xs
xsm
sm
md
lg

ชาวประมงที่กระบี่แห่จับกุ้งทะเลสร้างรายได้วันละ 1,500-2,000 บาท

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ชาวประมงพื้นบ้านกระบี่ชูกุ้งทะเลที่จับได้เป็นจำนวนมาก
กระบี่ - ชาวประมงพื้นบ้านที่จังหวัดกระบี่ แห่จับกุ้งทะเล หลังพบขึ้นชุกชุมบริเวณปากอ่าวกระบี่ สร้างรายได้ 1,500-2,000 บาทต่อวัน ด้าน หัวหน้าศูนย์ปราบปรามประมงทะเลชายฝั่ง เผย สาเหตุมาจากประกาศปิดอ่าว และอนุรักษ์สัตว์ทะเล

วันนี้ (22 ต.ค.) นายแสน ศรีงาม หัวหน้าศูนย์ป้องกัน และปราบปรามประมงชายฝั่งทะเลอันดามันจังหวัดกระบี่ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่นำเรือตรวจการณ์ ออกตรวจตราบริเวณปากอ่าวกระบี่ หลังทราบว่า มีชาวประมงพื้นบ้านออกทะเลจับกุ้งได้กันเป็นจำนวนมาก โดยมีชาวประมงนำเรือออกจับกุ้งมากกว่า 100 ลำ

จากการสอบถาม ทราบว่า ชาวประมงสามารถจับกุ้งได้ถึง 50-100 กิโลกรัมต่อวัน มีรายได้ 1,500-2,000 ต่อวัน ต่ำสุดมีรายได้ 700 บาทต่อวัน ซึ่งปรากฏการณ์ดังกล่าวเป็นผลมาจากการประกาศปิดอ่าวของกรมประมงในช่วงฤดูปลาวางไข่ การปราบปรามการทำประมงที่ผิดกฎหมายอย่างต่อเนื่อง

โดยพื้นที่ที่ชาวบ้านพบกุ้งทะเลชุกชุม คือ บริเวณอ่าวปากบารา ม.3 ต.คลองประสงค์ อ.เมือง จ.กระบี่ ซึ่งกุ้งที่จับได้นั้น ชาวประมงจะเอาไปส่งขายให้กับกลุ่มพ่อค้าแม่ค้า ตลาดสดมหาราช เทศบาลเมืองกระบี่ โดยกุ้งขนาดเล็ก ราคากิโลกรัมละ 60 บาท กุ้งขนาดกลางราคา 150 บาทต่อกิโลกรัม

ส่วนกุ้งขนาดใหญ่ราคา กิโลกรัมละ 200 บาท จากปรากฏการณ์กุ้งทะเลมีมากขึ้น ทำให้ชาวประมงพื้นบ้านมีรายได้ในการประกอบอาชีพมากขึ้น โดยเริ่มทำการจับกุ้งทะเล มาตั้งแต่ต้นเดือนกันยายน 2552 ที่ผ่านมา และจะสามารถจับกุ้งได้ไปจนถึงกุมภาพันธ์ ปี 2553

นายแสน ศรีงาม หัวหน้าศูนย์ป้องกัน และปราบปรามประมงชายฝั่งทะเลอันดามัน จังหวัดกระบี่ กล่าวว่า จากการที่มีกุ้งทะเลมีจำนวนมากบริเวณปากอ่าวกระบี่ ถือเป็นปรากฏการณ์อย่างหนึ่งที่แสดงให้เห็นว่า ชาวจังหวัดกระบี่ ได้ร่วมกันอนุรักษ์สัตว์น้ำทะเล โดยเริ่มตั้งแต่ปี 2546 ได้มีการปราบปรามเครื่องมืออวนรุน เครื่องมือโพงพาง และ เครื่องอวนรัง จนหมดไปจากจังหวัดกระบี่

นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา จังหวัดกระบี่ได้ประกาศเขตหวงห้าม เพิ่มเติมอีกจาก 3,000 เป็น 5,000 เมตร จากฝั่ง และได้ประกาศปิดอ่าวในช่วงฤดูปลาวางไข่ จาก 2 เดือนเป็น 3 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน-30 มิถุนายน 2552 ของทุกปี ทำให้ปริมาณสัตว์น้ำมีการแพร่ขยายพันธุ์ เพิ่มจำนวนมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัดตลอดระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา

หัวหน้าศูนย์ป้องกัน และปราบปรามประมงชายฝั่งทะเลอันดามัน จังหวัดกระบี่ กล่าวต่อไปอีกว่า หากทุกคนเคารพในกฎหมาย ร่วมกันรับผิดชอบดูแลทรัพยากรสัตว์น้ำร่วมกัน ไม่ทำผิดกฎหมาย ในการจับสัตว์น้ำ จะทำให้ชาวประมงสามารถจับสัตว์น้ำได้ตลอดไป ซึ่งจะทำให้ชาวประมงมีอาชีพที่ยั่งยืน ซึ่งจังหวัดกระบี่ถือว่าเป็นจังหวัดที่มีปริมาณสัตว์น้ำที่มีความสมบูรณ์สูงที่สุดในประเทศไทย

เพราะฉะนั้นบุคคลที่เห็นแก่ตัว ที่ต้องการจับสัตว์น้ำในปริมาณมากๆ ด้วยวิธีการที่ผิดกฎหมาย ขอให้ชาวประมงพื้นบ้าน หรือบุคคลทั่วไป ที่พบเห็นการกระทำความผิดกฎหมาย ขอให้แจ้งศูนย์ป้องกัน และปราบปรามประมงชายฝั่งทะเลอันดามัน จังหวัดกระบี่ โทร.075-621183, 075-620510 สายตรงมาที่ 081-979-8419 นายแสน ศรีงาม หัวหน้าศูนย์ป้องกัน และปราบปรามประมงชายฝั่งทะเลอันดามันจังหวัดกระบี่

กำลังโหลดความคิดเห็น