นครศรีธรรมราช - แก๊งปาหินโผล่นครศรีธรรมราช ศิลปินดัง “บ่าววี” โดนเอง หลังกลับจากการแสดงที่สัปดาห์วิทยาศาสตร์วิทยาเขตใสใหญ่ เผย 18 ล้อ ปิกอัพรวดเจอรวดเดียว 4 คัน เดชะบุญไร้เจ็บ-ตาย คาดเป็นการก่อเหตุของกลุ่มวัยรุ่นในพื้นที่
วันนี้ (30 ส.ค.) นายสมชัย สาระพันธ์ อายุ 40 ปี อยู่ 63/3 ถ.ราชดำเนิน อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช หรือที่รู้จักในนาม “หลวงปาน ซาวด์” ซาวเอนจิเนียร์ชื่อดังของภาคใต้ เข้าเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวถึงแก๊งปาหินที่อาละวาดลุกลามมาถึงจังหวัดนครศรีธรรมราช โดยขณะเกิดเหตุนั้นตนเองเป็นผู้ขับขี่โดยมี “บ่าววี” หรือจ่าอากาศเอกวีรยุทธ นานช้า ศิลปินชื่อดังเพลงปักษ์ใต้ และทีมงานนั่งมาในรถ และต้องการเปิดเผยเรื่องที่เกิดขึ้นให้กับผู้ใช้รถใช้ถนนระมัดระวัง โดยเฉพาะในเวลากลางคืนช่วงระหว่างช่องเขาร่อนพิบูลย์มาจนถึง 3 แยกสวนผักร่อนพิบูลย์ ช่วง ม.7 บ้านโคกยาง ต.ร่อนพิบูลย์ อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช
นายสมชัย สาระพันธ์ เปิดเผยว่า เมื่อคืนวันที่ 28 สิงหาคม 52 เวลา 02.00 น.ที่ผ่านมา ทีมคณะการแสดงซึ่งประกอบไปด้วยศิลปินปักษ์ใต้ โดยมี คณะครูเชาว์โชว์ คณะ สมพงษ์ วงลูกคลัก และ ศิลปิน บ่าววี ได้มาร่วมกันแสดงดนตรีในงานสัปดาห์วิทยาศาสตร์วิทยาเขตใสใหญ่ ต.ชะมาย อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช หลังจากเสร็จการแสดง ตนเอง ได้นำนักร้อง ใน คณะครูเชาว์โชว์ และคณะสมพงษ์ วงลูกคลัก และ บ่าววี โดยสารมากับรถกระบะ มิซูบิชิไทตัน สีน้ำเงินแผ่นป้ายทะเบียน บษ-361 สงขลา เดินทางเข้าตัวเมืองนครศรีธรรมราช เพื่อรับประทานข้าวต้มรอบดึก
โดยเดินทางมาตามถนนสาย 41 จากอำเภอทุ่งสง เพื่อเข้าตัวเมืองนครศรีธรรมราช ขณะที่คณะได้เดินทางลงจากบ้านช่องเขามาถึงบริเวณ บ้านโคกยาง หมู่ 7 ต.ร่อนพิบูลย์ อ.ร่อนพิบูลย์ ได้เกินมีวัตถุมากระแทกข้างตัวรถอย่างแรง ส่งผลให้คนที่อยู่ในรถ ซึ่งมีบ่าววี เดินทางมาด้วย เกิดตกใจกันทั้งรถ โดยตนตั้งสติไม่ยอมจอดรถเกรงอันตราย
เมื่อมาถึงช่วงชุมชนที่มีแสงสว่างใกล้กับสะพานลอยห่างจากจุดเกิดเหตุราว 4 กม.ได้ลงมาตรวจประตูข้างรถพบรอยถูกของแข็งกระแทกเข้า บริเวณตัวถุงรถด้านซ้ายเป็นรอยบุบขนาดใหญ่ซึ่งคาดว่าน่าจะมาจากคนปาหินใสรถแน่นอน
หลังจากนั้นได้แจ้งตำรวจที่ป้อมได้พบรถกระบะ อีก 2 คัน บรรทุกพืชผัก ถูกปาหินใส่เช่นกัน โดยพบว่าช่วงที่เกิดเหตุเป็นบริเวณเดียวกัน และมีรถบรรทุก 18 ล้ออีก 1 คันก็ลงมาแจ้งที่ป้อมตำรวจเช่นกันโดยคนขัยรถ 18 ล้อระบุว่าถูกมาแล้ว 2 ครั้ง ซึ่งรวมมีรถถูกปาหินถึง 4 คัน ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นฝีมือของกลุ่มวัยรุ่นคึกคะนองหรือต้องการให้รถเกิดอุบัติเหตุแล้วเข้าไปปลดทรัพย์
“หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ป้อมตำรวจ 3 แยกสวนผักได้ประสานไปยังสถานีตำรวจภูธรอำเภอร่อนพิบูลย์ ให้นำเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบตรงบริเวณจุดเกิด แต่เหตุไม่พบความผิดปกติโดยได้ไปสอบถามชาวบ้านก็ไม่มีใครเห็นเหตุการณ์ ซึ่งอาจฝีมือวัยรุ่นละแวกใกล้ที่เกิดเหตุ ที่คึกคะนองทำพฤติกรรมเลียนแบบก็อาจเป็นได้ ซึ่งถ้ามีการปาหินเข้ากระจกอาจมีอุบัติเหตุร้ายแรงได้ เนื่องจากจุดเกิดเหตุเป็นทางลงเขา รถพุ่งลงมาด้วยความเร็ว ซึ่งเป็นรถที่ปาหินเป็นโดยสารแล้วถูกปาหินเข้ากระจกอาจทำให้คนรถเสียหลักเกิดโศกนาถกรรมครั้งใหญ่แน่” นายสมชัยกล่าว
พ.ต.อ.ภคพล ทวิชศรี ผู้กำกับการตำรวจภูธรอำเภอร่อนพิบูลย์ เปิดเผยว่า สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าว หลังจากตำรวจได้รับแจ้งได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบจุดเกิดเหตุแต่ไม่พบอะไร ขณะที่ผู้เสียหายก็ยังไม่เข้าไปแจ้งความใดๆ ซึ่งคาดว่าคงจะรีบเดินทางไปที่อื่น
ในส่วนการป้องกัน พ.ต.อ.ภคพล กล่าวว่า หลังจากทราบข่าวได้สั่งการให้สายตรวจลาดตระเวณบริเวณละแวกที่เกิดเหตุมากขึ้น เพราะเป็นรอยต่อ ระหว่างอำเภอ ร่อนพิบุลย์ และอำเภอทุ่งสง โดยถนนสายนี้เป็นถนนสายหลัก ขาขึ้น ขาล่อง ลงภาคใต้ มีรถจำนวนมากสัญจรไปมา ซึ่งต้องเพิ่มความเข้มมากขึ้น เพื่อป้อมปรามพฤติกรรมเลียนแบบปาหิน เหมือนจังหวัดอื่นๆ
วันนี้ (30 ส.ค.) นายสมชัย สาระพันธ์ อายุ 40 ปี อยู่ 63/3 ถ.ราชดำเนิน อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช หรือที่รู้จักในนาม “หลวงปาน ซาวด์” ซาวเอนจิเนียร์ชื่อดังของภาคใต้ เข้าเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวถึงแก๊งปาหินที่อาละวาดลุกลามมาถึงจังหวัดนครศรีธรรมราช โดยขณะเกิดเหตุนั้นตนเองเป็นผู้ขับขี่โดยมี “บ่าววี” หรือจ่าอากาศเอกวีรยุทธ นานช้า ศิลปินชื่อดังเพลงปักษ์ใต้ และทีมงานนั่งมาในรถ และต้องการเปิดเผยเรื่องที่เกิดขึ้นให้กับผู้ใช้รถใช้ถนนระมัดระวัง โดยเฉพาะในเวลากลางคืนช่วงระหว่างช่องเขาร่อนพิบูลย์มาจนถึง 3 แยกสวนผักร่อนพิบูลย์ ช่วง ม.7 บ้านโคกยาง ต.ร่อนพิบูลย์ อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช
นายสมชัย สาระพันธ์ เปิดเผยว่า เมื่อคืนวันที่ 28 สิงหาคม 52 เวลา 02.00 น.ที่ผ่านมา ทีมคณะการแสดงซึ่งประกอบไปด้วยศิลปินปักษ์ใต้ โดยมี คณะครูเชาว์โชว์ คณะ สมพงษ์ วงลูกคลัก และ ศิลปิน บ่าววี ได้มาร่วมกันแสดงดนตรีในงานสัปดาห์วิทยาศาสตร์วิทยาเขตใสใหญ่ ต.ชะมาย อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช หลังจากเสร็จการแสดง ตนเอง ได้นำนักร้อง ใน คณะครูเชาว์โชว์ และคณะสมพงษ์ วงลูกคลัก และ บ่าววี โดยสารมากับรถกระบะ มิซูบิชิไทตัน สีน้ำเงินแผ่นป้ายทะเบียน บษ-361 สงขลา เดินทางเข้าตัวเมืองนครศรีธรรมราช เพื่อรับประทานข้าวต้มรอบดึก
โดยเดินทางมาตามถนนสาย 41 จากอำเภอทุ่งสง เพื่อเข้าตัวเมืองนครศรีธรรมราช ขณะที่คณะได้เดินทางลงจากบ้านช่องเขามาถึงบริเวณ บ้านโคกยาง หมู่ 7 ต.ร่อนพิบูลย์ อ.ร่อนพิบูลย์ ได้เกินมีวัตถุมากระแทกข้างตัวรถอย่างแรง ส่งผลให้คนที่อยู่ในรถ ซึ่งมีบ่าววี เดินทางมาด้วย เกิดตกใจกันทั้งรถ โดยตนตั้งสติไม่ยอมจอดรถเกรงอันตราย
เมื่อมาถึงช่วงชุมชนที่มีแสงสว่างใกล้กับสะพานลอยห่างจากจุดเกิดเหตุราว 4 กม.ได้ลงมาตรวจประตูข้างรถพบรอยถูกของแข็งกระแทกเข้า บริเวณตัวถุงรถด้านซ้ายเป็นรอยบุบขนาดใหญ่ซึ่งคาดว่าน่าจะมาจากคนปาหินใสรถแน่นอน
หลังจากนั้นได้แจ้งตำรวจที่ป้อมได้พบรถกระบะ อีก 2 คัน บรรทุกพืชผัก ถูกปาหินใส่เช่นกัน โดยพบว่าช่วงที่เกิดเหตุเป็นบริเวณเดียวกัน และมีรถบรรทุก 18 ล้ออีก 1 คันก็ลงมาแจ้งที่ป้อมตำรวจเช่นกันโดยคนขัยรถ 18 ล้อระบุว่าถูกมาแล้ว 2 ครั้ง ซึ่งรวมมีรถถูกปาหินถึง 4 คัน ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นฝีมือของกลุ่มวัยรุ่นคึกคะนองหรือต้องการให้รถเกิดอุบัติเหตุแล้วเข้าไปปลดทรัพย์
“หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ป้อมตำรวจ 3 แยกสวนผักได้ประสานไปยังสถานีตำรวจภูธรอำเภอร่อนพิบูลย์ ให้นำเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบตรงบริเวณจุดเกิด แต่เหตุไม่พบความผิดปกติโดยได้ไปสอบถามชาวบ้านก็ไม่มีใครเห็นเหตุการณ์ ซึ่งอาจฝีมือวัยรุ่นละแวกใกล้ที่เกิดเหตุ ที่คึกคะนองทำพฤติกรรมเลียนแบบก็อาจเป็นได้ ซึ่งถ้ามีการปาหินเข้ากระจกอาจมีอุบัติเหตุร้ายแรงได้ เนื่องจากจุดเกิดเหตุเป็นทางลงเขา รถพุ่งลงมาด้วยความเร็ว ซึ่งเป็นรถที่ปาหินเป็นโดยสารแล้วถูกปาหินเข้ากระจกอาจทำให้คนรถเสียหลักเกิดโศกนาถกรรมครั้งใหญ่แน่” นายสมชัยกล่าว
พ.ต.อ.ภคพล ทวิชศรี ผู้กำกับการตำรวจภูธรอำเภอร่อนพิบูลย์ เปิดเผยว่า สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าว หลังจากตำรวจได้รับแจ้งได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบจุดเกิดเหตุแต่ไม่พบอะไร ขณะที่ผู้เสียหายก็ยังไม่เข้าไปแจ้งความใดๆ ซึ่งคาดว่าคงจะรีบเดินทางไปที่อื่น
ในส่วนการป้องกัน พ.ต.อ.ภคพล กล่าวว่า หลังจากทราบข่าวได้สั่งการให้สายตรวจลาดตระเวณบริเวณละแวกที่เกิดเหตุมากขึ้น เพราะเป็นรอยต่อ ระหว่างอำเภอ ร่อนพิบุลย์ และอำเภอทุ่งสง โดยถนนสายนี้เป็นถนนสายหลัก ขาขึ้น ขาล่อง ลงภาคใต้ มีรถจำนวนมากสัญจรไปมา ซึ่งต้องเพิ่มความเข้มมากขึ้น เพื่อป้อมปรามพฤติกรรมเลียนแบบปาหิน เหมือนจังหวัดอื่นๆ