ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ชุดรักษาความสงบเรียบร้อยกะรนร่วมเครือข่ายตาสับปะรดจัดกำลังดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยวเล่นน้ำ หลังเกิดเหตุนักท่องเที่ยวประสบเหตุจมน้ำสูงถึง 13 รายภายใน 1 วัน
นายวินัย ชิดเชี่ยว กำนันตำบลกะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ต กล่าวงถึงการจัดกำลังชุดรักษาความสงบเรียบร้อย ดูแลความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยวที่ลงเล่นน้ำบริเวณชายหาดต่างๆ ในพื้นที่ตำบลกะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ต ว่าเนื่องจากขณะนี้ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตได้รับผลกระทบจากลมมรสุมทำให้มีฝนตกหนัก และคลื่นลมแรงตลอดเวลา แม้ว่าจะมีฝนตกหนักและคลื่นลมแรง แต่ก็ยังคงมีนักท่องเที่ยวฝ่าฝืนธงแดงลงไปเล่นน้ำอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะมีเจ้าหน้าที่คอยเตือนก็ตาม จึงต้องมีการจัดกำลังเจ้าหน้าที่ และเครือข่ายตาสับปะรดเฝ้าระวังตลอดเวลา
ทั้งนี้ เพราะวานนี้ (4 ต.ค.) เพียงแค่วันเดียวมีนักท่องเที่ยวประสบอุบัติเหตุจมน้ำมากถึง 13 ราย โดยเหตุเกิดที่บริเวณหาดกะตะ ต.กะรนจำนวน 8 ราย และหาดกะรนจำนวน 5 ราย แต่ทั้งหมดได้รับการช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ชุดรักษาความปลอดภัย เครือข่ายตาสับปะรด และผู้ประกอบการเจ็ตสกีในพื้นที่ ทำให้วันนี้ต้องจัดกำลังเจ้าหน้าที่ดูแลให้เข้มข้นขึ้น
นายวินัยกล่าวต่อไปว่า จริงๆแล้วการดูแลความปลอดภัยและช่วยเหลือนักท่องเที่ยวที่บริเวณชายหาดต่างๆ นั้น ขณะนี้ทาง อบจ.ภูเก็ต ได้ว่าจ้างบริษัทเอกชนในการจัดบีชการ์ดและอุปกรณ์ในการช่วยเหลือและดูแลนักท่องเที่ยวอยู่แล้ว แต่ตนคิดว่าอุปกรณ์ที่นำมาใช้ยังไม่มีความเหมาะสมและไม่เหมาะที่จะใช้ในการออกไปช่วยเหลือนักท่องเที่ยวในช่วงคลื่นลมแรง เช่นการใช้เรือยากออกไปช่วย ซึ่งอุปกรณ์ที่จะใช้ช่วยเหลือนักท่องเที่ยว เวลาจมน้ำได้เป็นอย่างดีคือเรือเจ็ตสกี และเซิร์ฟบอร์ด เพราะสามารถฝ่าคลื่นที่มีความแรงออกไปได้
“จึงอยากให้ผู้ที่รับผิดชอบเข้ามาดูแลและปรับปรุง ในเรื่องของอุปกรณ์ให้มีความเหมาะสม นอกจากนั้นยังมีเรื่องของบุคคลกรซึ่งคิดว่าปัจจุบันยังมีไม่เพียงพอ ควรจะเพิ่มให้มีจำนวนมากกว่าที่เป็นอยู่ยังกล่าวต่อ และที่สำคัญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชนจะต้องทำความเข้าใจกับนักท่องเที่ยวตั้งแต่เดินทางมาถึงเรื่องของการขึ้นธงแดงห้ามลงเล่นน้ำ เพราะปัจจุบันนี้ยังมีนักท่องเที่ยวฝ่าฝืนลงเล่นน้ำอยู่ตลอดเวลา ทำให้มีความสูญเสียเกิดขึ้นซึ่งเฉพาะช่วงมรสุมในปีนี้มีนักท่องเที่ยวจมน้ำในพื้นที่หาดกะรนและเสียชีวิตสูงถึง 12 คน”
นายวินัย ชิดเชี่ยว กำนันตำบลกะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ต กล่าวงถึงการจัดกำลังชุดรักษาความสงบเรียบร้อย ดูแลความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยวที่ลงเล่นน้ำบริเวณชายหาดต่างๆ ในพื้นที่ตำบลกะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ต ว่าเนื่องจากขณะนี้ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตได้รับผลกระทบจากลมมรสุมทำให้มีฝนตกหนัก และคลื่นลมแรงตลอดเวลา แม้ว่าจะมีฝนตกหนักและคลื่นลมแรง แต่ก็ยังคงมีนักท่องเที่ยวฝ่าฝืนธงแดงลงไปเล่นน้ำอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะมีเจ้าหน้าที่คอยเตือนก็ตาม จึงต้องมีการจัดกำลังเจ้าหน้าที่ และเครือข่ายตาสับปะรดเฝ้าระวังตลอดเวลา
ทั้งนี้ เพราะวานนี้ (4 ต.ค.) เพียงแค่วันเดียวมีนักท่องเที่ยวประสบอุบัติเหตุจมน้ำมากถึง 13 ราย โดยเหตุเกิดที่บริเวณหาดกะตะ ต.กะรนจำนวน 8 ราย และหาดกะรนจำนวน 5 ราย แต่ทั้งหมดได้รับการช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ชุดรักษาความปลอดภัย เครือข่ายตาสับปะรด และผู้ประกอบการเจ็ตสกีในพื้นที่ ทำให้วันนี้ต้องจัดกำลังเจ้าหน้าที่ดูแลให้เข้มข้นขึ้น
นายวินัยกล่าวต่อไปว่า จริงๆแล้วการดูแลความปลอดภัยและช่วยเหลือนักท่องเที่ยวที่บริเวณชายหาดต่างๆ นั้น ขณะนี้ทาง อบจ.ภูเก็ต ได้ว่าจ้างบริษัทเอกชนในการจัดบีชการ์ดและอุปกรณ์ในการช่วยเหลือและดูแลนักท่องเที่ยวอยู่แล้ว แต่ตนคิดว่าอุปกรณ์ที่นำมาใช้ยังไม่มีความเหมาะสมและไม่เหมาะที่จะใช้ในการออกไปช่วยเหลือนักท่องเที่ยวในช่วงคลื่นลมแรง เช่นการใช้เรือยากออกไปช่วย ซึ่งอุปกรณ์ที่จะใช้ช่วยเหลือนักท่องเที่ยว เวลาจมน้ำได้เป็นอย่างดีคือเรือเจ็ตสกี และเซิร์ฟบอร์ด เพราะสามารถฝ่าคลื่นที่มีความแรงออกไปได้
“จึงอยากให้ผู้ที่รับผิดชอบเข้ามาดูแลและปรับปรุง ในเรื่องของอุปกรณ์ให้มีความเหมาะสม นอกจากนั้นยังมีเรื่องของบุคคลกรซึ่งคิดว่าปัจจุบันยังมีไม่เพียงพอ ควรจะเพิ่มให้มีจำนวนมากกว่าที่เป็นอยู่ยังกล่าวต่อ และที่สำคัญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชนจะต้องทำความเข้าใจกับนักท่องเที่ยวตั้งแต่เดินทางมาถึงเรื่องของการขึ้นธงแดงห้ามลงเล่นน้ำ เพราะปัจจุบันนี้ยังมีนักท่องเที่ยวฝ่าฝืนลงเล่นน้ำอยู่ตลอดเวลา ทำให้มีความสูญเสียเกิดขึ้นซึ่งเฉพาะช่วงมรสุมในปีนี้มีนักท่องเที่ยวจมน้ำในพื้นที่หาดกะรนและเสียชีวิตสูงถึง 12 คน”
