ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ยิงถล่มกันใจกลางเมืองป่าตอง ดับ 1 ผู้ดูแลโครงการหลายพันล้าน “จินตนาพลาซ่า”
เมื่อเวลาประมาณ 13.00 น.วันนี้ (21 ก.ค.) ร.ต.ท.จักรพงษ์ เหลืองอ่อน ร้อยเวรฯ สภ.กะทู้ อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ได้รับแจ้งเหตุมีการยิงถล่มกันบริเวณโครงการจิตนาพลาซ่า ริมหาดป่าตอง ถ.ทวีวงศ์ 3 แยกส่วนสาธารณะโลมา ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนหลายคน หลังได้รับแจ้งจึงรายงานให้ พ.ต.อ.กฤษศักดิ์ สงมูลนาค ผกก.สถานีตำรวจภูธรกะทู้ อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต พ.ต.ท.โสภณ บริรักษ์ รอง สว.สส. พ.ต.ต.นิกร ชูทอง สวป. สภ.กะทู้ อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต พร้อมรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบผู้ถูกยิงถูกนำส่งโรงพยาบาลป่าตองแล้ว
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบเพียงรอยเลือดและปลอกกระสุน ทราบชื่อผู้ยิง ประกอบด้วย นายดรุวัตร หรือแบงค์ บุรินทรโกษฐ์ อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 70/1 ต.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต ลูกชายนายโกวัฒน์ บุรินทรโกษฐ์ ซึ่งน้องชายของนางคมคาย หรือเจ้แข โฆษิตกุล ผู้ดูแลธุรกิจโครงการ “จินตนาพลาซ่า หาดป่าตอง ภูเก็ต” มูลค่าหลายพันล้านซึ่งเป็นทำเลทองใจกลางหาดป่าตอง และเป็นโครงการที่ถูกเพลิงไหม้มาแล้วหลายครั้ง โดยนายดรุวัตรเสียชีวิตหลังจากนำส่งโรงพยาบาลเนื่องจากกระสุนปืนถูกอกและฝังใน แม้แพทย์จะพยายามช่วยชีวิตอย่างเต็มที่แล้วก็ตาม
ส่วนผู้ที่ถูกยิงอีก 3 คนเป็นคนติดตามนายดนุรุต ประกอบด้วย ร.ต.อ.สุนันท์ พศวัตสวัสดิ์ไพโรจน์ อายุ 62 ปี ถูกยิงเข้าที่น่องขาซ้าย นายอินรอน ยีบู อายุ 35 ปี ถูกยิง 1 นัดกระสุน เข้าที่คาง กรามหัก, นายอ๊อด เอกแก้ว อายุ 29 ปี ถูกยิงเข้าที่ขาอ่อนข้างโคนขา กระสุนทะลุหลัง 1 นัด
อย่างไรก็ตาม จากการสอบถามพนักงานโครงการจินตนาพลาซ่า หาดป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุเห็นทั้ง 2 กลุ่มกำลังเจรจาตกลงกันอยู่ในโครงการพลาซ่า ถ.ทวีวงศ์ 3 แยกสวนสาธารณะโลมา หาดป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ที่ถูกเพลิงเผาไปหลายครั้งแล้ว และมีการผลักอกใส่กัน จากนั้นทั้ง 2 ฝ่ายก็ชักปืนสาดกระสุนกัน กระสุนไปโดนกำแพงโครงการจินตนา และหลังคาร้านอาหารฝรั่ง ทำให้นักท่องเที่ยววิ่งกันพล่าน ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บทั้ง 2 ฝ่าย โดยฝ่ายนายดนุวัตรได้รับบาดเจ็บ 3 คน เสียชีวิต 1 คน และที่มาด้วยกัน 4 คนได้รับบาดเจ็บ 1 คน ซึ่งผู้ที่มาด้วยกันได้นำขึ้นรถยนต์ CR-V สีแดง ทะเบียน กธ-2099 ภูเก็ต หลบหนีหายไป
อย่างไรก็ตาม สำหรับการติดตามจับกุมคนร้ายนั้น ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังติดตามจับกุมอยู่ซึ่งพอจะทราบตัวแล้ว
เมื่อเวลาประมาณ 13.00 น.วันนี้ (21 ก.ค.) ร.ต.ท.จักรพงษ์ เหลืองอ่อน ร้อยเวรฯ สภ.กะทู้ อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ได้รับแจ้งเหตุมีการยิงถล่มกันบริเวณโครงการจิตนาพลาซ่า ริมหาดป่าตอง ถ.ทวีวงศ์ 3 แยกส่วนสาธารณะโลมา ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนหลายคน หลังได้รับแจ้งจึงรายงานให้ พ.ต.อ.กฤษศักดิ์ สงมูลนาค ผกก.สถานีตำรวจภูธรกะทู้ อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต พ.ต.ท.โสภณ บริรักษ์ รอง สว.สส. พ.ต.ต.นิกร ชูทอง สวป. สภ.กะทู้ อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต พร้อมรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบผู้ถูกยิงถูกนำส่งโรงพยาบาลป่าตองแล้ว
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบเพียงรอยเลือดและปลอกกระสุน ทราบชื่อผู้ยิง ประกอบด้วย นายดรุวัตร หรือแบงค์ บุรินทรโกษฐ์ อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 70/1 ต.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต ลูกชายนายโกวัฒน์ บุรินทรโกษฐ์ ซึ่งน้องชายของนางคมคาย หรือเจ้แข โฆษิตกุล ผู้ดูแลธุรกิจโครงการ “จินตนาพลาซ่า หาดป่าตอง ภูเก็ต” มูลค่าหลายพันล้านซึ่งเป็นทำเลทองใจกลางหาดป่าตอง และเป็นโครงการที่ถูกเพลิงไหม้มาแล้วหลายครั้ง โดยนายดรุวัตรเสียชีวิตหลังจากนำส่งโรงพยาบาลเนื่องจากกระสุนปืนถูกอกและฝังใน แม้แพทย์จะพยายามช่วยชีวิตอย่างเต็มที่แล้วก็ตาม
ส่วนผู้ที่ถูกยิงอีก 3 คนเป็นคนติดตามนายดนุรุต ประกอบด้วย ร.ต.อ.สุนันท์ พศวัตสวัสดิ์ไพโรจน์ อายุ 62 ปี ถูกยิงเข้าที่น่องขาซ้าย นายอินรอน ยีบู อายุ 35 ปี ถูกยิง 1 นัดกระสุน เข้าที่คาง กรามหัก, นายอ๊อด เอกแก้ว อายุ 29 ปี ถูกยิงเข้าที่ขาอ่อนข้างโคนขา กระสุนทะลุหลัง 1 นัด
อย่างไรก็ตาม จากการสอบถามพนักงานโครงการจินตนาพลาซ่า หาดป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุเห็นทั้ง 2 กลุ่มกำลังเจรจาตกลงกันอยู่ในโครงการพลาซ่า ถ.ทวีวงศ์ 3 แยกสวนสาธารณะโลมา หาดป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ที่ถูกเพลิงเผาไปหลายครั้งแล้ว และมีการผลักอกใส่กัน จากนั้นทั้ง 2 ฝ่ายก็ชักปืนสาดกระสุนกัน กระสุนไปโดนกำแพงโครงการจินตนา และหลังคาร้านอาหารฝรั่ง ทำให้นักท่องเที่ยววิ่งกันพล่าน ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บทั้ง 2 ฝ่าย โดยฝ่ายนายดนุวัตรได้รับบาดเจ็บ 3 คน เสียชีวิต 1 คน และที่มาด้วยกัน 4 คนได้รับบาดเจ็บ 1 คน ซึ่งผู้ที่มาด้วยกันได้นำขึ้นรถยนต์ CR-V สีแดง ทะเบียน กธ-2099 ภูเก็ต หลบหนีหายไป
อย่างไรก็ตาม สำหรับการติดตามจับกุมคนร้ายนั้น ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังติดตามจับกุมอยู่ซึ่งพอจะทราบตัวแล้ว
