ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - เหตุการณ์ยังคงตรึงเครียดอย่างหนัก หลังรถไฟได้พยายามออกเดินรถ พร้อมฝ่าสัญญาณไฟแดง จึงเป็นเหตุให้เกือบประสานงากับรถไฟท่องเที่ยวลังกาวี-หาดใหญ่ ที่วิ่งมาส่งผู้โดยสารจอดอยู่ในรางเดียวกัน อีกทั้งหากรถไฟเดินเพียงอีก 50 เมตรก็จะตกรางเพราะประแจอยู่ผิดตำแหน่งในการเดินรถ
วันนี้ (27 ต.ค.) สถานการณ์รถไฟยังคงตึงเครียดอย่างหนัก จนถึงขณะนี้ยังไม่สามารถเปิดเดินรถไฟจากสถานีหาดใหญ่ลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้ และล่าสุดเกือบเกิดอุบัติเหตุรถไฟชนกัน หลังจากที่เมื่อเวลาประมาณ 10.30 น.ทางสถานีรถไฟหาดใหญ่ได้นำขบวนรถไฟขบวนที่ 463 พัทลุง-สุไหงโก-ลก ซึ่งเป็นขบวนรถท้องถิ่นขบวนแรกที่ออกให้บริการผู้โดยสาร
โดยใช้พนักงานขับและช่างเครื่องจากส่วนกลางมาทำการเดินรถ แต่ปรากฏว่าหลังจากที่ขบวนรถดังกล่าวออกจากสถานีหาดใหญ่ได้เพียง 300 เมตรโดยมีกำลังตำรวจรถไฟคุ้มกันหนาแน่น จำเป็นต้องหยุดรถกะทันหัน เนื่องจากมีขบวนรถไฟท่องเที่ยวลังกาวี-หาดใหญ่ ที่วิ่งมาส่งผู้โดยสารในช่วงเช้าจอดอยู่ในรางเดียวกัน จนเกือบทำให้รถทั้งสองขบวนชนกัน
เหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความไม่พอใจให้กับกลุ่มสหภาพฯรถไฟหาดใหญ่ที่ไปเฝ้าสังเกตุการณ์ก่อนที่รถจะออกเป็นอย่างมาก และได้เข้าไปห้อมล้อมหัวรถจักรและให้พนักงานขับหยุดเดินขบวนและลงจากรถทันที ซึ่งสถานการณ์ชุลมุนอยู่กว่า 1 ชั่วโมง และต้องประสานกำลังตำรวจรถไฟและกำลังตำรวจ สภ.หาดใหญ่ กว่า 100 นาย
เข้ามาควบคุมสถานการณ์ก่อนที่จะสามารถนำตัวพนักงานขับและช่างเครื่องลงจากรถท่ามกลางเสี่ยงโห่ร้องขับไล่ของกลุ่มสหภาพฯ รถไฟหาดใหญ่ นำไปขึ้นรถของตำรวจรถไฟออกไปได้อย่างปลอดภัย เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทางกลุ่มสหภาพฯรถไฟหาดใหญ่ไม่ได้ใช้ความรุนแรงและเกิดการกระทบกระทั่งกันแต่อย่างใด
นายวิรุฬ สะแกคุ้ม ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสหกิจรถไฟแห่งประเทศไทย สาขาหาดใหญ่ เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการทำผิดระเบียบการเดินรถอย่างร้ายแรง เพราะมีการฝ่าสัญญาณไฟแดงที่ทางหอควบคุมการเดินรถไฟได้ให้สัญญาณ เนื่องจากยังมีขบวนรถไฟจอดขวางอยู่ในรางเดียวกัน ที่สำคัญประแจรางรถไฟไม่ได้อยู่ในตำแหน่งที่จะทำให้รถไฟขบวนนี้วิ่งออกไปได้
นอกจากจะทำให้รถไฟเกือบชนกันแล้ว หากรถยังวิ่งต่อไปอีกเพียง 50 เมตรก็จะตกรางทันทีเพราะประแจอยู่ผิดตำแหน่ง ขณะที่ขบวนรถก็ไม่อยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งาน เพราะไม่มีระบบเบรคยังไม่สมบูรณ์และใช้พนักงานขับที่ไม่ชำนาญพื้นที่ โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทางผู้บริหารจะต้องรับผิดชอบ