ศูนย์ข่าวภูเก็ต- ผู้ว่าฯ ภูเก็ตสั่งทุกหน่วยงานบูรณาการกวาดล้างแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองทั้งทางบกและทางน้ำที่ท่าฉัตรไชย พร้อมกวาดล้างตามแคมป์คงานต่างๆ ตั้งแต่พ.ย.นี้เป็นต้นไป
นายวิชัย ไพรสงบ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการแก้ไขปัญหาผู้หลบหนีเข้าเมืองโดยมิชอบด้วยกฎหมายจังหวัด โดยมีคณะกรรมการจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม ที่ห้องประชุมชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต
นายวิชัยกล่าวว่า จังหวัดภูเก็ตเป็นจังหวัดที่มีเป้าหมายค่อนข้างโดดเด่นเรื่องผู้หลบหนีเข้าเมืองมาทำงานจำนวนมาก ซึ่งภูเก็ตมีทางเข้าออกเพียงทางเดียวคือทางด่านตรวจท่าฉัตรไชย แต่ก็ยังมีการลักลอบเข้าเมืองมาได้ ดังนั้น เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าวจังหวัดได้ตั้งชุดเฉพาะกิจ ซึ่งประกอบด้วยหัวหน้าส่วนราชการต่างๆ และกองกำลังในพื้นที่ของศูนย์แก้ไขปัญหาผู้หลบหนีเข้าเมืองโดยมิชอบด้วยกฎหมาย จ.ภูเก็ตขึ้น โดยจะออกปฏิบัติงานตั้งแต่ต้นเดือนพฤศจิกายนนี้เป็นต้นไป ทั้งการสกัดกั้น การป้องกัน ปราบปราม การควบคุมและการจัดระเบียบแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง โดยให้มีการทำงานในลักษณะบูรณาการร่วมกัน
โดยทางผู้ว่าฯ ได้มอบหมายให้ฝ่ายปกครองไปทำแผน ตรวจสอบแรงงานต่างด้าวทั้งหมดทั้งในส่วนที่ลงทะเบียนไว้กับจัดหางาน และที่ต่อใบอนุญาตไว้แล้ว จำนวน 63,041 คน โดยแยกเป็นแรงงานต่างด้าวที่ขอต่ออายุใบอนุญาต 24,331 คน และที่ขอจดทะเบียนการทำงานประจำปี 2552 จำนวน 38,710 คน
ทั้งนี้ นอกจากกวดขันจับกุมตามสถานประกอบการต่างๆ แล้ว ให้มีการตรวจเข้มที่บริเวณด่านตรวจท่าฉัตรไชย เพราะว่าเป็นทางเดียวที่มีการลักลอบนำแรงงานต่างด้าวเข้ามา พร้อมกันนี้ในส่วนที่อาจจะมีการลักลอบเข้ามาทางเรือ บริเวณท่าเทียบเรือท่านุ่น จ.พังงา เพื่อจะให้มาส่งในเขตเมือง แทนที่จะมาทางด่านตรวจท่าฉัตรไชยได้ให้เคร่งครัดด้วย
โดยนายปิยะกล่าวรายงานต่อที่ประชุมถึงสถานการณ์แรงงานต่างด้าวที่ทำงานอยู่ในจังหวัดภูเก็ตว่า จนถึงขณะนี้มีแรงงานต่างด้าวที่มาขอออกใบอนุญาตทำงานแล้ว 63,000 คน
นายวิชัย ไพรสงบ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการแก้ไขปัญหาผู้หลบหนีเข้าเมืองโดยมิชอบด้วยกฎหมายจังหวัด โดยมีคณะกรรมการจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม ที่ห้องประชุมชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต
นายวิชัยกล่าวว่า จังหวัดภูเก็ตเป็นจังหวัดที่มีเป้าหมายค่อนข้างโดดเด่นเรื่องผู้หลบหนีเข้าเมืองมาทำงานจำนวนมาก ซึ่งภูเก็ตมีทางเข้าออกเพียงทางเดียวคือทางด่านตรวจท่าฉัตรไชย แต่ก็ยังมีการลักลอบเข้าเมืองมาได้ ดังนั้น เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าวจังหวัดได้ตั้งชุดเฉพาะกิจ ซึ่งประกอบด้วยหัวหน้าส่วนราชการต่างๆ และกองกำลังในพื้นที่ของศูนย์แก้ไขปัญหาผู้หลบหนีเข้าเมืองโดยมิชอบด้วยกฎหมาย จ.ภูเก็ตขึ้น โดยจะออกปฏิบัติงานตั้งแต่ต้นเดือนพฤศจิกายนนี้เป็นต้นไป ทั้งการสกัดกั้น การป้องกัน ปราบปราม การควบคุมและการจัดระเบียบแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง โดยให้มีการทำงานในลักษณะบูรณาการร่วมกัน
โดยทางผู้ว่าฯ ได้มอบหมายให้ฝ่ายปกครองไปทำแผน ตรวจสอบแรงงานต่างด้าวทั้งหมดทั้งในส่วนที่ลงทะเบียนไว้กับจัดหางาน และที่ต่อใบอนุญาตไว้แล้ว จำนวน 63,041 คน โดยแยกเป็นแรงงานต่างด้าวที่ขอต่ออายุใบอนุญาต 24,331 คน และที่ขอจดทะเบียนการทำงานประจำปี 2552 จำนวน 38,710 คน
ทั้งนี้ นอกจากกวดขันจับกุมตามสถานประกอบการต่างๆ แล้ว ให้มีการตรวจเข้มที่บริเวณด่านตรวจท่าฉัตรไชย เพราะว่าเป็นทางเดียวที่มีการลักลอบนำแรงงานต่างด้าวเข้ามา พร้อมกันนี้ในส่วนที่อาจจะมีการลักลอบเข้ามาทางเรือ บริเวณท่าเทียบเรือท่านุ่น จ.พังงา เพื่อจะให้มาส่งในเขตเมือง แทนที่จะมาทางด่านตรวจท่าฉัตรไชยได้ให้เคร่งครัดด้วย
โดยนายปิยะกล่าวรายงานต่อที่ประชุมถึงสถานการณ์แรงงานต่างด้าวที่ทำงานอยู่ในจังหวัดภูเก็ตว่า จนถึงขณะนี้มีแรงงานต่างด้าวที่มาขอออกใบอนุญาตทำงานแล้ว 63,000 คน
