ชุมพร-“ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร” เผยสามารถส่งผลไม้ออกนอกแหล่งผลิต ช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนได้แล้วกว่าหมื่นตัน ส่งผลให้ราคาในพื้นที่ขยับตัวสูงขึ้น
วันที่ (25 ส.ค.) ที่ศาลากลางจังหวัดชุมพร นายการัณย์ ศุภกิจวิเลขการ ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร ในฐานะประธานคณะกรรมการจัดการไม้ผลออกนอกแหล่งผลิต จังหวัดชุมพร ประชุมร่วมหน่วยงานเกี่ยวข้องถึงการดำเนินงานช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนผลไม้
ซึ่งจากการดำเนินโครงการดังกล่าวที่เริ่มมาตั้งแต่วันที่ 22 ก.ค.- 24 ส.ค.2552 นั้น ที่ผ่านมาได้กระจายผลไม้ออกนอกแหล่งผลิตไปแล้วถึง 10,216 ตัน ใน 3 ประเภท ได้แก่ มังคุด 7,366 ตัน จากโควตา 8,900 ตัน เงาะ 485 ตัน จากโควต้า 500 ตัน และลองกอง 9,097 ตัน จากโควต้า 10,100 ตัน
ทั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร ได้สั่งการให้เกษตรอำเภอทุกแห่งไปประเมินผลไม้ที่เหลืออยู่ในพื้นที่ทั้งหมด เนื่องจากเกรงว่า จะมีพ่อค้าจากต่างจังหวัด นำผลไม้ที่ไม่ใช่ของจังหวัดชุมพร เข้ามาขายปะปน เกรงจะทำให้เกิดปัญหาตามมาภายหลัง และหากเต็มตามที่กำหนดโควตาไว้แล้ว จะได้ยุติการช่วยเหลือเรื่องราคาแก่เกษตรกรต่อไป
นายการัณย์ ศุภกิจวิเลขการ ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร กล่าวว่า ขณะนี้ โควต้าของการช่วยเหลือเกษตรกรใกล้เต็มแล้ว และราคาผลไม้ได้ปรับตัวสูงขึ้นตามกลไกทางการตลาด โดยมังคุดคละอยู่ที่กิโลกรัมละ 10-11 บาท เงาะ 5-7 บาท และลองกอง 9-11 บาท
นอกจากนี้ การนำผลไม้บรรจุลงกล่อง โดยเฉพาะลองกอง จะเป็นการเพิ่มมูลค่าของผลไม้ได้เป็นอย่างมาก คาดว่า หลังจากนี้ จะได้มีการหารือถึงเรื่องบรรจุภัณฑ์ ที่จะนำมาใช้เพื่อเพิ่มมูลค่าให้แก่เกษตรกรชาวสวนผลไม้อีกด้วย
วันที่ (25 ส.ค.) ที่ศาลากลางจังหวัดชุมพร นายการัณย์ ศุภกิจวิเลขการ ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร ในฐานะประธานคณะกรรมการจัดการไม้ผลออกนอกแหล่งผลิต จังหวัดชุมพร ประชุมร่วมหน่วยงานเกี่ยวข้องถึงการดำเนินงานช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนผลไม้
ซึ่งจากการดำเนินโครงการดังกล่าวที่เริ่มมาตั้งแต่วันที่ 22 ก.ค.- 24 ส.ค.2552 นั้น ที่ผ่านมาได้กระจายผลไม้ออกนอกแหล่งผลิตไปแล้วถึง 10,216 ตัน ใน 3 ประเภท ได้แก่ มังคุด 7,366 ตัน จากโควตา 8,900 ตัน เงาะ 485 ตัน จากโควต้า 500 ตัน และลองกอง 9,097 ตัน จากโควต้า 10,100 ตัน
ทั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร ได้สั่งการให้เกษตรอำเภอทุกแห่งไปประเมินผลไม้ที่เหลืออยู่ในพื้นที่ทั้งหมด เนื่องจากเกรงว่า จะมีพ่อค้าจากต่างจังหวัด นำผลไม้ที่ไม่ใช่ของจังหวัดชุมพร เข้ามาขายปะปน เกรงจะทำให้เกิดปัญหาตามมาภายหลัง และหากเต็มตามที่กำหนดโควตาไว้แล้ว จะได้ยุติการช่วยเหลือเรื่องราคาแก่เกษตรกรต่อไป
นายการัณย์ ศุภกิจวิเลขการ ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร กล่าวว่า ขณะนี้ โควต้าของการช่วยเหลือเกษตรกรใกล้เต็มแล้ว และราคาผลไม้ได้ปรับตัวสูงขึ้นตามกลไกทางการตลาด โดยมังคุดคละอยู่ที่กิโลกรัมละ 10-11 บาท เงาะ 5-7 บาท และลองกอง 9-11 บาท
นอกจากนี้ การนำผลไม้บรรจุลงกล่อง โดยเฉพาะลองกอง จะเป็นการเพิ่มมูลค่าของผลไม้ได้เป็นอย่างมาก คาดว่า หลังจากนี้ จะได้มีการหารือถึงเรื่องบรรจุภัณฑ์ ที่จะนำมาใช้เพื่อเพิ่มมูลค่าให้แก่เกษตรกรชาวสวนผลไม้อีกด้วย