นราธิวาส - รมช.มหาดไทย เยี่ยมจุดตรวจทหาร-ตำรวจในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส เพื่อให้กำลังใจแก่ผู้ปฏิบัติหน้าที่ และรับทราบการขาดแคลนเครื่องมือในการตรวจสอบหาวัตถุระเบิด ตรวจสอบสารเสพติด GT 200 พร้อมยันเดินหน้าตรวจสอบทุจริตกล้อง CCTV
ค่ำวานนี้ (7 ก.ย.) นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย พล.ต.ต.สุรชัย สืบสุข ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส พ.ต.อ.โชติ ชวาลวิวัฒน์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส พ.อ.ธรรมนูญ วิถี เสนาธิการหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส นายธนน เวชกรกานนท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส และนายนิพนธ์ นราพิทักษ์กุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส และคณะเจ้าหน้าที่ร่วมออกตรวจเยี่ยมการทำงานของเจ้าหน้าที่ ทหาร ตำรวจ บริเวณจุดตรวจบนถนนสายหลักเพื่อตรวจสอบบุคคลและรถยนต์ รถจักรยานยนต์ต้องสงสัยที่ผ่านไปมาบริเวณจุดตรวจ
ทั้งนี้ คณะได้เข้าตรวจเยี่ยมเจ้าหน้าที่บริเวณจุดตรวจบ้านปลักปลา จุดตรวจสะปอม อ.เมือง จุดตรวจละหาร และจุดตรวจบูเก๊ะบากงใน อ.ยี่งอ ซึ่งได้พูดคุยให้กำลังใจกับเจ้าหน้าที่ และย้ำถึงความเสียสละในหน้าที่ ที่จะดูแลปกป้องความปลอดภัยให้กับประชาชนจากสถานการณ์ความไม่สงบ
พร้อมกันนี้ พล.ต.ต.สุรชัย สืบสุข ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส ได้ร่วมพูดคุยถึงปัญหาการทำงานด้านการแก้ปัญหาความไม่สงบของเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงขาดแคลนเครื่องมือในการตรวจสอบหาวัตถุระเบิด ตรวจสอบสารเสพติด หรือเครื่อง GT200
ที่ผ่านมามีเพียง 3 เครื่องที่ได้รับการสนับสนุนมากจากแม่ทัพภาคที่ 4 ไม่เพียงพอกับการทำงาน เพื่อแก้ปัญหาความไม่สงบ เนื่องจากต้องส่งให้ในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูงเท่านั้น และหากเป็นไปได้ต้องการสนับสนุนจากกระทรวงมหาดไทย ในการอนุมัติงบประมาณในการจัดซื้อเครื่อง GT200 แจกจ่ายให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 19 สถานีใน 13 อำเภอของจังหวัดนราธิวาส โดยอาจจะลดงบประมาณในการซื้อเต็มจำนวนเพราะเครื่อง GT200 ราคา 1,200,000 บาท มีการ์ดในการใช้ตรวจจำนวน 28 การ์ด แต่หากนำมาใช้ในพื้นที่ซื้อการ์ดเพียง 3 การ์ดเท่านั้น
ในการใช้ปฏิบัติงานคือการ์ดสำหรับใช้ตรวจสอบสารเสพติด การ์ดตรวจหาสารเครื่องกระสุน และการ์ดสำหรับตรวจหาสารวัตถุระเบิด ซึ่งราคาการ์ดละ 50,000 บาท โดยนายถาวร เสนเนียม ได้รับไว้พิจารณาและนำเสนอต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป
นอกจากนี้ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยได้กล่าวถึงปัญหาการติดตั้งกล้องวงจรปิดในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วยว่า ปัญหาในเรื่องดังกล่าวคงต้องรีบแก้ไข ซึ่งรอรับฟังผลสรุปของคณะกรรมการตรวจสอบก่อนว่าเป็นอย่างไรถึงจะสรุปเรื่องดังกล่าวได้
ค่ำวานนี้ (7 ก.ย.) นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย พล.ต.ต.สุรชัย สืบสุข ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส พ.ต.อ.โชติ ชวาลวิวัฒน์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส พ.อ.ธรรมนูญ วิถี เสนาธิการหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส นายธนน เวชกรกานนท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส และนายนิพนธ์ นราพิทักษ์กุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส และคณะเจ้าหน้าที่ร่วมออกตรวจเยี่ยมการทำงานของเจ้าหน้าที่ ทหาร ตำรวจ บริเวณจุดตรวจบนถนนสายหลักเพื่อตรวจสอบบุคคลและรถยนต์ รถจักรยานยนต์ต้องสงสัยที่ผ่านไปมาบริเวณจุดตรวจ
ทั้งนี้ คณะได้เข้าตรวจเยี่ยมเจ้าหน้าที่บริเวณจุดตรวจบ้านปลักปลา จุดตรวจสะปอม อ.เมือง จุดตรวจละหาร และจุดตรวจบูเก๊ะบากงใน อ.ยี่งอ ซึ่งได้พูดคุยให้กำลังใจกับเจ้าหน้าที่ และย้ำถึงความเสียสละในหน้าที่ ที่จะดูแลปกป้องความปลอดภัยให้กับประชาชนจากสถานการณ์ความไม่สงบ
พร้อมกันนี้ พล.ต.ต.สุรชัย สืบสุข ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส ได้ร่วมพูดคุยถึงปัญหาการทำงานด้านการแก้ปัญหาความไม่สงบของเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงขาดแคลนเครื่องมือในการตรวจสอบหาวัตถุระเบิด ตรวจสอบสารเสพติด หรือเครื่อง GT200
ที่ผ่านมามีเพียง 3 เครื่องที่ได้รับการสนับสนุนมากจากแม่ทัพภาคที่ 4 ไม่เพียงพอกับการทำงาน เพื่อแก้ปัญหาความไม่สงบ เนื่องจากต้องส่งให้ในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูงเท่านั้น และหากเป็นไปได้ต้องการสนับสนุนจากกระทรวงมหาดไทย ในการอนุมัติงบประมาณในการจัดซื้อเครื่อง GT200 แจกจ่ายให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 19 สถานีใน 13 อำเภอของจังหวัดนราธิวาส โดยอาจจะลดงบประมาณในการซื้อเต็มจำนวนเพราะเครื่อง GT200 ราคา 1,200,000 บาท มีการ์ดในการใช้ตรวจจำนวน 28 การ์ด แต่หากนำมาใช้ในพื้นที่ซื้อการ์ดเพียง 3 การ์ดเท่านั้น
ในการใช้ปฏิบัติงานคือการ์ดสำหรับใช้ตรวจสอบสารเสพติด การ์ดตรวจหาสารเครื่องกระสุน และการ์ดสำหรับตรวจหาสารวัตถุระเบิด ซึ่งราคาการ์ดละ 50,000 บาท โดยนายถาวร เสนเนียม ได้รับไว้พิจารณาและนำเสนอต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป
นอกจากนี้ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยได้กล่าวถึงปัญหาการติดตั้งกล้องวงจรปิดในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วยว่า ปัญหาในเรื่องดังกล่าวคงต้องรีบแก้ไข ซึ่งรอรับฟังผลสรุปของคณะกรรมการตรวจสอบก่อนว่าเป็นอย่างไรถึงจะสรุปเรื่องดังกล่าวได้
