สตูล - จังหวัดสตูลสั่งผู้ประกอบการห้ามขายลวดดัดฟันแฟชั่นเป็นการถาวร เพราะอาจเป็นอันตรายแก่ผู้บริโภค ผู้ฝ่าฝืนอาจติดคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินห้าแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
วันนี้ (20 ต.ค. ) นายสุเมธ ชัยเลิศวณิชกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล กล่าวว่า ปัจจุบันยังพบวัยรุ่นจำนวนมากนิยมจัดฟันหรือดัดฟัน ทั้งแบบดัดฟันจริงและดัดฟันตามแฟชั่น ทำให้ผู้จำหน่ายหัวใสนำลวดดัดฟันแฟชั่นมาจำหน่ายในราคาถูก และหาซื้อได้ตามตลาดนัดและเปิดท้ายขายของทั่วไป ราคาไม่เกินหลักร้อยบาท ซึ่งเมื่อเทียบกับการดัดฟัน
โดยทันตแพทย์จะมีค่าใช้จ่ายสูงและขั้นตอนที่ยุ่งยาก ทำให้ลวดดัดฟันแฟชั่นได้รับความนิยม ซึ่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคได้ประชุมเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2552 พิจารณาเห็นว่า สินค้าลวดดัดฟันแฟชั่นเป็นสินค้าที่อาจเป็นอันตรายแก่ผู้บริโภค เพราะจากการตรวจสอบพบว่ามีสารปนเปื้อนหลายชนิด เช่น ตะกั่ว พลวง ซิลิเนียม โครเมียม และสารหนู และไม่อาจป้องกันอันตรายที่เกิดจากสินค้านั้นได้ จึงมีมติให้มีคำสั่งห้ามขายสินค้าลวดดัดฟันแฟชั่นเป็นการถาวร
ทั้งนี้ หากผู้ประกอบธุรกิจรายใดขายสินค้าดังกล่าว เนื่องจากอาจเป็นอันตรายแก่ผู้บริโภค ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินห้าหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ถ้าผู้ประกอบธุรกิจนั้นเป็นผู้ผลิตเพื่อขาย หรือเป็นผู้สั่ง หรือนำเข้ามาในราชอาณาจักรเพื่อขาย ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินห้าแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
วันนี้ (20 ต.ค. ) นายสุเมธ ชัยเลิศวณิชกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล กล่าวว่า ปัจจุบันยังพบวัยรุ่นจำนวนมากนิยมจัดฟันหรือดัดฟัน ทั้งแบบดัดฟันจริงและดัดฟันตามแฟชั่น ทำให้ผู้จำหน่ายหัวใสนำลวดดัดฟันแฟชั่นมาจำหน่ายในราคาถูก และหาซื้อได้ตามตลาดนัดและเปิดท้ายขายของทั่วไป ราคาไม่เกินหลักร้อยบาท ซึ่งเมื่อเทียบกับการดัดฟัน
โดยทันตแพทย์จะมีค่าใช้จ่ายสูงและขั้นตอนที่ยุ่งยาก ทำให้ลวดดัดฟันแฟชั่นได้รับความนิยม ซึ่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคได้ประชุมเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2552 พิจารณาเห็นว่า สินค้าลวดดัดฟันแฟชั่นเป็นสินค้าที่อาจเป็นอันตรายแก่ผู้บริโภค เพราะจากการตรวจสอบพบว่ามีสารปนเปื้อนหลายชนิด เช่น ตะกั่ว พลวง ซิลิเนียม โครเมียม และสารหนู และไม่อาจป้องกันอันตรายที่เกิดจากสินค้านั้นได้ จึงมีมติให้มีคำสั่งห้ามขายสินค้าลวดดัดฟันแฟชั่นเป็นการถาวร
ทั้งนี้ หากผู้ประกอบธุรกิจรายใดขายสินค้าดังกล่าว เนื่องจากอาจเป็นอันตรายแก่ผู้บริโภค ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินห้าหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ถ้าผู้ประกอบธุรกิจนั้นเป็นผู้ผลิตเพื่อขาย หรือเป็นผู้สั่ง หรือนำเข้ามาในราชอาณาจักรเพื่อขาย ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินห้าแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
