ตรัง - กรมพัฒนาที่ดินสนับสนุนให้ภาคการเกษตรของประเทศไทย ลดการพึ่งพาสารเคมี โดยเฉพาะปุ๋ย ยาฆ่าแมลง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพทางการผลิตให้สูงขึ้น และช่วยต้องลดต้นทุนการผลิตให้น้อยลง
วันนี้ (8 ก.ค.) นายบัณฑิต ตันศิริ อธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน กล่าวว่า ปัจจุบันนี้การผลิตทางภาคเกษตรของประเทศไทย ยังมีการพึ่งพาสารเคมีทั้งในส่วนของปุ๋ย ยาฆ่าแมลง และสารเคมีอื่นๆ เป็นอย่างมาก ส่งผลให้เกิดต้นทุนการผลิตที่เพิ่มสูงขึ้น จนทำให้ความสามารถในการแข่งขันทางการตลาดลดลง และในอนาคตหากประเทศไทยมีการทำข้อตกลงทางการค้ากับต่างประเทศเกี่ยวกับสินค้าทางการเกษตร จะมีโอกาสเป็นไปได้สูงที่ภาษีนำเข้าสินค้าทางการเกษตรจะเป็น 0%
ทั้งนี้ เนื่องจากผลที่จะเกิดขึ้นตามมาคือ สินค้าทางการเกษตรจากต่างประเทศจะทะลักเข้ามาในประเทศไทยมากขึ้น หากเกษตรกรชาวไทยยังไม่สามารถลดต้นทุนการผลิตก็จะขาดความสามารถในการแข่งขันทางการตลาด เพราะสู้ราคาสินค้าจากต่างประเทศที่มีราคาถูกกว่าไม่ได้
อย่างไรก็ตาม กรมพัฒนาที่ดินได้ตระหนักถึงปัญหาดังกล่าวมาโดยตลอด และได้มีการพัฒนานวตกรรมใหม่ๆ ขึ้นมา เพื่อต้องการให้เกษตรกรสามารถนำไปปฏิบัติ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพทางการผลิตให้สูงขึ้น ขณะเดียวกัน ก็จะต้องลดต้นทุนการผลิตให้น้อยลง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการจัดทำโปรแกรมธาตุอาหารพืช และการจัดการดินและปุ๋ยรายแปลง เป็นฐานข้อมูลสภาพดินทั่วประเทศ เพื่อให้เกษตรกรสามารถทราบได้ว่า พื้นที่แปลงเกษตรของตัวเองควรปลูกพืชชนิดใด ใช้ปุ๋ยอย่างไร
นอกจากนี้ยังมีการคิดค้นสารปรับปรุงดินอีกหลายชนิด เช่น สาร พด.ต่างๆ เพื่อแจกจ่ายแก่เกษตรกร เป็นต้น แต่ในส่วนของเกษตรกรจะต้องปรับเปลี่ยนวิธีการผลิต โดยหันมาทำการเกษตรแบบชีววิถีให้มากขึ้น ด้วยการใช้สารอินทรีย์ หรือปุ๋ยชีวภาพ เพื่อมาปรับโครงสร้างดิน ให้เหมาะสมกับการเจริญเติบโตของพืช หรือเลือกปลูกพืชให้เหมาะสมกับสภาพดิน และนำองค์ความรู้ทางวิชาการมาใช้ในการทำการเกษตรให้มากขึ้น