ศูนย์ข่าวภูเก็ต - เจ้าหน้าที่กลุ่มสัตว์ทะเลหายากสถาบันวิจัยภูเก็ตนำเต่าทะเล ขึ้นเกยตื้นพร้อมกัน 4 ตัวที่เกาะคอเขา จ.พังงา ตาย 1 ตัว รอด 3 ตัว มาอนุบาลรักษาบาดแผลจากถูกอวนรัด ระบุ สาเหตุที่พบเต่าทะเลเกยตื้นจำนวนมากเนื่องจากคลื่นลมแรงส่วนใหญ่บาดเจ็บจากถูกอวนบาด
วันนี้ (4 ต.ค.) เจ้าหน้าที่ประจำกลุ่มสัตว์ทะเลหายาก สถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลชายฝั่งทะเลและป่าชายเลน จ.ภูเก็ต ได้นำเต่าทะเลที่ขึ้นเกยตื้นที่บริเวณเกาะคอเขา หมู่ที่ 2 ต.เกาะคอเขา อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา มาไว้ในบ่ออนุบาลที่บริเวณด้านหลังสถาบันวิจัยฯจำนวน 3 ตัว หลังจากได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า พบเต่าขนาดต่างๆ จำนวน 4 ตัว ถูกคลื่นซัดมาเกยตื้นพร้อมกัน ที่บริเวณเกาะคอเขา แต่มีเต่าจำนวน 1 ตัวที่ตายก่อนที่เจ้าหน้าที่จะไปรับ
นางสาวพัชราภรณ์ แก้วโม่ง สัตว์แพทย์ประจำกลุ่มสัตว์ทะเลหายาก สถาบันวิจัยฯ กล่าวว่า เต่าที่ขึ้นเกยตื้นพร้อมกันทั้ง 4 ตัวในครั้งนี้ เป็นเต่าหญ้าจำนวน 3 ตัวและเต่ากระจำนวน 2 ตัว โดยเต่าตัวที่ตายนั้นเป็นเต่าหญ้า ส่วนเพศนั้นยังไม่สามารถระบุได้ และเต่าตัวที่ใหญ่ที่สุดนั้นมีขนาดกว้าง 64 เซนติเมตร ยาว 59 เซนติเมตร น้ำหนักประมาณ 30 กิโลกรัม มีบาดแผลถูกอวนรัดที่ขาจนถึงกระดูก ส่วนตัวอื่นๆ ก็เช่นกันมีบาดแผลและร่องรอยถูกอวนรัดทุกตัว
ในเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ได้ให้ยาปฏิชีวนะและยาบำรุง และจะต้องรอดูอาการอีกระยะว่าตัวที่ถุกอวนบาดที่ขาจะต้องตัดขาทิ้งหรือไม่
นางสาวพัชราภรณ์ กล่าวต่อไปว่า สำหรับในช่วงนี้มีเต่าทะเลขึ้นมาเกยตื้นเป็นจำนวนมากเฉพาะเดือน ต.ค นี้พบเต่าทะเลขึ้นมาเกยตื้นแล้วจำนวน 6 ตัว ตาย 3 ตัว และมีชีวิตรอดจำนวน 3 ตัว ซึ่งพบในจังหวัดภูเก็ตและจังหวัดพังงา ซึ่งสาเหตุที่เต่าเกยตื่นจำนวนมากในขณะนี้น่าจะมีสาเหตุมาจากคลื่นลมแรงทำให้เต่าที่ได้รับบาดเจ็บถูกคลื่นซักเข้าหาฝั่ง และเท่าที่ตรวจสอบพบว่าเต่าที่ตายหรือได้รับบาดเจ็บส่วนใหญ่ถูกอวนบาดทั้งสิ้น