นครศรีธรรมราช – ผู้ว่าฯ นครศรีธรรมราชแจ้งเตือนพื้นที่เสี่ยงภัย 23 อำเภอ ระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่งและดินโคลนถล่ม หลังมีฝนตกต่อเนื่อง 2 วันแล้ว
วันนี้ (4 พ.ย.) นายธีระ มินทราศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่าหลังจากกรมอุตุนิยมวิทยา ได้รายงานพยากรณ์อากาศถึงกรณีลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมประเทศไทย อ่าวไทย และทะเลอันดามันมีกำลังแรง ทำให้ภาคใต้ฝั่งตะวันออกมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ จึงขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน และพื้นที่ลุ่มของจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง และสงขลา ระมัดระวังอันตรายจากสภาวะน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากที่จะเกิดขึ้นในระยะ 1-2 วันนี้ (4-5 พ.ย.52)
ส่วนคลื่นลมในอ่าวไทยยังคงมีกำลังแรง ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ใกล้ชายฝั่งทะเลภาคใต้ฝั่งตะวันออกระมัดระวังอันตรายจากคลื่นที่ซัดเข้าหาชายฝั่ง และชาวเรือควรระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ เรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 4-7 พฤศจิกายน 2552 และมีรายงานฝนตกและตกหนักต่อเนื่องในหลายพื้นที่ของจังหวัดนครศรีธรรมราช ในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา
ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวต่อว่า ในส่วนของนครศรีธรรมราช ได้สั่งการส่วนราชการ หน่วยงานตลอดจนผู้เกี่ยวข้องจากทุกฝ่ายเพื่อเตรียมความพร้อมรับมือกับเหตุการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่งและดินโคลนถล่มที่อาจจะเกิดขึ้น
โดยเฉพาะในพื้นที่เสี่ยงภัยของ 23 อำเภอในจังหวัด ทั้งนี้เพื่อให้สามารถปฏิบัติงานและให้การช่วยเหลือได้ทันทีที่เกิดเหตุ รวมทั้งเพื่อลดตัวเลขความสูญเสีย จากเหตุการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม จากการสำรวจปริมาณน้ำในแหล่งน้ำต่างๆ พบว่า ขณะนี้มีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นเล็กน้อย บริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำรอบเมือง และในเมืองนครศรีธรรมราช มีน้ำท่วมขังเล็กน้อยในบางแห่ง ขณะที่แหล่งน้ำสำคัญๆ ยังสามารถรองรับปริมาณน้ำที่เพิ่มขึ้นได้ โดยให้ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง
ทั้งนี้ จากข้อมูลของสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครศรีธรรมราช ระบุว่า จังหวัดนครศรีธรรมราช มีพื้นที่เสี่ยงภัยใน 23 อำเภอ รวม 160 ตำบล 935 หมู่บ้าน โดยส่วนใหญ่เป็นพื้นที่เสี่ยงภัยน้ำท่วมขัง 613 หมู่บ้าน, น้ำล้นตลิ่ง 325 หมู่บ้าน, น้ำป่าไหลหลาก 179 หมู่บ้าน และดิน/โคลนถล่ม 97 หมู่บ้าน ซึ่งหากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อประชาชน 326,901 คน จาก 84,291 ครัวเรือน
วันนี้ (4 พ.ย.) นายธีระ มินทราศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่าหลังจากกรมอุตุนิยมวิทยา ได้รายงานพยากรณ์อากาศถึงกรณีลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมประเทศไทย อ่าวไทย และทะเลอันดามันมีกำลังแรง ทำให้ภาคใต้ฝั่งตะวันออกมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ จึงขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน และพื้นที่ลุ่มของจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง และสงขลา ระมัดระวังอันตรายจากสภาวะน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากที่จะเกิดขึ้นในระยะ 1-2 วันนี้ (4-5 พ.ย.52)
ส่วนคลื่นลมในอ่าวไทยยังคงมีกำลังแรง ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ใกล้ชายฝั่งทะเลภาคใต้ฝั่งตะวันออกระมัดระวังอันตรายจากคลื่นที่ซัดเข้าหาชายฝั่ง และชาวเรือควรระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ เรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 4-7 พฤศจิกายน 2552 และมีรายงานฝนตกและตกหนักต่อเนื่องในหลายพื้นที่ของจังหวัดนครศรีธรรมราช ในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา
ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวต่อว่า ในส่วนของนครศรีธรรมราช ได้สั่งการส่วนราชการ หน่วยงานตลอดจนผู้เกี่ยวข้องจากทุกฝ่ายเพื่อเตรียมความพร้อมรับมือกับเหตุการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่งและดินโคลนถล่มที่อาจจะเกิดขึ้น
โดยเฉพาะในพื้นที่เสี่ยงภัยของ 23 อำเภอในจังหวัด ทั้งนี้เพื่อให้สามารถปฏิบัติงานและให้การช่วยเหลือได้ทันทีที่เกิดเหตุ รวมทั้งเพื่อลดตัวเลขความสูญเสีย จากเหตุการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม จากการสำรวจปริมาณน้ำในแหล่งน้ำต่างๆ พบว่า ขณะนี้มีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นเล็กน้อย บริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำรอบเมือง และในเมืองนครศรีธรรมราช มีน้ำท่วมขังเล็กน้อยในบางแห่ง ขณะที่แหล่งน้ำสำคัญๆ ยังสามารถรองรับปริมาณน้ำที่เพิ่มขึ้นได้ โดยให้ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง
ทั้งนี้ จากข้อมูลของสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครศรีธรรมราช ระบุว่า จังหวัดนครศรีธรรมราช มีพื้นที่เสี่ยงภัยใน 23 อำเภอ รวม 160 ตำบล 935 หมู่บ้าน โดยส่วนใหญ่เป็นพื้นที่เสี่ยงภัยน้ำท่วมขัง 613 หมู่บ้าน, น้ำล้นตลิ่ง 325 หมู่บ้าน, น้ำป่าไหลหลาก 179 หมู่บ้าน และดิน/โคลนถล่ม 97 หมู่บ้าน ซึ่งหากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อประชาชน 326,901 คน จาก 84,291 ครัวเรือน