ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต สั่งกำชับให้หน่วยงานราชการและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ดำเนินการกวดขันร้านขายของเก่ารับซื้อของโจร ชี้พบกระทำผิดไม่ให้กันเป็นพยานจะต้องมีการดำเนินการเด็ดขาด
นายวิชัย ไพรสงบ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวในการประชุมคณะกรมการจังหวัดภูเก็ตประจำเดือน ก.ย.2552 ซึ่งจัดขึ้นวันนี้ (29 ก.ย.) ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดภูเก็ตหลังใหม่ ถึงปัญหาการขโมยทรัพย์สินของทางราชการว่า ในช่วงที่ผ่านมาจังหวัดภูเก็ตได้รับการร้องเรียนจากประชาชนและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นหลายแห่งว่า มีกลุ่มมิจฉาชีพตระเวนขโมยฝาหรือตะแกรงปิดท่อระบายน้ำ สายไฟฟ้า และสายโทรศัพท์บ่อยครั้ง เช่น ในท้องที่ตำบลศรีสุนทร อำเภอถลาง ซึ่งภายหลังจากที่มีการโจรกรรมทรัพย์สินเหล่านั้นไปแล้วคนร้ายจะนำไปเสนอขายให้กับร้านขายของเก่าต่างๆ
โดยเรื่องนี้เป็นคดีความสำคัญที่เกี่ยวข้องกับความเสียหายของทรัพย์สินในระบบสาธารณูปโภค สาธารณูปการ และสร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชน จึงมอบหมายให้นายปิยะ ภะรตะศิลปิน ปลัดจังหวัดภูเก็ต ไปตรวจสอบข้อเท็จจริง และกำชับให้พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบพิจารณาหรือใช้ดุลยพินิจในการดำเนินการที่เด็ดขาด
โดยเฉพาะกรณีที่ร้านขายของเก่าที่มีมากถึง 300 กว่าแห่ง และบางส่วนยังคงรับซื้อสิ่งของจากบุคคลที่รู้ว่าเป็นคนร้าย และเป็นสิ่งของที่ไม่มีในพื้นที่ทั่วไป โดยสิ่งของที่นำมาจำหน่ายนั้นเป็นสิ่งของที่บ่งบอกว่าใช้เฉพาะพื้นที่ ในขณะเดียวกันจะต้องควบคุมดูแลรถซาเล้งที่ตระเวนรับซื้อของเก่าอีกส่วนหนึ่ง
ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า จากข้อมูลสถิติการจับกุมผู้ต้องหาในคดีโจรกรรมทรัพย์สินของทางราชการและหน่วยงานรัฐวิสาหกิจที่ดูแลระบบสาธารณูปโภค สาธารณูปการ พบว่าเจ้าหน้าที่มักจะกันให้เจ้าของร้านขายของเก่าเป็นพยานในคดี และตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จะไม่ให้กันเป็นพยานอีกต่อไปและจะต้องเป็นผู้ที่ได้รับโทษเหมือนกับผู้ต้องหาในคดีรายอื่นด้วย
นอกจากนี้ ทางจังหวัดพิจารณาเห็นว่าผู้ที่มีส่วนพัวพันในคดีสันนิษฐานว่าเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ดังนั้น ทางองค์การบริหารส่วนจังหวัด องค์การบริหารส่วนตำบลหรือเทศบาลตำบล เทศบาลเมืองและเทศบาลนคร น่าจะทำโครงการนำร่องเพื่อรณรงค์ในเรื่องนี้อย่างเต็มที่และจริงจังต่อเนื่องและคอยเป็นหูเป็นตาแจ้งเบาะแสให้หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องต่อไป
นายวิชัย ไพรสงบ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวในการประชุมคณะกรมการจังหวัดภูเก็ตประจำเดือน ก.ย.2552 ซึ่งจัดขึ้นวันนี้ (29 ก.ย.) ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดภูเก็ตหลังใหม่ ถึงปัญหาการขโมยทรัพย์สินของทางราชการว่า ในช่วงที่ผ่านมาจังหวัดภูเก็ตได้รับการร้องเรียนจากประชาชนและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นหลายแห่งว่า มีกลุ่มมิจฉาชีพตระเวนขโมยฝาหรือตะแกรงปิดท่อระบายน้ำ สายไฟฟ้า และสายโทรศัพท์บ่อยครั้ง เช่น ในท้องที่ตำบลศรีสุนทร อำเภอถลาง ซึ่งภายหลังจากที่มีการโจรกรรมทรัพย์สินเหล่านั้นไปแล้วคนร้ายจะนำไปเสนอขายให้กับร้านขายของเก่าต่างๆ
โดยเรื่องนี้เป็นคดีความสำคัญที่เกี่ยวข้องกับความเสียหายของทรัพย์สินในระบบสาธารณูปโภค สาธารณูปการ และสร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชน จึงมอบหมายให้นายปิยะ ภะรตะศิลปิน ปลัดจังหวัดภูเก็ต ไปตรวจสอบข้อเท็จจริง และกำชับให้พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบพิจารณาหรือใช้ดุลยพินิจในการดำเนินการที่เด็ดขาด
โดยเฉพาะกรณีที่ร้านขายของเก่าที่มีมากถึง 300 กว่าแห่ง และบางส่วนยังคงรับซื้อสิ่งของจากบุคคลที่รู้ว่าเป็นคนร้าย และเป็นสิ่งของที่ไม่มีในพื้นที่ทั่วไป โดยสิ่งของที่นำมาจำหน่ายนั้นเป็นสิ่งของที่บ่งบอกว่าใช้เฉพาะพื้นที่ ในขณะเดียวกันจะต้องควบคุมดูแลรถซาเล้งที่ตระเวนรับซื้อของเก่าอีกส่วนหนึ่ง
ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า จากข้อมูลสถิติการจับกุมผู้ต้องหาในคดีโจรกรรมทรัพย์สินของทางราชการและหน่วยงานรัฐวิสาหกิจที่ดูแลระบบสาธารณูปโภค สาธารณูปการ พบว่าเจ้าหน้าที่มักจะกันให้เจ้าของร้านขายของเก่าเป็นพยานในคดี และตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จะไม่ให้กันเป็นพยานอีกต่อไปและจะต้องเป็นผู้ที่ได้รับโทษเหมือนกับผู้ต้องหาในคดีรายอื่นด้วย
นอกจากนี้ ทางจังหวัดพิจารณาเห็นว่าผู้ที่มีส่วนพัวพันในคดีสันนิษฐานว่าเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ดังนั้น ทางองค์การบริหารส่วนจังหวัด องค์การบริหารส่วนตำบลหรือเทศบาลตำบล เทศบาลเมืองและเทศบาลนคร น่าจะทำโครงการนำร่องเพื่อรณรงค์ในเรื่องนี้อย่างเต็มที่และจริงจังต่อเนื่องและคอยเป็นหูเป็นตาแจ้งเบาะแสให้หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องต่อไป
