ตรัง - กรมสรรพวุธทหารเรือสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ทำลายทุ่นระเบิดริมชายหาดเกาะยาว ตำบลเกาะลิบง อำเภอกันตัง หลังชาวบ้านพบลอยมาเกยฝั่ง ตั้งแต่เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2552
วันนี้ (27 ส.ค.) ร.ต.ท.ชาญ ชูยก รองผู้บังคับกองร้อย ตชด.435 ตรัง ร่วมกับ เรือเอกปัญญา เขตจตุรัส หัวหน้าชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด กรมสรรพวุธทหารเรือสัตหีบ จังหวัดชลบุรี นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด กรมสรรพวุธทหารเรือสัตหีบ รวมจำนวน 6 นาย ลงพื้นที่ตรวจสอบทุ่นระเบิดชนิด MK 6 หรือ มาร์กซิก บริเวณริมชายหาดเกาะยาว ในพื้นที่หมู่ที่ 6 บ้านหาดยาว ตำบลเกาะลิบง อำเภอกันตัง
ทั้งนี้ ทุ่นระเบิดลูกดังกล่าวมีขนาด เส้นผ่านศูนย์กลาง 35 นิ้ว น้ำหนักประมาณ 100 กิโลกรัม โดยอยู่ในสภาพที่เก่าชำรุด และตัวทุ่นมีสภาพขึ้นสนิมกัดเซาะเป็นรูแหว่ง มองเห็นภายในมีสายไฟฉนวนระเบิด ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้นคาดว่า อายุของทุ่นระเบิดอยู่ที่ประมาณ 70-80 ปี โดยอาจเป็นทุ่นระเบิดที่ทหารเรือ ในสมัยสงครามโลก ครั้งที่ 2 ใช้ในการทำสงคราม ซึ่งจะต้องนำเศษซากกลับไปตรวจสอบให้มีความชัดเจนอีกครั้ง
สำหรับการทำลายทุ่นระเบิดในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด กรมสรรพวุธทหารเรือ ได้ใช้วิธีการทำลายด้วยการจุดฉนวนตัดครึ่งลูกระเบิด ซึ่งก่อนการดำเนินการทางเจ้าหน้าที่ ได้มีการกันผู้คน ผู้สื่อข่าว และเจ้าหน้าที่ที่ติดตาม ออกห่างจากจุดที่จุดชนวนกว่า 200 เมตร เพื่อป้องกันอันตรายจากเศษของทุ่นระเบิด ที่อาจจะกระเด็นมาถูก ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อชีวิตของผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ได้
อย่างไรก็ตาม การทำลายทุ่นระเบิดในครั้งนี้ สามารถดำเนินไปได้ด้วยดี โดยไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด ของกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง ที่ได้เข้าร่วมในการทำลายทุ่นระเบิดในครั้งนี้ด้วย ได้ขอเศษซากของทุ่นระเบิดไว้ส่วนหนึ่งเพื่อนำกลับไปศึกษาด้วย สำหรับทุ่นระเบิดลูกนี้ชาวบ้านในพื้นที่ได้พบเห็นเมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2552 ที่ผ่านมา และมีชาวบ้านบางรายพยายามนำไปขายเศษเหล็ก
ทั้งนี้ เมื่อหลายปีที่ผ่านมาในพื้นที่บ้านหาดยาว เคยมีการพบทุ่นระเบิดในลักษณะใกล้เคียงกันนี้มาแล้ว จำนวน 1 ลูก และในครั้งนั้นได้มีชาวบ้านได้พยายามนำทุ่นระเบิดไปขายเป็นเศษเหล็ก แต่ทุ่นระเบิดเกิดระเบิดขึ้นมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตรวมถึง 4 คน ทำให้ในครั้งนี้ชาวบ้านไม่กล้าที่จะทำอะไรกับทุ่นระเบิดลูกนี้ พร้อมกับมีการแจ้งไปยังทาง ตชด.ที่ 435 ตรัง ให้มาตรวจสอบ ก่อนที่จะมีการปิดกั้นเป็นบริเวณอันตราย และประสานไปยังฐานทัพเรือสัตหีบ ให้เข้ามาตรวจสอบและเก็บกู้ทุ่นระเบิดดังกล่าว
