ชุมพร - ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชุมพร ตั้งชุดเฉพาะกิจไล่ล่าแก๊งหนังสติ๊กเหิมยิงกระจกรถทัวร์ รถตู้ 4 คันรวด จนผู้โดยสาร นักท่องเที่ยวหวาดผวา คาด 1 สัปดาห์ จับคนร้ายได้ พร้อมสั่งการรถสายตรวจเปิดไฟเลนส์ตระเวนเส้นทางเพชรเกษม-เอเชีย ระยะทาง 170 กม. ตลอด 24 ชั่วโมง ป้องกันก่อเหตซ้ำ
กรณีคนร้ายใช้หนังสติกยิงรถทัวร์ 2 คัน รถตู้ 2 คัน รวม 4 คันรวด ในช่วงเวลาเดียวกัน เหตุเกิดบริเวณซุ้มประตูภาคใต้ หลัก กม.ที่ 488–489 ถ.เพชรเกษม ต.นากระตาม อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร จนรถได้รับความเสียหายกระจกหน้าต่าง และกระจกหน้ารถแตก แต่โชคดีไม่มีผู้โดยสารได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดเมื่อเวลา 22.30 น.ของคืนวันที่ 1 สิงหาคม 2552 ที่ผ่านมา จนสร้างความหวาดผวาแก่ ผู้โดยสาร นักท่องเที่ยว และประชาชนที่สัญจรผ่านไปมาอย่างมากนั้น
ความคืบหน้าวันนี้ (3 ส.ค.) พ.ต.อ.ชำนาญ แทนม้วน ผกก.สภ.ท่าแซะ จ.ชุมพร เปิดเผยว่า เรื่องดังกล่าวถือเป็นเหตุอุกอาจเหิมเกริม สร้างความหวาดผวาให้แก่ประชาชนเป็นอย่างยิ่ง ขณะนี้ได้ตั้งชุดเฉพาะกิจ โดยมอบหมายให้ พ.ต.ต.ธานี นาคหกวิ รอง ผกก.สส.สภ.ท่าแซะ นำชุดสืบสวนสอบสวนลงพื้นที่หาข่าวเก็บรวมรวมพยานหลักฐาน ในเบื้องต้นสันนิษฐานว่าคนร้ายน่าจะเป็นกลุ่มวัยรุ่น ที่มีความโกรธแค้นรถยนต์โดยสาร กลุ่มวัยรุ่นที่คึกคะนอง และกลุ่มวัยรุ่นตามกระแส ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดี
ขณะที่ พล.ต.ต.อภิชาติ เชื้อเทศ ผบก.ภ.จ.ชุมพร กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ให้ความสนใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากเห็นว่าเป็นพฤติกรรมที่ส่งผลกระทบต่อการเที่ยวอย่างยิ่ง จึงได้เร่งรัดสั่งการให้จับกุมแก๊งหนังสติ๊กที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีให้ได้
โดยเบื้องต้นได้รับรายงานว่าคนร้ายเป็นวัยรุ่นมีประมาณ 2 คน ได้ขับรถจักรยานยนต์สีเปลือกมังคุด แบบผู้หญิง ขับมาทางเลนช่องทางจราจรขาล่องใต้ แล้วใช้หนังสติ๊กยิงใส่รถทัวร์ รถตู้ รวม 4 คัน ที่ขับสวนเลนมาทางช่องทางจราจรขาขึ้นกรุงเทพฯ โดยแต่ละคันที่ถูกยิงใช้ช่วงเวลาห่างกันประมาณ 5-10 นาที คาดว่าแก๊งคนร้ายน่าจะขับรถจักรยานยนต์แล้วคนซ้อนยิงไปตลอดระยะทางที่เกิดเหตุ จนถูกรถยนต์ทั้ง 4 คัน ส่วนลูกกระสุนน่าจะเป็นหัวน๊อต หรือ ลูกตะกั่ว เนื่องจากไม่พบร่องรอยเศษดินหรือเศษหินในจุดที่รถถูกยิงเลย
แต่อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ตนได้สั่งการให้ตำรวจชุด นปพ.ชุดเฉพาะกิจ ร่วมกับตำรวจพื้นที่ออกติดตามจับกุมคนร้ายอย่างเร่งด่วนแล้ว คาดว่าภายใน 1 สัปดาห์ น่าจะรู้กลุ่มคนร้ายและจับกุมมาดำเนินคดีได้ และขอฝากเตือนไปยังแก๊งวัยรุ่นที่ก่อเหตุ หรือกลุ่มที่คิดจะลอกเลียนแบบ ว่าการกระทำดังกล่าวมีโทษหนักมาก และถ้าหากผู้เสียหายเป็นญาติ พี่น้อง พ่อ แม่ของตนเอง เข้าจะรู้สึกอย่างไรบ้าง
พล.ต.ต.อภิชาติ กล่าวต่อว่า ส่วนการป้องกันการเกิดเหตุในพื้นที่ขณะนี้ ได้มีคำสั่งให้ทุกโรงพักที่อยู่ติดกับสายหลัก ถนนเพชรเกษม และถนนสายเอเชีย 41 รวมระยะทางประมาณ 170 กิโลเมตร ตั้งแต่เขตรอยต่อพื้นที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ไปจนถึงเขตติดต่อพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี ให้มีการขับรถยนต์สายตรวจตระเวนเปิดไฟเลนตลอดทางทั้งขาขึ้นและขาล่อง ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้โดยสาร นักท่องเที่ยว และประชาชน ที่สัญจรไปมาในพื้นที่ จ.ชุมพร
กรณีคนร้ายใช้หนังสติกยิงรถทัวร์ 2 คัน รถตู้ 2 คัน รวม 4 คันรวด ในช่วงเวลาเดียวกัน เหตุเกิดบริเวณซุ้มประตูภาคใต้ หลัก กม.ที่ 488–489 ถ.เพชรเกษม ต.นากระตาม อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร จนรถได้รับความเสียหายกระจกหน้าต่าง และกระจกหน้ารถแตก แต่โชคดีไม่มีผู้โดยสารได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดเมื่อเวลา 22.30 น.ของคืนวันที่ 1 สิงหาคม 2552 ที่ผ่านมา จนสร้างความหวาดผวาแก่ ผู้โดยสาร นักท่องเที่ยว และประชาชนที่สัญจรผ่านไปมาอย่างมากนั้น
ความคืบหน้าวันนี้ (3 ส.ค.) พ.ต.อ.ชำนาญ แทนม้วน ผกก.สภ.ท่าแซะ จ.ชุมพร เปิดเผยว่า เรื่องดังกล่าวถือเป็นเหตุอุกอาจเหิมเกริม สร้างความหวาดผวาให้แก่ประชาชนเป็นอย่างยิ่ง ขณะนี้ได้ตั้งชุดเฉพาะกิจ โดยมอบหมายให้ พ.ต.ต.ธานี นาคหกวิ รอง ผกก.สส.สภ.ท่าแซะ นำชุดสืบสวนสอบสวนลงพื้นที่หาข่าวเก็บรวมรวมพยานหลักฐาน ในเบื้องต้นสันนิษฐานว่าคนร้ายน่าจะเป็นกลุ่มวัยรุ่น ที่มีความโกรธแค้นรถยนต์โดยสาร กลุ่มวัยรุ่นที่คึกคะนอง และกลุ่มวัยรุ่นตามกระแส ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดี
ขณะที่ พล.ต.ต.อภิชาติ เชื้อเทศ ผบก.ภ.จ.ชุมพร กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ให้ความสนใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากเห็นว่าเป็นพฤติกรรมที่ส่งผลกระทบต่อการเที่ยวอย่างยิ่ง จึงได้เร่งรัดสั่งการให้จับกุมแก๊งหนังสติ๊กที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีให้ได้
โดยเบื้องต้นได้รับรายงานว่าคนร้ายเป็นวัยรุ่นมีประมาณ 2 คน ได้ขับรถจักรยานยนต์สีเปลือกมังคุด แบบผู้หญิง ขับมาทางเลนช่องทางจราจรขาล่องใต้ แล้วใช้หนังสติ๊กยิงใส่รถทัวร์ รถตู้ รวม 4 คัน ที่ขับสวนเลนมาทางช่องทางจราจรขาขึ้นกรุงเทพฯ โดยแต่ละคันที่ถูกยิงใช้ช่วงเวลาห่างกันประมาณ 5-10 นาที คาดว่าแก๊งคนร้ายน่าจะขับรถจักรยานยนต์แล้วคนซ้อนยิงไปตลอดระยะทางที่เกิดเหตุ จนถูกรถยนต์ทั้ง 4 คัน ส่วนลูกกระสุนน่าจะเป็นหัวน๊อต หรือ ลูกตะกั่ว เนื่องจากไม่พบร่องรอยเศษดินหรือเศษหินในจุดที่รถถูกยิงเลย
แต่อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ตนได้สั่งการให้ตำรวจชุด นปพ.ชุดเฉพาะกิจ ร่วมกับตำรวจพื้นที่ออกติดตามจับกุมคนร้ายอย่างเร่งด่วนแล้ว คาดว่าภายใน 1 สัปดาห์ น่าจะรู้กลุ่มคนร้ายและจับกุมมาดำเนินคดีได้ และขอฝากเตือนไปยังแก๊งวัยรุ่นที่ก่อเหตุ หรือกลุ่มที่คิดจะลอกเลียนแบบ ว่าการกระทำดังกล่าวมีโทษหนักมาก และถ้าหากผู้เสียหายเป็นญาติ พี่น้อง พ่อ แม่ของตนเอง เข้าจะรู้สึกอย่างไรบ้าง
พล.ต.ต.อภิชาติ กล่าวต่อว่า ส่วนการป้องกันการเกิดเหตุในพื้นที่ขณะนี้ ได้มีคำสั่งให้ทุกโรงพักที่อยู่ติดกับสายหลัก ถนนเพชรเกษม และถนนสายเอเชีย 41 รวมระยะทางประมาณ 170 กิโลเมตร ตั้งแต่เขตรอยต่อพื้นที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ไปจนถึงเขตติดต่อพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี ให้มีการขับรถยนต์สายตรวจตระเวนเปิดไฟเลนตลอดทางทั้งขาขึ้นและขาล่อง ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้โดยสาร นักท่องเที่ยว และประชาชน ที่สัญจรไปมาในพื้นที่ จ.ชุมพร