นครศรีธรรมราช - นายอำเภอ-นายก อบต.นำชาวบ้านยึดคืนที่สาธารณะ 2 ไร่-นายทุนยึดครองสร้างรีสอร์ทโดยที่ไม่สนคำสั่งศาลพิพากษาให้เป็นที่สาธารณะ เตรียมพร้อมสร้างสวนเฉลิมพระเกียรติและจุดลอยกระทง
วันนี้ (27 ต.ค.) นายภาวร คงแก้ว นายอำเภอพรหมคีรี และนายสันติ ศรีเมือง นายกองค์การบริหารส่วนตำบลทอนหงส์ พร้อมชาวบ้านหมู่ที่ 5 ต.ทอนหงส์ อ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช บุกเข้าไปช่วยกันถอดเสาแนวกั้นพื้นที่สาธารณะประมาณ 2 ไร่เศษ ริมลำธารน้ำตกอ้ายเขียว หมู่ 5 ต.ทอนหงส์ ใกล้กับจ่ามีรีสอร์ท
ผู้ประกอบการเจ้าของรีสร์อตดังกล่าวได้ทำรั้วลวดหนามนำไปปักกั้นพื้นที่รวมกับพื้นที่รีสอร์ต เพื่อครอบครอง โดยจุดประสงค์ของชาวบ้านที่ช่วยกันบุกรื้อแนวรั้วกั้น เพื่อเร่งปรับปรุงเป็นสถานที่ในการจัดงานประเพณีลอยกระทง ประจำปีขององค์การบริหารส่วนตำบลทอนหงส์
สำหรับพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่เกิดขึ้นจากภัยธรรมชาติ สายน้ำเปลี่ยนทิศทางจากอุทกภัยครั้งใหญ่ปี 2531 มีนายทุนผู้เข้ามาถือครองเพื่อสร้างรีสอร์ท ริมลำธารและรุกล้ำพื้นที่ที่เกิดใหม่ จนกลายเป็นความขัดแย้งระหว่างนายทุน และทางราชการรวมทั้งชาวบ้านในพื้นที่ นายทุนจึงยื่นฟ้องศาล เพื่อหวังให้ศาลพิจารณาตัดสินให้ที่ดินงอกใหม่ผืนดังกล่าวเป็นกรรมสิทธิ์ของตนเอง
โดยใช้เวลาดำเนินการตามขบวนของศาลอยู่ถึง 9 ปี จนศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดให้พื้นที่ดังกล่าวเป็นที่สาธารณะนายทุนไม่มีสิทธิเข้าไปยึดครองเป็นของตัวเอง แต่ล่าสุดนายทุนซึ่งเป็นตำรวจชั้นประทวนสังกัดกองบังคับการตำรวจภูธรนครศรีธรรมราช ไม่ยอมออกจากพื้นที่ตามคำสั่งศาล แต่กลับสร้างแนวรั้วกั้นพื้นที่สาธารณะดังกล่าวขึ้นใหม่อีกครั้ง จนทางกำนัน-ผู้ใหญ่ และชาวบ้านเข้าพบนายอำเภอพรหมคีรี และนายก อบต.ทอนหงส์ ก่อนรวมตัวกันเข้าทำการรื้อถอนแนวรั้วกั้นเพื่อให้เป็นพื้นที่สาธารณะที่ประชาชนสามารถใช้ประโยชน์ร่วมกัน
นายสันติ ศรีเมือง นายกองค์การบริหารส่วนตำบลทอนหงส์ กล่าวว่า ทาง อบต.และชาวบ้านจะเข้าปรับปรุงพื้นที่ดังกล่าว เพื่อเป็นสถานที่จัดงานประเพณีลอยกระทง ประจำปี 2552 พร้อมประกาศให้ประชาชนทั่วไปได้รับทราบ และใช้ประโยชน์ร่วมกัน นอกจากนี้ ทาง อบต.ทอนหงส์ เตรียมใช้พื้นที่ดังกล่าวจัดสร้างเป็นสวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติเป็นสถานที่พักผ่อน และทำกิจกรรมเพื่อส่วนรวมของชาวบ้าน รวมทั้งการร่วมกันต่อไปในการอนุรักษ์ผืนป่าต้นน้ำ
ด้าน นายถาวร คงแก้ว นายอำเภอพรหมคีรี กล่าวว่า เป็นความจำเป็นที่จะต้องเร่งดำเนินการ เพื่อให้เป็นพื้นที่สาธารณะ เนื่องจากมีความพยายามถือครองจากกลุ่มบุคคลแม้ว่าจะใช้มาตรการทางกฎหมายดำเนินการเสร็จสิ้นไปแล้วก็ตาม แต่นายทุนยังพยายามที่จะฝ่าฝืนยื้อยืดเวลา จำเป็นต้องใช้มาตรการทางสังคมเข้าดำเนินการ
โดยเป็นการสร้างสำนึกของประชาชนที่จะรักษาป่าต้นน้ำเอาไว้ และเป็นกรณีตัวอย่าง เนื่องจากในพื้นที่ อ.พรหมคีรี ยังมีหลายจุดมีพื้นที่เกิดใหม่อันเนื่องมาจากสภาพธรรมชาติเปลี่ยนแปลง หากไม่มีการคัดค้านใดๆ นายทุนมักจะถือโอกาสครอบครองเป็นของตัวเอง
วันนี้ (27 ต.ค.) นายภาวร คงแก้ว นายอำเภอพรหมคีรี และนายสันติ ศรีเมือง นายกองค์การบริหารส่วนตำบลทอนหงส์ พร้อมชาวบ้านหมู่ที่ 5 ต.ทอนหงส์ อ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช บุกเข้าไปช่วยกันถอดเสาแนวกั้นพื้นที่สาธารณะประมาณ 2 ไร่เศษ ริมลำธารน้ำตกอ้ายเขียว หมู่ 5 ต.ทอนหงส์ ใกล้กับจ่ามีรีสอร์ท
ผู้ประกอบการเจ้าของรีสร์อตดังกล่าวได้ทำรั้วลวดหนามนำไปปักกั้นพื้นที่รวมกับพื้นที่รีสอร์ต เพื่อครอบครอง โดยจุดประสงค์ของชาวบ้านที่ช่วยกันบุกรื้อแนวรั้วกั้น เพื่อเร่งปรับปรุงเป็นสถานที่ในการจัดงานประเพณีลอยกระทง ประจำปีขององค์การบริหารส่วนตำบลทอนหงส์
สำหรับพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่เกิดขึ้นจากภัยธรรมชาติ สายน้ำเปลี่ยนทิศทางจากอุทกภัยครั้งใหญ่ปี 2531 มีนายทุนผู้เข้ามาถือครองเพื่อสร้างรีสอร์ท ริมลำธารและรุกล้ำพื้นที่ที่เกิดใหม่ จนกลายเป็นความขัดแย้งระหว่างนายทุน และทางราชการรวมทั้งชาวบ้านในพื้นที่ นายทุนจึงยื่นฟ้องศาล เพื่อหวังให้ศาลพิจารณาตัดสินให้ที่ดินงอกใหม่ผืนดังกล่าวเป็นกรรมสิทธิ์ของตนเอง
โดยใช้เวลาดำเนินการตามขบวนของศาลอยู่ถึง 9 ปี จนศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดให้พื้นที่ดังกล่าวเป็นที่สาธารณะนายทุนไม่มีสิทธิเข้าไปยึดครองเป็นของตัวเอง แต่ล่าสุดนายทุนซึ่งเป็นตำรวจชั้นประทวนสังกัดกองบังคับการตำรวจภูธรนครศรีธรรมราช ไม่ยอมออกจากพื้นที่ตามคำสั่งศาล แต่กลับสร้างแนวรั้วกั้นพื้นที่สาธารณะดังกล่าวขึ้นใหม่อีกครั้ง จนทางกำนัน-ผู้ใหญ่ และชาวบ้านเข้าพบนายอำเภอพรหมคีรี และนายก อบต.ทอนหงส์ ก่อนรวมตัวกันเข้าทำการรื้อถอนแนวรั้วกั้นเพื่อให้เป็นพื้นที่สาธารณะที่ประชาชนสามารถใช้ประโยชน์ร่วมกัน
นายสันติ ศรีเมือง นายกองค์การบริหารส่วนตำบลทอนหงส์ กล่าวว่า ทาง อบต.และชาวบ้านจะเข้าปรับปรุงพื้นที่ดังกล่าว เพื่อเป็นสถานที่จัดงานประเพณีลอยกระทง ประจำปี 2552 พร้อมประกาศให้ประชาชนทั่วไปได้รับทราบ และใช้ประโยชน์ร่วมกัน นอกจากนี้ ทาง อบต.ทอนหงส์ เตรียมใช้พื้นที่ดังกล่าวจัดสร้างเป็นสวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติเป็นสถานที่พักผ่อน และทำกิจกรรมเพื่อส่วนรวมของชาวบ้าน รวมทั้งการร่วมกันต่อไปในการอนุรักษ์ผืนป่าต้นน้ำ
ด้าน นายถาวร คงแก้ว นายอำเภอพรหมคีรี กล่าวว่า เป็นความจำเป็นที่จะต้องเร่งดำเนินการ เพื่อให้เป็นพื้นที่สาธารณะ เนื่องจากมีความพยายามถือครองจากกลุ่มบุคคลแม้ว่าจะใช้มาตรการทางกฎหมายดำเนินการเสร็จสิ้นไปแล้วก็ตาม แต่นายทุนยังพยายามที่จะฝ่าฝืนยื้อยืดเวลา จำเป็นต้องใช้มาตรการทางสังคมเข้าดำเนินการ
โดยเป็นการสร้างสำนึกของประชาชนที่จะรักษาป่าต้นน้ำเอาไว้ และเป็นกรณีตัวอย่าง เนื่องจากในพื้นที่ อ.พรหมคีรี ยังมีหลายจุดมีพื้นที่เกิดใหม่อันเนื่องมาจากสภาพธรรมชาติเปลี่ยนแปลง หากไม่มีการคัดค้านใดๆ นายทุนมักจะถือโอกาสครอบครองเป็นของตัวเอง