ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ประธานสภาที่ปรึกษาเสริมสร้างสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ (สสต.) เผยในรอบปีที่ผ่านมา มีผลงานที่เห็นเป็นรูปธรรมชัดเจนหลายๆ ด้าน ส่วนความเห็นในเรื่องการเมืองแนะควรมีระยะเวลาให้นานกว่านี้จะได้ทำตามนโยบายได้สำเร็จ
วันนี้ (3 พ.ย.) นายอาซิส เบ็ญหาวัณ ประธานสภาที่ปรึกษาเสริมสร้างสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ กล่าวถึงผลงานในรอบปีที่ผ่านมาว่า สมาชิกสภาที่ปรึกษาเสริมสร้างสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ทุกคน ได้ทำหน้าที่อย่างเต็มความสามารถ โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างสันติสุขให้เกิดขึ้นในพื้นที่ ซึ่งในรอบปีที่ผ่านมา มีผลงานที่เห็นเป็นรูปธรรมชัดเจนหลายๆ ด้าน เช่น การเสนอให้มีการจัดตั้งสำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราวขึ้นภายในบริเวณที่ตั้งของ ศอ.บต. เพื่อทำหน้าที่อำนวยความสะดวกแก่ผู้ที่ต้องการทำหนังสือเดินทาง หรือต่ออายุหนังสือเดินทางเพื่อไปประกอบพิธีฮัจญ์ การผลักดันพระราชบัญญัติ ศอ.บต.เพื่อให้องค์กรแห่งนี้มีกฎหมายรองรับ การขอสนับสนุนทุนการศึกษาจากองค์กรมูฮัมมาดียาห์ ให้แก่นักเรียนไทย เพื่อศึกษาระดับปริญญาตรีในประเทศอินโดนีเซีย รวมทั้งการแก้ไข พ.ร.บ.กฎหมายอิสลาม ว่าด้วยครอบครัวและมรดก
ประธานสภาที่ปรึกษาเสริมสร้างสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ กล่าวด้วยว่าปัญหาอุปสรรคสำคัญที่ทำให้การดำเนินการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ยังไม่ได้ผลเท่าที่ควรนั้น คือความไม่แน่นอนทางการเมือง ซึ่งแต่ละรัฐบาลมีเวลาเพียงสั้นๆ ถ้าหากอายุของรัฐบาลยาวนาน การผลักดันเรื่องต่างๆ จะได้ผลมากขึ้น นโยบายต่างๆที่จะปฏิบัติสามารถทำได้อย่างรวดเร็วขึ้น
นายอาซิส เบ็ญหาวัณ ยังกล่าวถึงแนวทางการดำเนินงานของ ศอ.บต.ในปีงบประมาณ 2553 ว่า ขึ้นอยู่กับนโยบายของการเมือง ที่จะมี พ.ร.บ.ใหม่ขึ้นมา เพราะอาจจะมีนายกรัฐมนตรี เป็น ผอ.ศอ.บต. มีเลขาฯ ระดับซี 11 เท่ากับปลัดกระทรวงมาเป็นแม่บ้าน คิดว่า ศอ.บต.จะมีบทบาทเพิ่มขึ้น และจะมีส่วนในการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้มากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้สมาชิกสภาที่ปรึกษาเสริมสร้างสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้หลายคนมีความเป็นห่วง จากการมีผู้พยายามเปลี่ยนแปลงคำนิยามจังหวัดชายแดนภาคใต้จากเดิม 3 จังหวัดกับ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา ให้เป็น 5 จังหวัด ซึ่งเห็นว่างบประมาณจะกระจายไปที่อื่น แทนที่จะแก้ไขปัญหาสำเร็จในระยะเวลา 5 ปี อาจจะกลายเป็น 10 ปี หรืออาจจะไม่ตรงกับความต้องการของคนในพื้นที่ นี่คือสิ่งที่จะเป็นปัญหา และอยากให้รัฐบาลพิจารณาใหม่ด้วย