ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนและเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อ.สะบ้าย้อย เผยเบื้องหลังการสังหารโหดกำนัน ต.ทุ่งพอ อาจเป็นการลงขันฆ่า เพราะผู้ตายมักทำตัวเป็นนายหน้าเข้าไปเกี่ยวข้องผลประโยชน์ทุกโครงการในอำเภอ และอาจปีนเกลียวกับคนบางกลุ่ม
จากเหตุคนร้ายไม่ต่ำกว่า 4 คน ใช้อาวุธปืนสงครามกราดยิงนายเจ๊ะยาเหม ทุยเลาะ กำนัน ต.ทุ่งพอ อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา เสียชีวิตพร้อมนายสุทิน มนทะโร และมีผู้บาดเจ็บอีก 4 คน ขณะที่ทั้งหมดนั่งอยู่ในร้านน้ำชาบริเวณคิวรถโดยสาร ภายในเขตเทศบาลตำบลสะบ้าย้อย อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา เมื่อเช้าวานนี้ (13 ส.ค.) ล่าสุดวันนี้ พล.ต.ต.วิรุฬ เอี่ยมไพจิตร์ ผบก.ภ.จว.สงขลา ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนของตำรวจภูธร จ.สงขลา ลงพื้นที่คลี่คลายคดีร่วมกับชุดสืบสวนของ สภ.สะบ้าย้อย ทั้งการหาเบาะแสของกลุ่มคนร้ายและชนวนเหตุของการสังหารในครั้งนี้ โดยเจ้าหน้าที่ยังคงมุ่งไปในประเด็นที่เป็นปัญหาส่วนตัวของนายเจ๊ะยาเหมมากกว่าที่จะเป็นการสร้างสถานการณ์ของกลุ่มแนวร่วมในพื้นที่ และเป้าหมายของการสังหารคนร้ายน่าจะต้องการฆ่านายเจ๊ะยาเหมเพียงคนเดียว แต่ขณะเกิดเหตุทั้งหมดนั่งรวมกันเป็นกลุ่มภายในซุ้มไม้ไผ่ของร้านน้ำชาคนร้ายจึงกราดยิงไม่เลือก
อย่างไรก็ตาม ได้มีการส่งปลอกกระสุนที่เก็บได้จากจุดเกิดเหตุ ซึ่งเป็นกระสุนจากอาวุธปืน 3 ชนิดทั้งลูกซอง เอ็ม16 และอาก้ากว่า 20 นัด ส่งไปให้เจ้าหน้าที่วิทยาการตรวจพิสูจน์อย่างละเอียด เพื่อหาตำหนิและเปรียบเทียบกับการก่อคดีอาชญากรรมที่เกิดขึ้นว่าใกล้เคียงกับกรณีใดบ้าง ซึ่งจะเป็นอีกแนวทางหนึ่งที่จะนำไปสู่เบาะแสของมือปืนต้องสงสัย
มีรายงานจากเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนและเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อ.สะบ้าย้อยว่า เบื้องหลังของการสังหารโหดกำนัน ต.ทุ่งพอในครั้งนี้น่าจะเป็นการลงขันฆ่า เนื่องจากคนในพื้นที่ต่างรู้ดีว่านายเจ๊ะยาเหมเป็นหนึ่งในผู้ที่กว้างขวางมีอิทธิพลในพื้นที่ อ.สะบ้าย้อย และเคยถูกลอบสังหารมาแล้วถึง 3 ครั้ง แต่รอดมาได้ทุกครั้ง แต่ครั้งนี้พลาดเพราะอยู่ในที่โล่งคนร้ายลงมือได้สะดวก
ส่วนสาเหตุนั้นน่าจะมาจากความขัดแย้งในเรื่องส่วนตัวที่เกี่ยวผลประโยชน์ เพราะเป็นที่ทราบกันดีว่าหากใครจะเข้ามาทำธุรกิจหรือทำอะไรในพื้นที่ อ.สะบ้าย้อย จะต้องผ่านนายเจ๊ะยาเหม ทุกเรื่องในลักษณะของนายหน้าหรือผู้ที่ทำหน้าที่เคลียร์ และจะเข้าไปมีผลประโยชน์ร่วมจึงเป็นไปได้ว่าอาจจะมีบางเรื่องที่ไปปีนเกลียว หรือสร้างความไม่พอใจให้กับคนบางกลุ่มจึงได้วางแผนร่วมกันลงขันฆ่า แต่จะมาจากเรื่องใด หรือปีนเกลียวกับใครบ้างนั้นเจ้าหน้าที่กำลังอยู่ระหว่างรวมรวมข้อมูลจากการสอบสวนผู้ใกล้ชิดเพื่อดูว่าประเด็นไหนที่มีน้ำหนักมากที่สุด
