธรรมรงค์สามารถเอาชนะเข้าสู่ตำแหน่งบริหารได้ ลูกชายของนายธรรมรงค์ไปนั่งในตำแหน่งรองนายก
“ประเด็นการเมืองท้องถิ่นเชื่อว่าน่าจะเป็นประเด็นสำคัญที่อาจเป็นมูลเหตุเนื่องจากการแข่งขันทางการเมืองโดยนายธรรมรงค์ไปสร้างความโกรธแค้นในกับคู่แข่งบางคน เมื่อมีการเลือกตั้งเสร็จจึงอาจจะมีการล้างแค้นกันก็เป็นได้ ส่วนประเด็นอื่นๆ นั้นเรายังไม่พบข้อมูล ขณะนี้กำลังเร่งสืบสวนติดตามข้อมูลทุกด้านเพื่อเป็นข้อมูลในการขยายผลหาตัวคนร้ายต่อไปแล้ว”
