ระนอง - จังหวัดระนองเร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่ ออกประกาศเตือนเฝ้าระวังฝนตกหนัก-น้ำท่วมฉับพลัน
นายนิรวัชช์ ปุณณกันต์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง เปิดเผยว่า จังหวัดระนองได้มีหนังสือด่วนที่สุด ถึงส่วนราชการที่เกี่ยวข้องกรณีเกิดฝนตกหนักถึงหนักมากในเขต จ.ระนอง ในหลายพื้นที่ส่งผลให้เกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมขังในหลายพื้นที่ทั้ง อ.เมืองระนอง และ อ.สุขสำราญ ซึ่งจากการตรวจสอบกับสถานีอุตุนิยมวิทยา จ.ระนอง ทราบว่าสามารถวัดปริมาณน้ำฝนได้สูงถึง 200 มิลลิเมตร ที่ อ.สุขสำราญ
ส่งผลให้เกิดน้ำป่าไหลไหลท่วมบ้านเรือน สถานที่ราชการ และพื้นที่ทางการเกษตรของประชาชน โดยเฉพาะบริเวณหน้า อบต.นาคา อ.สุขสำราญ มีน้ำไหลบ่าท่วมถนนเพชรเกษมสูงประมาณ 50 ซม.ขณะนี้รถเล็กไม่สามารสัญจรไปยัง จ.พังงา, กระบี่ และภูเก็ตได้ ทาง ปภ.ระนองได้ประสานแขวงการทางระนองเร่งดำเนินการอย่างเร่งด่วนแล้ว ส่วนความเสียหายยังอยู่ในระหว่างการสำรวจของอำเภอ
รองผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง กล่าวว่า ขณะนี้ จ.ระนอง ได้ออกประกาศเตือนภัยให้ประชาชนระวังฝนตกหนักถึงหนักมาก ทั้งนี้เนื่องด้วยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยตรวจสอบอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยา คาดว่าลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่ยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน และร่องอากาศสูงมีกำลังแรงพาดผ่านประเทศไทย และอ่าวไทย ในระหว่างวันที่ 23-27 ส.ค.2552 นี้
ลักษณะเช่นนี้ทำให้พื้นที่ดังกล่าวมีฝนตกเพิ่มมากขึ้น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากในบางพื้นที่ จึงขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยกับบริเวณที่ราบลุ่มริมน้ำ ที่ลาดเชิงเขา ระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนักที่อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากหรือดินถล่มได้ สำหรับชาวเรือควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ เรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้
ทั้งนี้ เพื่อเตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาคลื่นลมในทะเล อุทกภัย วาตภัยและดินถล่ม อันอาจจะสร้างความเสียหายให้แก่ชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ที่อาศัยบริเวณพื้นที่เสี่ยงภัย จึงขอให้ทุกหน่วยงานและอำเภอดำเนินการ ดังนี้
1.ติดตามสถานการณ์และข่าวการพยากรณ์อากาศโดยใกล้ชิด และประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนโดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยงภัยทราบอย่างกว้างขวาง 2.แจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณที่ลาดเชิงเขา ที่ลุ่มริมน้ำและพื้นที่เสี่ยงภัยของจังหวัดทราบเกี่ยวกับภัยธรรมชาติในระยะ 5-6 วันนี้ โดยผ่านทางวิทยุกระจายเสียงประจำท้องถิ่น เสียงตามสาย หอกระจายข่าวประจำหมู่บ้าน และเครือข่ายวิทยุสมัครเล่น และ 3.กำชับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง สำหรับอำเภอให้แจ้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ขอให้เตรียมความพร้อมของเจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน อาสาสมัครเตือนภัยเฝ้า
นายนิรวัชช์ ปุณณกันต์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง เปิดเผยว่า จังหวัดระนองได้มีหนังสือด่วนที่สุด ถึงส่วนราชการที่เกี่ยวข้องกรณีเกิดฝนตกหนักถึงหนักมากในเขต จ.ระนอง ในหลายพื้นที่ส่งผลให้เกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมขังในหลายพื้นที่ทั้ง อ.เมืองระนอง และ อ.สุขสำราญ ซึ่งจากการตรวจสอบกับสถานีอุตุนิยมวิทยา จ.ระนอง ทราบว่าสามารถวัดปริมาณน้ำฝนได้สูงถึง 200 มิลลิเมตร ที่ อ.สุขสำราญ
ส่งผลให้เกิดน้ำป่าไหลไหลท่วมบ้านเรือน สถานที่ราชการ และพื้นที่ทางการเกษตรของประชาชน โดยเฉพาะบริเวณหน้า อบต.นาคา อ.สุขสำราญ มีน้ำไหลบ่าท่วมถนนเพชรเกษมสูงประมาณ 50 ซม.ขณะนี้รถเล็กไม่สามารสัญจรไปยัง จ.พังงา, กระบี่ และภูเก็ตได้ ทาง ปภ.ระนองได้ประสานแขวงการทางระนองเร่งดำเนินการอย่างเร่งด่วนแล้ว ส่วนความเสียหายยังอยู่ในระหว่างการสำรวจของอำเภอ
รองผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง กล่าวว่า ขณะนี้ จ.ระนอง ได้ออกประกาศเตือนภัยให้ประชาชนระวังฝนตกหนักถึงหนักมาก ทั้งนี้เนื่องด้วยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยตรวจสอบอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยา คาดว่าลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่ยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน และร่องอากาศสูงมีกำลังแรงพาดผ่านประเทศไทย และอ่าวไทย ในระหว่างวันที่ 23-27 ส.ค.2552 นี้
ลักษณะเช่นนี้ทำให้พื้นที่ดังกล่าวมีฝนตกเพิ่มมากขึ้น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากในบางพื้นที่ จึงขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยกับบริเวณที่ราบลุ่มริมน้ำ ที่ลาดเชิงเขา ระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนักที่อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากหรือดินถล่มได้ สำหรับชาวเรือควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ เรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้
ทั้งนี้ เพื่อเตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาคลื่นลมในทะเล อุทกภัย วาตภัยและดินถล่ม อันอาจจะสร้างความเสียหายให้แก่ชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ที่อาศัยบริเวณพื้นที่เสี่ยงภัย จึงขอให้ทุกหน่วยงานและอำเภอดำเนินการ ดังนี้
1.ติดตามสถานการณ์และข่าวการพยากรณ์อากาศโดยใกล้ชิด และประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนโดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยงภัยทราบอย่างกว้างขวาง 2.แจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณที่ลาดเชิงเขา ที่ลุ่มริมน้ำและพื้นที่เสี่ยงภัยของจังหวัดทราบเกี่ยวกับภัยธรรมชาติในระยะ 5-6 วันนี้ โดยผ่านทางวิทยุกระจายเสียงประจำท้องถิ่น เสียงตามสาย หอกระจายข่าวประจำหมู่บ้าน และเครือข่ายวิทยุสมัครเล่น และ 3.กำชับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง สำหรับอำเภอให้แจ้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ขอให้เตรียมความพร้อมของเจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน อาสาสมัครเตือนภัยเฝ้า