นราธิวาส - ผบ.ทร.เยี่ยมทหารที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุโจรใต้ซุ่มยิง 4 นาย พร้อมกับเสริมกำลัง และดูแลความปลอดภัยของ ประชาชนในพื้นที่เพิ่มขึ้นเพื่อไม่ให้เกิดเหตุร้ายขึ้นอีก
วันนี้ (4 ส.ค.) พล.ร.อ. กำธร พุ่มหิรัญ ผู้บัญชาการทหารเรือ พร้อมด้วย พล.ร.ท.สุวิทย์ ธาระรูป ผบ.นย. นาวาเอกนิเวช บุตรศรี ผบ.ฉก.นย.ทร. พล.ท.กสิกร คีรีศรี ผู้บัญชาการกองกำลังผสมพลเรือน ตำรวจ ทหาร และคณะเข้าเยี่ยมอาการบาดเจ็บของเจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาสที่ 32 ชุด ร้อย ร.3013 ซึ่งได้รับบาดเจ็บจากเหตุคนร้ายซุ่มยิงใส่เจ้าหน้าที่ทหารชุดดังกล่าวขณะออกลาดตระเวนเส้นทางในพื้นที่ หมู่ 3 บ.แยะ ต.จอเบาะ อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส เมื่อเย็นวานนี้
ทำให้มีเจ้าหน้าที่ทหารได้รับบาดเจ็บ 5 นาย และเสียชีวิต 1 นาย โดยทหาร 4 นาย คือ พ.จ.อ.เชิดศักดิ์ ดวงคำ ได้รับบาดเจ็บบริเวณขาขวา ออกจากห้องไอซียูแล้ว จ.อ.ไพบูรณ์ ฉายกระจ่าง ได้รับบาดเจ็บบริเวณช่องท้อง นอนรักษาตัวห้องไอซียู พลฯ บูรฮัน สุหลง ได้รับบาดเจ็บหัวเข่าขวา และขาซ้าย นอนรักษาตัวห้องไอซียู และพลฯ สมพร อากาศ ได้รับบาดเจ็บบริเวณข้อมือขวา กระดูกหัก นอนรักษาตัวห้องไอซียู ส่วนพลฯชลทิตย์ สอนฆ้อง ได้รับบาดเจ็บสาหัสบริเวณต้นขาซ้าย ทีมแพทย์โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ได้ส่งไปรักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ องหาดใหญ่ จ.สงขลา
พร้อมกันนี้ ผู้บัญชาการทหารเรือได้นำเงินช่วยเหลือเยียวยามอบให้แก่เจ้าหน้าที่ทหารทั้ง 4 นายในเบื้องต้นด้วย ส่วนพลฯ อรุณ หมันริเร๊ะ ซึ่งเสียชีวิตจากเหตุการณ์เดียวกันนั้นทางกองทัพเรือจะเข้าไปดูแลช่วยเหลือครอบครัวอย่างเต็มที่ พร้อมทั้งส่งบุตรให้จบการศึกษาระดับปริญญาตรีด้วย
พล.ร.อ. กำธร พุ่มหิรัญ ผู้บัญชาการทหารเรือ กล่าวถึงเหตุความไม่สงบที่เกิดขึ้นกับเจ้าหน้าที่ทหารในครั้งนี้ว่า เป็นเหตุการณ์ที่เกิดจากการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบที่ต้องการทำร้ายเจ้าหน้าที่และผู้บริสุทธิ์ ซึ่งหลังจากนี้เจ้าหน้าที่ทหารเรือก็จะยังคงทำหน้าที่ดูแลปกป้องประชาชนต่อไป พร้อมกับเสริมกำลัง และดูแลความปลอดภัยของตนเอง ประชาชนในพื้นที่เพิ่มขึ้นเพื่อไม่ให้เกิดเหตุร้ายขึ้นอีก
ส่วนกรณีกลุ่มก่อความไม่สงบแต่งกายคล้ายกับเจ้าหน้าที่ทหารพรานในการก่อเหตุนั้น ผู้บัญชาการทหารเรือ กล่าวว่า เป็นการมุ่งเจตนาทำให้ประชาชนในพื้นที่เกิดความเข้าใจผิดว่าเป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่ภาครัฐ และการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบมีการกระทำ และก่อเหตุที่แตกต่างจากเจ้าหน้าที่อย่างสิ้นเชิงเพราะเป็นการมุ่งทำร้าย โดยไม่คำนึงถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับประชาชน ใช้ความรุนแรงเป็นหลัก ซึ่งจะแตกต่างจากเจ้าหน้าที่ภาครัฐที่มุ่งเข้ามาช่วยเหลือประชาชนเป็นหลัก ไม่มีเจตนาเพื่อมาทำร้ายหรือทำลายแต่อย่างใด
วันนี้ (4 ส.ค.) พล.ร.อ. กำธร พุ่มหิรัญ ผู้บัญชาการทหารเรือ พร้อมด้วย พล.ร.ท.สุวิทย์ ธาระรูป ผบ.นย. นาวาเอกนิเวช บุตรศรี ผบ.ฉก.นย.ทร. พล.ท.กสิกร คีรีศรี ผู้บัญชาการกองกำลังผสมพลเรือน ตำรวจ ทหาร และคณะเข้าเยี่ยมอาการบาดเจ็บของเจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาสที่ 32 ชุด ร้อย ร.3013 ซึ่งได้รับบาดเจ็บจากเหตุคนร้ายซุ่มยิงใส่เจ้าหน้าที่ทหารชุดดังกล่าวขณะออกลาดตระเวนเส้นทางในพื้นที่ หมู่ 3 บ.แยะ ต.จอเบาะ อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส เมื่อเย็นวานนี้
ทำให้มีเจ้าหน้าที่ทหารได้รับบาดเจ็บ 5 นาย และเสียชีวิต 1 นาย โดยทหาร 4 นาย คือ พ.จ.อ.เชิดศักดิ์ ดวงคำ ได้รับบาดเจ็บบริเวณขาขวา ออกจากห้องไอซียูแล้ว จ.อ.ไพบูรณ์ ฉายกระจ่าง ได้รับบาดเจ็บบริเวณช่องท้อง นอนรักษาตัวห้องไอซียู พลฯ บูรฮัน สุหลง ได้รับบาดเจ็บหัวเข่าขวา และขาซ้าย นอนรักษาตัวห้องไอซียู และพลฯ สมพร อากาศ ได้รับบาดเจ็บบริเวณข้อมือขวา กระดูกหัก นอนรักษาตัวห้องไอซียู ส่วนพลฯชลทิตย์ สอนฆ้อง ได้รับบาดเจ็บสาหัสบริเวณต้นขาซ้าย ทีมแพทย์โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ได้ส่งไปรักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ องหาดใหญ่ จ.สงขลา
พร้อมกันนี้ ผู้บัญชาการทหารเรือได้นำเงินช่วยเหลือเยียวยามอบให้แก่เจ้าหน้าที่ทหารทั้ง 4 นายในเบื้องต้นด้วย ส่วนพลฯ อรุณ หมันริเร๊ะ ซึ่งเสียชีวิตจากเหตุการณ์เดียวกันนั้นทางกองทัพเรือจะเข้าไปดูแลช่วยเหลือครอบครัวอย่างเต็มที่ พร้อมทั้งส่งบุตรให้จบการศึกษาระดับปริญญาตรีด้วย
พล.ร.อ. กำธร พุ่มหิรัญ ผู้บัญชาการทหารเรือ กล่าวถึงเหตุความไม่สงบที่เกิดขึ้นกับเจ้าหน้าที่ทหารในครั้งนี้ว่า เป็นเหตุการณ์ที่เกิดจากการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบที่ต้องการทำร้ายเจ้าหน้าที่และผู้บริสุทธิ์ ซึ่งหลังจากนี้เจ้าหน้าที่ทหารเรือก็จะยังคงทำหน้าที่ดูแลปกป้องประชาชนต่อไป พร้อมกับเสริมกำลัง และดูแลความปลอดภัยของตนเอง ประชาชนในพื้นที่เพิ่มขึ้นเพื่อไม่ให้เกิดเหตุร้ายขึ้นอีก
ส่วนกรณีกลุ่มก่อความไม่สงบแต่งกายคล้ายกับเจ้าหน้าที่ทหารพรานในการก่อเหตุนั้น ผู้บัญชาการทหารเรือ กล่าวว่า เป็นการมุ่งเจตนาทำให้ประชาชนในพื้นที่เกิดความเข้าใจผิดว่าเป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่ภาครัฐ และการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบมีการกระทำ และก่อเหตุที่แตกต่างจากเจ้าหน้าที่อย่างสิ้นเชิงเพราะเป็นการมุ่งทำร้าย โดยไม่คำนึงถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับประชาชน ใช้ความรุนแรงเป็นหลัก ซึ่งจะแตกต่างจากเจ้าหน้าที่ภาครัฐที่มุ่งเข้ามาช่วยเหลือประชาชนเป็นหลัก ไม่มีเจตนาเพื่อมาทำร้ายหรือทำลายแต่อย่างใด
