ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ผู้บังคับการตำรวจภูธรภูเก็ตสั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 8 สถานี ตรวจเข้มแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองหลังหมดระยะเวลาการขึ้นทะเบียน ออกตรวจเข้มเดือนละ 3 รอบ
พล.ต.ต.พิกัด ตันติพงศ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยถึงมาตรการกวดขัน กวาด
ล้าง จับกุมแรงงานต่างด้าว 3 สัญชาติ พม่า ลาว และกัมพูชา หลังหมดช่วงการขึ้นทะเบียนแรงงานต่างด้าวในส่วนของตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ตว่า ได้ตั้งงบประมาณขึ้นมาจำนวนหนึ่ง ซึ่งมากพอสมควร เพื่อจัดสรรให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดทั้ง 8 สถานีของจังหวัดภูเก็ต นำไปใช้ดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องนี้
โดยมาตรการเริ่มดำเนินการแล้วตั้งแต่เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2552 ที่ผ่านมา ซึ่งจะแบ่งช่วงการปราบปรามออกเป็น 3 ระยะ คือ ช่วงต้นเดือน ช่วงกลางเดือน และช่วงปลายเดือน จะดำเนินการลักษณะนี้ทุกเดือนไปเรื่อยๆ เพื่อปราบปรามแรงงานต่างด้าวที่ลักลอบเข้าเมือง และทำงานผิดกฎหมายให้หมดไป
เนื่องจากรัฐบาลเปิดโอกาสให้นายจ้างที่มีความประสงค์จะใช้แรงงานต่างด้าวในสถานประกอบการประเภทต่างๆ ให้นำแรงงานมาขึ้นทะเบียนให้ถูกต้องตามกฎหมายแล้ว เมื่อผู้ประกอบการไม่ปฏิบัติตามกฎระเบียบที่วางไว้ ก็จะต้องถูกจับกุมและดำเนินคดีตามกฎหมายขั้นเด็ดขาด และผลักดันออกนอกประเทศตามขั้นตอนของกฎหมาย เนื่องจากหากปล่อยให้มีแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย และอยู่นอกระบบจำนวนมากอาจจะส่งผลถึงการก่อปัญหาอาชญากรรมขึ้นได้ เพราะเมื่อแรงงานต่างด้าวก่อเหตุก็จะทำให้ยากต่อการตรวจสอบ ติดตามจับกุมตัว โดยเฉพาะหากก่อเหตุกับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ก็จะส่งผลไปถึงภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของเมืองท่องเที่ยวนานาชาติด้วย
โดยขณะนี้พบว่าในสถานประกอบการต่างๆ ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ไม่เว้นแม้กระทั่งร้านขนาดเล็กก็ยังมีการใช้แรงงานต่างด้าว มีทั้งถูกต้องตามกฎหมาย และไม่ถูกกฎหมายลักลอบทำงานอยู่ ซึ่งทุกภาคส่วนจะต้องดำเนินการปราบปรามอย่างเข้มงวด เพราะหากปล่อยให้เป็นหน้าที่ของหน่วยใด หน่วยหนึ่งก็จะทำให้การปราบปรามยากขึ้น เพราะกำลังมีไม่เพียงพอ
พล.ต.ต.พิกัด ตันติพงศ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยถึงมาตรการกวดขัน กวาด
ล้าง จับกุมแรงงานต่างด้าว 3 สัญชาติ พม่า ลาว และกัมพูชา หลังหมดช่วงการขึ้นทะเบียนแรงงานต่างด้าวในส่วนของตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ตว่า ได้ตั้งงบประมาณขึ้นมาจำนวนหนึ่ง ซึ่งมากพอสมควร เพื่อจัดสรรให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดทั้ง 8 สถานีของจังหวัดภูเก็ต นำไปใช้ดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องนี้
โดยมาตรการเริ่มดำเนินการแล้วตั้งแต่เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2552 ที่ผ่านมา ซึ่งจะแบ่งช่วงการปราบปรามออกเป็น 3 ระยะ คือ ช่วงต้นเดือน ช่วงกลางเดือน และช่วงปลายเดือน จะดำเนินการลักษณะนี้ทุกเดือนไปเรื่อยๆ เพื่อปราบปรามแรงงานต่างด้าวที่ลักลอบเข้าเมือง และทำงานผิดกฎหมายให้หมดไป
เนื่องจากรัฐบาลเปิดโอกาสให้นายจ้างที่มีความประสงค์จะใช้แรงงานต่างด้าวในสถานประกอบการประเภทต่างๆ ให้นำแรงงานมาขึ้นทะเบียนให้ถูกต้องตามกฎหมายแล้ว เมื่อผู้ประกอบการไม่ปฏิบัติตามกฎระเบียบที่วางไว้ ก็จะต้องถูกจับกุมและดำเนินคดีตามกฎหมายขั้นเด็ดขาด และผลักดันออกนอกประเทศตามขั้นตอนของกฎหมาย เนื่องจากหากปล่อยให้มีแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย และอยู่นอกระบบจำนวนมากอาจจะส่งผลถึงการก่อปัญหาอาชญากรรมขึ้นได้ เพราะเมื่อแรงงานต่างด้าวก่อเหตุก็จะทำให้ยากต่อการตรวจสอบ ติดตามจับกุมตัว โดยเฉพาะหากก่อเหตุกับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ก็จะส่งผลไปถึงภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของเมืองท่องเที่ยวนานาชาติด้วย
โดยขณะนี้พบว่าในสถานประกอบการต่างๆ ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ไม่เว้นแม้กระทั่งร้านขนาดเล็กก็ยังมีการใช้แรงงานต่างด้าว มีทั้งถูกต้องตามกฎหมาย และไม่ถูกกฎหมายลักลอบทำงานอยู่ ซึ่งทุกภาคส่วนจะต้องดำเนินการปราบปรามอย่างเข้มงวด เพราะหากปล่อยให้เป็นหน้าที่ของหน่วยใด หน่วยหนึ่งก็จะทำให้การปราบปรามยากขึ้น เพราะกำลังมีไม่เพียงพอ