ยะลา - สำนักงาประมงจังหวัดยะลาร่วมส่งเสริมการเลี้ยงกุ้งก้ามกรามของเกษตรกรในพื้นที่ ต.อัยเยอร์เวง อ.เบตง จ.ยะลา เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่กำลังเข้ามาโดยเฉพาะชาวมาเลย์และสิงค์โปรโดยมีการขยายบ่อเลี้ยงกุ้ง 5 บ่อ เพื่อส่งเสริมอาชีพให้กับประชาชนในพื้นที่
วันนี้ (23 ต.ค.) จากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้แต่ อำเภอเบตง เป็นอำเภอเดียวในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่เกิดสถานการณ์น้อยกว่าอำเภออื่นๆ ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทำให้อำเภอเบตง ยังเป็นพื้นที่การท่องเที่ยว มีนักท่องเที่ยวทั้งประเทศมาเลเซีย ซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ้านมีชายแดนติดกัน และ สิงคโปร์ เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวอำเภอเบตงเป็นจำนวนมาก
จากการที่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาอำเภอเบตงในแต่ละวันเป็นจำนวนมากนั้น สำนักงานประมงจังหวัดยะลา ได้เล็งเห็นถึงความต้องการในการบริโภคอาหารทะเล หรือซีฟูด ของนักท่องเที่ยวที่เข้ามาในอำเภอเบตงเป็นจำนวนมาก ประกอบกับพื้นที่จังหวัดยะลา เป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพในด้านการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืดอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เกษตรกรนำมาใช้ประโยชน์ค่อนข้างน้อย เนื่องมีข้อจำกัดในหลายด้าน
เพื่อนำไปสู่การใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ในชุมชนอย่างเต็มศักยภาพ เพื่อพัฒนาอาชีพของเกษตรกร ที่ความเกี่ยวเนื่องเกื้อกูลกันอย่างเป็นระบบในระดับชุมชน ส่งผลให้เกษตรกรมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ชุมชนมีความเข้มแข็ง โดยมืออาชีพ เป็นตัวยึดเหนี่ยว และเชื่อมโยงกันและกันในหมู่สมาชิก เพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขอและยั่งยืนตลอดไป
สำนักงานประมงจังหวัดยะลาได้เล็งเห็นถึงผลประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นกับเกษตรกรเป็นจำนวนมหาศาล จึงได้จัดทำโครงการนำร่องเพื่อส่งเสริมการเลี้ยงกุ้งก้ามกรามแบบพัฒนา ขึ้น ในพื้นที่ ต.อัยเยอร์เวง อ.เบตง ขึ้น เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีความพร้อมในหลายๆด้าน ทั้งความสนใจของเกษตรกร และสภาพของน้ำที่มีความสมบูรณ์สามารถถ่ายเทสับเปลี่ยนน้ำได้อย่างต่อเนื่อง จึงได้รวมกลุ่มเกษตรกรผู้สนใจ จำนวน 6 ราย จำนวน 7 บ่อ เพื่อเป็นการนำร่องปล่อยพันธุ์กุ้งก้ามกรามลงบ่อๆ ละ 3-4 หมื่นตัวตั้งแต่เดือน มี.ค.2552 และรอบสองเดือนสิงหาคม 2552 ปรากฏว่าประสบผลสำเร็จ จำนวน 5 บ่อ อีก 2 บ่อ การเตรียมบ่อไม่ดีเท่าที่ควร ทำให้การเลี้ยงกุ้งไม่ประสบผลสำเร็จ ขณะนี้เกษตรกรเริ่มมีการจับกุ้ง เพื่อนำจำหน่ายไปเป็นส่วนแล้ว
ด้าน นายมงคล วงศ์สุวรรณ วัย 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 110 หมู่ที่ 5 ต.อัยเยอร์เวง กล่าวว่า ตนเอง ตั้งใจว่าเมื่อเก็บกุ้งมาได้แล้วจะนำไปส่งในตัวตลาดเบตง เนื่องจากยังเห็นว่าตลาดเบตง ยังมีความต้องการกุ้งจำนวนมาก ส่วนการเลี้ยงก็ไม่ได้ยุ่งยากมากนัก จะเน้นตรงการให้อาหารที่ถูกต้องและปริมาณที่เพียงพอตามความต้องการของกุ้ง เมื่อเลี้ยงครบ 6 เดือน ก็สามารถจับมาขายได้ การเลี้ยงปรากฏว่าไปได้ดี ซึ่งตนคาดว่าจะสามารถขายได้ในราคากิโลกรัมละ 250 บาท
นายอภินันท์ ซื่อทานุวงศ์ รอง ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ฝ่ายเศรษฐกิจ กล่าวว่า การเลี้ยงกุ้งก้ามกรามบ้านวังใหม่ ต.อัยเยอร์เวง อ.เบตง เป็นโครงการริเริ่มของสำนักงานประมงจังหวัด ที่เล็งเห็นของการส่งเสริมการเพาะเลี้ยงประมงน้ำจืดต่างๆ น่าจะมีการเพาะเลี้ยงสัตว์เลี้ยงใหม่บ้าง กุ้งก้ามกรามที่เกษตรกรมีความสนใจ น่าจะเป็นสัตว์เศรษฐกิจตัวใหม่ได้ จึงเลือกพื้นที่บ้านวังใหม่ เป็นพื้นที่นำร่อง โยใช้งบประมาณจากทางจังหวัดและโครงการกองทุนพัฒนาชุมชนในพื้นที่รอบเขื่อนบางลาง จำนวน 125,000 บาท มาช่วยในการปรับปรุงบ่อเลี้ยงและพันธุ์กุ้ง ในการให้เกษตรกรมีประสบการณ์ในการเลี้ยงกุ้ง
ขณะนี้ได้ส่งเสริมไปจำนวน 5 บ่อ ซึ่งอยู่ในระหว่างการประเมินผล โดยผลการประเมินที่ได้มาจะรายงานไปยังกรมประมง เพื่อจะได้ดำเนินการส่งเสริมให้เกษตรกรในพื้นที่อื่นๆ ที่มีความพร้อมในเรื่องการบริหารจัดการในการเลี้ยงและมีศักยภาพของพื้นที่เหมาะกับการเลี้ยงกุ้งกันต่อไป
รองผู้ว่าราชการจังหวัด ยังกล่าวถึงการตลาดว่า ในตลาดอำเภอเบตง เป็นที่มีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวเป็นจำนวนมาก ดังนั้น ความต้องการบริโภคกุ้งหรืออาหารทะเล ค่อนข้างสูง จึงมีความเหมาะสมที่สนองความต้องการ ในขณะเดียวกันกุ้งก้ามกรามยังเป็นที่ต้องการของตลาดข้างเคียงในพื้นที่จังหวัดยะลามากอีกด้วย คิดว่าไม่มีปัญหาในเรื่องของการตลาด จากการประเมินผลออกมา พบว่าสามารถเลี้ยงกุ้งในพื้นที่แห่งนี้ได้ดี จึงคิดว่าจะขยายพื้นที่การเลี้ยงในเขตอำเภอเบตง ให้มากขึ้น ทั้งนี้ต้องสำรวจพื้นที่ที่มีศักยภาพที่เหมะสม คาดว่าอำเภอเบตงน่าจะได้ดีกว่าพื้นที่อื่นๆ ของจังหวัด