ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ผู้ว่าฯภูเก็ต สั่งท้องถิ่นเข้มการให้บริการกีฬาเพื่อการท่องเที่ยวทุกประเภท หลังเกิดอุบัติเหตุบันจี้จัมป์ที่ให้บริการหลุดจากขาขณะนักท่องเที่ยวใช้บริการตกลงน้ำได้รับบาดเจ็บ พบมีการโพสต์ขึ้นอินเทอร์เน็ต ด้านนายกเทศมนตรีเมืองกะทู้ ชี้ สาเหตุการเกิดอุบัติเหตุ เนื่องจากความประมาท พร้อมให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบแล้ว
นายวิชัย ไพรสงบ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงกรณีมีการโพสต์ภาพเหตุการณ์นักท่องเที่ยวใช้บริการบันจี้จัมป์ในพื้นที่ภูเก็ตแล้วเกิดอุบัติเหตุเชือกที่ผูกหลุดจากขา ทำให้นักท่องเที่ยวตกลงไปในน้ำได้รับบาดเจ็บ ว่า หลังจากทราบเรื่องได้สั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบพบว่า ภาพเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจากการเล่นบันจี้จัมป์ของนักท่องเที่ยวชาวอินโดนีเซีย โดยเหตุเกิดเมื่อประมาณ 3 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งสาเหตุที่เกิดอุบัติเหตุน่าจะเกิดจากความบกพร่องของผู้ประกอบการที่มีการรัดเชือกที่ข้อเท้าไม่แน่น อย่างไรก็ตาม สำหรับการเปิดให้บริการบันจี้จัมป์ที่ภูเก็ตนั้นมีมาตั้งแต่ปี 2535 และที่ผ่านมา ไม่เคยมีอุบัติเหตุเกิดขึ้น ปัจจุบันภูเก็ตมีการเปิดให้บริการบันจี๊จัมป์อยู่ 2 แห่ง คือ ในพื้นที่ ต.กะทู้ และ ต.ป่าตอง อ.กะทู้
อย่างไรก็ตาม หลังจากทราบว่า มีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นทางจังหวัดไม่ได้นิ่งนอนใจได้สั่งกำชับให้ท้องถิ่นทั้งเทศบาลเมืองกะทู้ และเทศบาลเมืองป่าตองเข้าไปตรวจสอบอุปกรณ์ การดูแลความปลอดภัยการให้บริการบันจี้จัมป์แล้ว เพื่อไม่ให้มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นอีก เพราะหากปล่อยให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะดังกล่าวเกิดขึ้นอีกก็จะส่งผลกระทบกับภาพลักษณ์และบรรยากาศการท่องเที่ยว โดยเฉพาะเมื่อมีการเผยแพร่ข่าวออกไป
นายวิชัย กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม นอกจากการตรวจสอบการให้บริการบันจี้จัมป์แล้วยังได้กำชับในเรื่องของเรือบริการท่องเที่ยว เจ็ตสกี โกคาร์ท สกีบอร์ดด้วย ซึ่งเป็นกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวในลักษณะที่หวาดเสียว
นอกจากนี้ สิ่งที่จะต้องระมัดระวังอีกอย่างในการดูแลความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยว คือ การเดินทางท่องเที่ยวโดยทางเรือ ซึ่งภูเก็ตมีเกาะต่างๆ ที่สามารถเดินทางไปท่องเที่ยวได้มากกว่า 30 แห่ง แต่ระยะนี้มีปัญหาเรื่องของคลื่นลมแรง ทางจังหวัดจึงได้กำชับเจ้าหน้าที่ผู้ประกอบการให้นักท่องเที่ยวใส่เสื้อชูชีพให้เรียบร้อย เพื่อป้องกันไม่ให้อุบัติเหตุทางน้ำเกิดขึ้น ซึ่งการไม่ประมาทจะเป็นการเพิ่มความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวให้มากขึ้น ที่สำคัญ หวังว่า ต่อไปนี้อุบัติเหตุเกี่ยวกับการท่องเที่ยวคงไม่เกิดขึ้น
ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวเพิ่มเติมว่า ตนเองได้มีการเน้นย้ำการป้องกันอุบัติเหตุเกี่ยวกับนักท่องเที่ยวอยู่เสมอ โดยเฉพาะช่วงมีการประชุมประจำเดือนให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าไปตรวจสอบเพื่อให้การใช้อุปกรณ์ทั้ง บันจี้จ้ำ โกคาร์ท เจ็ตสกี ได้มีความปลอดภัย
ทั้งนี้ ก่อนจะถึงฤดูการท่องเที่ยว จังหวัดจะเชิญผู้ประกอบการ ส่วนราชการ มาคุยกันว่า อย่าเอาเปรียบนักท่องเที่ยว เนื่องจากขณะนี้มีไฟลต์บินจากจีน ออสเตรเลีย เข้ามามาก เราต้องช่วยกัน ซึ่งทางจังหวัดจะมอบให้ส่วนราชการเข้าประกบผู้ประกอบการ แบบหนึ่งต่อสองหรือสองต่อสี่ เพื่อสร้างบัดดี้ในการดูแล เมื่อทำอย่างนี้ได้ความเชื่อมั่นเกิดขึ้นแน่ แล้วนักท่องเที่ยวจะเดินทางเข้ามาสร้างรายได้ให้ภูเก็ตและประเทศไทยอีกมหาศาล
ด้าน นายชัยอนันต์ สุทธิกุล นายกเทศมนตรีเมืองกะทู้ กล่าวว่า หลังจากทราบข่าว ทางเทศบาลได้ให้เจ้าหน้าที่กองช่างเข้าไปตรวจสอบ ทั้งเรื่องอุปกรณ์ ใบอนุญาตและให้มีการแก้ไขจุดบกร่อง ซึ่งสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุบันจี้จัมป์ที่กะทู้จริงๆ เกิดจากความประมาทของผู้ประกอบการเอง แต่อย่างไรก็ดี ทางเทศบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ จะมีการเข้มงวดในการบริการนักท่องเที่ยว ที่จะต้องดูแลเรื่องความปลอดภัยต่างๆ ซึ่งตอนนี้เทศบาลมีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่เข้าไปดูแลและตรวจสอบทุกๆ จุด ทั้งนี้ ปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก มาใช้บริการบันจี้จัมป์ โกคาร์ท สกีบอร์ด
นายวิชัย ไพรสงบ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงกรณีมีการโพสต์ภาพเหตุการณ์นักท่องเที่ยวใช้บริการบันจี้จัมป์ในพื้นที่ภูเก็ตแล้วเกิดอุบัติเหตุเชือกที่ผูกหลุดจากขา ทำให้นักท่องเที่ยวตกลงไปในน้ำได้รับบาดเจ็บ ว่า หลังจากทราบเรื่องได้สั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบพบว่า ภาพเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจากการเล่นบันจี้จัมป์ของนักท่องเที่ยวชาวอินโดนีเซีย โดยเหตุเกิดเมื่อประมาณ 3 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งสาเหตุที่เกิดอุบัติเหตุน่าจะเกิดจากความบกพร่องของผู้ประกอบการที่มีการรัดเชือกที่ข้อเท้าไม่แน่น อย่างไรก็ตาม สำหรับการเปิดให้บริการบันจี้จัมป์ที่ภูเก็ตนั้นมีมาตั้งแต่ปี 2535 และที่ผ่านมา ไม่เคยมีอุบัติเหตุเกิดขึ้น ปัจจุบันภูเก็ตมีการเปิดให้บริการบันจี๊จัมป์อยู่ 2 แห่ง คือ ในพื้นที่ ต.กะทู้ และ ต.ป่าตอง อ.กะทู้
อย่างไรก็ตาม หลังจากทราบว่า มีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นทางจังหวัดไม่ได้นิ่งนอนใจได้สั่งกำชับให้ท้องถิ่นทั้งเทศบาลเมืองกะทู้ และเทศบาลเมืองป่าตองเข้าไปตรวจสอบอุปกรณ์ การดูแลความปลอดภัยการให้บริการบันจี้จัมป์แล้ว เพื่อไม่ให้มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นอีก เพราะหากปล่อยให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะดังกล่าวเกิดขึ้นอีกก็จะส่งผลกระทบกับภาพลักษณ์และบรรยากาศการท่องเที่ยว โดยเฉพาะเมื่อมีการเผยแพร่ข่าวออกไป
นายวิชัย กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม นอกจากการตรวจสอบการให้บริการบันจี้จัมป์แล้วยังได้กำชับในเรื่องของเรือบริการท่องเที่ยว เจ็ตสกี โกคาร์ท สกีบอร์ดด้วย ซึ่งเป็นกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวในลักษณะที่หวาดเสียว
นอกจากนี้ สิ่งที่จะต้องระมัดระวังอีกอย่างในการดูแลความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยว คือ การเดินทางท่องเที่ยวโดยทางเรือ ซึ่งภูเก็ตมีเกาะต่างๆ ที่สามารถเดินทางไปท่องเที่ยวได้มากกว่า 30 แห่ง แต่ระยะนี้มีปัญหาเรื่องของคลื่นลมแรง ทางจังหวัดจึงได้กำชับเจ้าหน้าที่ผู้ประกอบการให้นักท่องเที่ยวใส่เสื้อชูชีพให้เรียบร้อย เพื่อป้องกันไม่ให้อุบัติเหตุทางน้ำเกิดขึ้น ซึ่งการไม่ประมาทจะเป็นการเพิ่มความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวให้มากขึ้น ที่สำคัญ หวังว่า ต่อไปนี้อุบัติเหตุเกี่ยวกับการท่องเที่ยวคงไม่เกิดขึ้น
ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวเพิ่มเติมว่า ตนเองได้มีการเน้นย้ำการป้องกันอุบัติเหตุเกี่ยวกับนักท่องเที่ยวอยู่เสมอ โดยเฉพาะช่วงมีการประชุมประจำเดือนให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าไปตรวจสอบเพื่อให้การใช้อุปกรณ์ทั้ง บันจี้จ้ำ โกคาร์ท เจ็ตสกี ได้มีความปลอดภัย
ทั้งนี้ ก่อนจะถึงฤดูการท่องเที่ยว จังหวัดจะเชิญผู้ประกอบการ ส่วนราชการ มาคุยกันว่า อย่าเอาเปรียบนักท่องเที่ยว เนื่องจากขณะนี้มีไฟลต์บินจากจีน ออสเตรเลีย เข้ามามาก เราต้องช่วยกัน ซึ่งทางจังหวัดจะมอบให้ส่วนราชการเข้าประกบผู้ประกอบการ แบบหนึ่งต่อสองหรือสองต่อสี่ เพื่อสร้างบัดดี้ในการดูแล เมื่อทำอย่างนี้ได้ความเชื่อมั่นเกิดขึ้นแน่ แล้วนักท่องเที่ยวจะเดินทางเข้ามาสร้างรายได้ให้ภูเก็ตและประเทศไทยอีกมหาศาล
ด้าน นายชัยอนันต์ สุทธิกุล นายกเทศมนตรีเมืองกะทู้ กล่าวว่า หลังจากทราบข่าว ทางเทศบาลได้ให้เจ้าหน้าที่กองช่างเข้าไปตรวจสอบ ทั้งเรื่องอุปกรณ์ ใบอนุญาตและให้มีการแก้ไขจุดบกร่อง ซึ่งสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุบันจี้จัมป์ที่กะทู้จริงๆ เกิดจากความประมาทของผู้ประกอบการเอง แต่อย่างไรก็ดี ทางเทศบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ จะมีการเข้มงวดในการบริการนักท่องเที่ยว ที่จะต้องดูแลเรื่องความปลอดภัยต่างๆ ซึ่งตอนนี้เทศบาลมีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่เข้าไปดูแลและตรวจสอบทุกๆ จุด ทั้งนี้ ปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก มาใช้บริการบันจี้จัมป์ โกคาร์ท สกีบอร์ด
