นครศรีธรรมราช – เกิดเหตุคนร้ายยิงหลานชายประธาน อปพร.ส่วนน้าเข้าช่วยเสียชีวิตทั้งคู่ ที่ อ.ลานสกา ทางเจ้าหน้าที่คาดน่าจะเป็นปมปัญหาส่วนตัว ขณะนี้ได้ดำเนินการติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีแล้ว
วันนี้ (28 ต.ค.) พ.ต.ต.เทียน ศศิสุวรรณ สารวัตรเวร สภ.ลานสกา นครศรีธรรมราช รับแจ้งเหตุคนร้ายบุกเข้าไปยิงประธาน อปพร.ลานสกา และหลานชายได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดที่บ้านเลขที่ 131 หมู่ 3 ต.ลานสกา อ.ลานสกา หลังจากนั้น จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.ชัยสวัสดิ์ อินทรชมพู ผกก. พ.ต.ท.สมปอง พรหมเรืองโชติ รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.มานพ โฆษิตอนันต์ รอง ผกก.ป. พ.ต.ท.อำนาจ สำแดง สว.สส. พ.ต.ท.ราเชนทร์ พนัสพจนามาตย์ สวป.
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบว่าผู้บาดเจ็บได้ถูกญาติช่วยกันนำตัวส่ง รพ.ลานสกา แล้ว ทราบชื่อคือนายณรงค์ศักดิ์ ไกรถาวร อายุ 33 ปี มีตำแหน่งเป็นประธาน อปพร.อ.ลานสกา อยู่บ้านเลขที่ 131 ม.3 ต.ลานสกา อ.ลานสกา และ นายสิทธิชัย อินทรวิจิตร อายุ 24 ปี หลานชายนายณรงค์ศักดิ์ อยู่บ้านเลขที่ 5 ม.3 ต.ลานสกา อ.ลานสกา นครศรีธรรมราช
หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ได้ติดตามทำการสอบสวนยัง รพ.พบว่า ทั้งสองน้าหลานได้เสียชีวิตลงแล้วเนื่องจากไม่สามารถทนพิษบาดแผลจากอาวุธปืนได้ เบื้องต้นพบว่านายณรงค์ศักดิ์ถูกยิงเข้าที่หน้าอกด้านขวา 2 นัด ชายโครงขวา 1 นัด กระสุนทะลุหลัง สะบักหลังขวา 1 นัด กระสุนฝังใน ส่วน นายสิทธิชัย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่กลางหลัง 2 นัด กระสุนฝังใน 1 นัด ทะลุหน้าท้อง 1 นัด หน้าอกขวา 2 นัด กระสุนฝังใน
เจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบ พบว่า บริเวณลานหน้าบ้าน ซึ่งเป็นพื้นปูนมีโต๊ะและเก้าอี้หินอ่อนวางอยู่ พบกองเลือดจำนวนมาก ทั้งที่พื้นและโต๊ะเก้าอี้ม้าหินอ่อน มีก้นบุหรี่ยี่ห้อกรองทิพย์ 4 ก้น ตกอยู่ที่พื้น ริมถนนหน้าบ้านพบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม.ตกอยู่ 3 ปลอก
เบื้องต้นจากการรวบรวมข้อมูลของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทราบว่า มีคนร้ายมากกว่า 3 คน ตาม นายสิทธิชัย มา และจะไปรุมทำร้าย ขณะที่ นายสิทธิชัย นั่งคุยอยู่กับนายณรงค์ศักดิ์ เมื่อเจอตัวคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงทันที เมื่อ นายณรงค์ศักดิ์ น้าชายเห็นหลานโดนยิง จึงเข้าไปช่วยเหลือ ก่อนคนร้ายจะใช้อาวุธปืนยิงทั้ง นายณรงค์ศักดิ์ และนายสิทธิชัย ได้รับบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตในที่สุดหลังจากที่ถูกนำตัวส่ง รพ.
นายจรวย มาแก้ว กำนันตำบลลานสกา นั้น มีความสนิทกับ นายณรงค์ศักดิ์ ซึ่งเป็นประธาน อปพร.มานานแล้ว กล่าวว่า เท่าที่ได้สอบถามพบว่าคนร้ายต้องการจะมาทำร้าย นายสิทธิชัย แต่ นายณรงค์ศักดิ์ น้าชายไม่ยอม เข้าช่วยเหลือหลานจนถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงจนเสียชีวิต ในส่วนของนายณรงค์ศักดิ์นั้น เป็นคนดีตั้งใจทำงานบริการประชาชนอย่างขยันขันแข็ง ช่วยเหลือชาวบ้านทุกอย่าง ไม่น่าจะมาจบชีวิตอย่างนี้
พ.ต.ท.สมปอง พรหมเรืองโชติ รอง ผกก.สส.สภ.ลานสกา เปิดเผยว่า การสอบสวนรวบรวมข้อมูลพอทราบว่าก่อนเกิดเหตุ นายสิทธิชัย ซึ่งเป็นหลานชายของนายณรงค์ศักดิ์ มีบ้านอยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน ได้เดินทางมาที่บ้านของ นายณรงค์ศักดิ์ เพื่อปรึกษาหารือเกี่ยวกับเรื่องที่นายสิทธิชัย กำลังมีปัญหากับกลุ่มคู่อริกลุ่มหนึ่ง ซึ่งเป็นลูกชายของผู้กว้างขวางรายหนึ่งใน อ.ลานสกา กับพวก นายสิทธิชัย ต้องการให้นายณรงค์ศักดิ์ ซึ่งเป็นน้าชาย และเป็นผู้กว้างขวางคนหนึ่งใน อ.ลานสกา
ทั้งยังมีตำแหน่งเป็นประธาน อปพร.ที่มีเครือข่ายมาก น่าจะช่วยไปเคลียร์ปัญหาให้ได้ ขณะกำลังพูดคุยเรื่องนี้กันอยู่ ก็ถูกกลุ่มคนร้ายบุกเข้าไปใช้อาวุธปืนยิงจนเสียชีวิต ในชั้นนี้เจ้าหน้าที่พุ่งปมสาเหตุการบุกยิงไปที่ กลุ่มคู่อริของ นายสิทธิชัย ต้องการยิง นายสิทธิชัย แต่เมื่อพบว่าในจุดเกิดเหตุมีนายณรงค์ศักดิ์อยู่ด้วยก็ยิงถล่มนายณรงค์ศักดิ์จนเสียชีวิตด้วย
อย่างไรก็ตาม ปมปัญหาส่วนตัวอื่นๆ ทั้งของนายณรงศักดิ์ และนายสิทธิชัย เจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้ตัดทิ้ง จะได้เร่งสืบสวนสอบสวนเพื่อสร้างความกระจ่างคลี่คลายคดีเพื่อติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
วันนี้ (28 ต.ค.) พ.ต.ต.เทียน ศศิสุวรรณ สารวัตรเวร สภ.ลานสกา นครศรีธรรมราช รับแจ้งเหตุคนร้ายบุกเข้าไปยิงประธาน อปพร.ลานสกา และหลานชายได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดที่บ้านเลขที่ 131 หมู่ 3 ต.ลานสกา อ.ลานสกา หลังจากนั้น จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.ชัยสวัสดิ์ อินทรชมพู ผกก. พ.ต.ท.สมปอง พรหมเรืองโชติ รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.มานพ โฆษิตอนันต์ รอง ผกก.ป. พ.ต.ท.อำนาจ สำแดง สว.สส. พ.ต.ท.ราเชนทร์ พนัสพจนามาตย์ สวป.
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบว่าผู้บาดเจ็บได้ถูกญาติช่วยกันนำตัวส่ง รพ.ลานสกา แล้ว ทราบชื่อคือนายณรงค์ศักดิ์ ไกรถาวร อายุ 33 ปี มีตำแหน่งเป็นประธาน อปพร.อ.ลานสกา อยู่บ้านเลขที่ 131 ม.3 ต.ลานสกา อ.ลานสกา และ นายสิทธิชัย อินทรวิจิตร อายุ 24 ปี หลานชายนายณรงค์ศักดิ์ อยู่บ้านเลขที่ 5 ม.3 ต.ลานสกา อ.ลานสกา นครศรีธรรมราช
หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ได้ติดตามทำการสอบสวนยัง รพ.พบว่า ทั้งสองน้าหลานได้เสียชีวิตลงแล้วเนื่องจากไม่สามารถทนพิษบาดแผลจากอาวุธปืนได้ เบื้องต้นพบว่านายณรงค์ศักดิ์ถูกยิงเข้าที่หน้าอกด้านขวา 2 นัด ชายโครงขวา 1 นัด กระสุนทะลุหลัง สะบักหลังขวา 1 นัด กระสุนฝังใน ส่วน นายสิทธิชัย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่กลางหลัง 2 นัด กระสุนฝังใน 1 นัด ทะลุหน้าท้อง 1 นัด หน้าอกขวา 2 นัด กระสุนฝังใน
เจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบ พบว่า บริเวณลานหน้าบ้าน ซึ่งเป็นพื้นปูนมีโต๊ะและเก้าอี้หินอ่อนวางอยู่ พบกองเลือดจำนวนมาก ทั้งที่พื้นและโต๊ะเก้าอี้ม้าหินอ่อน มีก้นบุหรี่ยี่ห้อกรองทิพย์ 4 ก้น ตกอยู่ที่พื้น ริมถนนหน้าบ้านพบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม.ตกอยู่ 3 ปลอก
เบื้องต้นจากการรวบรวมข้อมูลของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทราบว่า มีคนร้ายมากกว่า 3 คน ตาม นายสิทธิชัย มา และจะไปรุมทำร้าย ขณะที่ นายสิทธิชัย นั่งคุยอยู่กับนายณรงค์ศักดิ์ เมื่อเจอตัวคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงทันที เมื่อ นายณรงค์ศักดิ์ น้าชายเห็นหลานโดนยิง จึงเข้าไปช่วยเหลือ ก่อนคนร้ายจะใช้อาวุธปืนยิงทั้ง นายณรงค์ศักดิ์ และนายสิทธิชัย ได้รับบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตในที่สุดหลังจากที่ถูกนำตัวส่ง รพ.
นายจรวย มาแก้ว กำนันตำบลลานสกา นั้น มีความสนิทกับ นายณรงค์ศักดิ์ ซึ่งเป็นประธาน อปพร.มานานแล้ว กล่าวว่า เท่าที่ได้สอบถามพบว่าคนร้ายต้องการจะมาทำร้าย นายสิทธิชัย แต่ นายณรงค์ศักดิ์ น้าชายไม่ยอม เข้าช่วยเหลือหลานจนถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงจนเสียชีวิต ในส่วนของนายณรงค์ศักดิ์นั้น เป็นคนดีตั้งใจทำงานบริการประชาชนอย่างขยันขันแข็ง ช่วยเหลือชาวบ้านทุกอย่าง ไม่น่าจะมาจบชีวิตอย่างนี้
พ.ต.ท.สมปอง พรหมเรืองโชติ รอง ผกก.สส.สภ.ลานสกา เปิดเผยว่า การสอบสวนรวบรวมข้อมูลพอทราบว่าก่อนเกิดเหตุ นายสิทธิชัย ซึ่งเป็นหลานชายของนายณรงค์ศักดิ์ มีบ้านอยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน ได้เดินทางมาที่บ้านของ นายณรงค์ศักดิ์ เพื่อปรึกษาหารือเกี่ยวกับเรื่องที่นายสิทธิชัย กำลังมีปัญหากับกลุ่มคู่อริกลุ่มหนึ่ง ซึ่งเป็นลูกชายของผู้กว้างขวางรายหนึ่งใน อ.ลานสกา กับพวก นายสิทธิชัย ต้องการให้นายณรงค์ศักดิ์ ซึ่งเป็นน้าชาย และเป็นผู้กว้างขวางคนหนึ่งใน อ.ลานสกา
ทั้งยังมีตำแหน่งเป็นประธาน อปพร.ที่มีเครือข่ายมาก น่าจะช่วยไปเคลียร์ปัญหาให้ได้ ขณะกำลังพูดคุยเรื่องนี้กันอยู่ ก็ถูกกลุ่มคนร้ายบุกเข้าไปใช้อาวุธปืนยิงจนเสียชีวิต ในชั้นนี้เจ้าหน้าที่พุ่งปมสาเหตุการบุกยิงไปที่ กลุ่มคู่อริของ นายสิทธิชัย ต้องการยิง นายสิทธิชัย แต่เมื่อพบว่าในจุดเกิดเหตุมีนายณรงค์ศักดิ์อยู่ด้วยก็ยิงถล่มนายณรงค์ศักดิ์จนเสียชีวิตด้วย
อย่างไรก็ตาม ปมปัญหาส่วนตัวอื่นๆ ทั้งของนายณรงศักดิ์ และนายสิทธิชัย เจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้ตัดทิ้ง จะได้เร่งสืบสวนสอบสวนเพื่อสร้างความกระจ่างคลี่คลายคดีเพื่อติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
