ศูนย์ข่าวภูเก็ต- รัฐมนตรีกลาโหม พร้อมผู้นำเหล่าทัพลงพื้นที่ภูเก็ตอีกครั้ง ตอกย้ำระบบการรักษาความปลอดภัยการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน การันตีการประชุมครั้งนี้สำเร็จอย่างแน่นอน โดยไม่มีกลุ่มใดเข้ามาก่อกวน เผย ไม่เพิ่มความเข้มมาตรการรักษาความปลอดภัยอีก แม้จะเกิดระเบิดที่อินโดฯ และการเดินทางมาร่วมประชุมของ นางฮิลลารี คลินตัน เพราะมาตรการรักษาความปลอดภัยที่ทำอยู่สมบูรณ์ที่สุดแล้ว
เมื่อเวลา 16.00 น.วันนี้ (19 ก.ค.) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการร่วมรักษาความปลอดภัยการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน ครั้งที่ 42 การประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน และรัฐมนตรีต่างประเทศคู่เจราจาและการประชุมที่เกี่ยวข้อง พร้อมด้วย พล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด พล.อ.อภิชาติ เพ็ญกิตติ ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เสนาธิการทหารบก พล.ท.พิเชษ วิสัยจร แม่ทัพภาค 4 พร้อมคณะเดินทางมาตรวจความพร้อมการรักษาความปลอดภัยการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศครั้งที่ 42 และการประชุมที่เกี่ยวข้องที่จังหวัดภูเก็ต
หลังจากเดินทางถึงท่าอากาศยานภูเก็ต ได้รับฟังบรรยายสรุปถึงการดูแลรักษาความปลอดภัยกองกำลังทหารอากาศ ซึ่งทำหน้าที่ดูแลอากาศยานและท่าอากาศยานภูเก็ต ที่สำนักงานท่าอากาศยานภูเก็ต หลังจากนั้น ได้เดินทางต่อไปยังด่านตรวจท่าฉัตรชัย อ.ถลาง จ.ภูเก็ต เพื่อตรวจความพร้อมการตั้งด่านตรวจของด่านตรวจท่าฉัตรชัย และตรวจการทำงานของเครื่องอัดแผ่นป้ายทะเบียนรถอัตโนมัติ ซึ่งทางจังหวัดภูเก็ตขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากกระทรวงกลาโหม ในการจัดซื้อเพื่อนำมาใช้สำหรับถ่ายภาพป้ายทะเบียนรถทุกคันที่เดินทางเข้าออกในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต โดยจะเก็บข้อมูลไว้ในซอฟต์แวร์ที่สามารถเรียกมาตรวจสอบได้ตลอดเวลาระยะนานเป็น 10 ปี โดยเครื่องดังกล่าวจะบันทึกข้อมูลคนขับรถ และทะเบียนรถไว้ด้วยกัน หากเปลี่ยนคนขับ หรือสีรถไม่ตรงกับป้ายทะเบียนที่เคยเข้ามาก็จะโชว์ข้อมูลให้เจ้าหน้าที่ทราบ
สำหรับการตรวจเยี่ยมที่ด่านตรวจภูเก็ต ตั้งอยู่ที่บ้านท่าฉัตรไชยนั้น นายวิชัย ไพรสงบ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย พล.ร.ต.อมรโชติ สุจิรัตน์ รองผู้อำนวยการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดภูเก็ต (กอ.รมน.จ.ภูเก็ต) นายเรวัต อารีรอบ ส.ส.จังหวัดภูเก็ตพรรคประชาธิปัตย์ และหลังจากฟังบรรยายสรุปแล้วรัฐมนตรีว่ากระทรวงกลาโหม พร้อมคณะได้ลงไปดูการทำงานของเครื่องอัดป้ายทะเบียนและการรักษาความปลอดภัยที่ด่านตรวจภูเก็ต
พล.อ.ประวิตร กล่ววภายหลังจากรับฟังบรรยายสรุปของหน่วยงานต่างๆ ที่ร่วมกันดูแลรักษาความปลอดภัยการประชุม ว่า จากการฟังบรรยายสรุปของหน่วยงานต่างๆ พบว่า การจัดประชุมครั้งนี้ทุกอย่างสามารถดำเนินการไปด้วยความเรียบร้อย ไม่มีปัญหาอะไร และเชื่อว่า จากการดูแลความปลอดภัยอย่างเข้มงวดจะทำให้การประชุมสำเร็จไปได้ด้วยดี อย่างไรก็ตาม ในการจัดประชุมครั้งนี้จะต้องขอบคุณทุกฝ่ายที่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีในการช่วยกันดูแลการประชุมในครั้งนี้ เพราะการประชุมครั้งนี้ไม่ใช่ประโยชน์ของใครคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นประโยชน์ของประเทศไทยและคนไทยทุกคน รวมทั้งถ้าการประชุมในครั้งนี้ประสบความสำเร็จจะเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับต่างชาติในการดูแลการประชุมที่จะเกิดขึ้นในครั้งต่อๆ ไปที่จะมีขึ้นในประเทศไทยด้วย
พล.อ.ประวิตร ยังได้กล่าวต่อไปถึงกรณีที่เกิดเหตุระเบิดที่อินโดนีเซีย และการดูแลความปลอดภัยให้กับ นางฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสหรัฐอเมริกา ว่า หลังจากเกิดเหตุระเบิดขึ้นที่ประเทศอินโดนีเซีย ทางประเทศไทยคงจะไม่เพิ่มมาตรการในการดูแลรักษาความปลอดภัยเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากที่ผ่านมาได้ดำเนินการเกี่ยวกับมาตรการการดูแลรักษาความปลอดภัยการประชุมในระดับที่สูง และสมบูรณ์อยู่แล้ว และแม้ว่าการดูแลรักษาความปลอดภัยจะอยู่ในระดับสูง แต่การดำเนินการนั้นจะไม่กระทบกับวิถีชีวิตของประชาชนในพื้นที่และนักท่องเที่ยวอย่างแน่นอน
ส่วนกรณีความเคลื่อนไหวของกลุ่มต่างๆ ที่จะก่อความวุ่นวายนั้น พล.ประวิตร กล่าวว่า ขณะยังไม่มีรายงานทางการข่าวใดๆ เนื่องจากทุกฝ่ายให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีและเชื่อว่าการประชุมสำเร็จแน่นอน
