ยะลา – เจ้าหน้าที่ทหารเร่งสอบเข้มผู้ต้องสงสัย ญาติแกนนำอาร์เคเคคนสำคัญ เพื่อกดดันหลังส่อพิรุธหลายอย่าง ส่วนทหารที่บาดเจ็บ อาการพ้นขีดอันตราย แพทย์ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดป้องกันการติดเชื้อ
จากกรณีมีคนร้ายลอบวางระเบิดรถยนต์ทหาร ขณะออกไปปฏิบัติหน้าที่ บนถนนสายโกตาบารู-ท่าเรือ บ้านตะโล๊ะเกี๊ยะ หมู่ที่ 2 ต.ยะต๊ะ อ.รามัน จ.ยะลา จนเป็นเหตุให้ จนท.ทหาร ได้รับบาดเจ็บ 5 นาย รถยนต์กระบะ ถูกระเบิดกระเด็นไปไกลถึง 100 เมตร ได้รับความเสียหายทั้งคัน เหตุเกิดเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 7 ก.ค.ที่ผ่านมา ตามที่ได้รายงานข่าวไปแล้วนั้น
วันนี้ (8 ก.ค.) ความคืบหน้าอาการบาดเจ็บของ จนท.ทหาร ที่เข้ารักษาตัวที่ รพ.ศูนย์ยะลา นายแพทย์กุลเดช เตชะนภารักษ์ ผอ.รพ.ศูนย์ยะลา เปิดเผยว่า ขณะนี้มีเจ้าหน้าที่ทหารนอนรักษาตัวอยู่ 4 นาย ประกอบด้วย จ.ส.อ.ชัยณรงค์ เทียนดี อายุ 46 ปี และ ส.อ.วันเผด็จ สิทธิแสง อายุ 25 ปี นอนรักษาตัวอยู่ที่ตึกศัลยกรรมชาย อาการพ้นขีดอันตรายแล้ว ส่วนพลทหารจรวย วงษ์นาม อายุ 23 ปี และพลทหารมะยูโซ๊ะ ดะแม อายุ 22 ปี นอนรักษาตัวอยู่ที่ตึก ศัลยกรรมประสาท ซึ่งต้องเฝ้าดูแลอาการอย่างใกล้ชิด เกรงว่าแผลจะติดเชื้อ แต่อาการพ้นขีดอันตรายเช่นกัน สำหรับพลทหารอิสมาแอ ยียูโซ๊ะ อายุ 22 ปี มีอาการหูอื้อ หลังจากแพทย์ได้ทำการเยียวยาให้ ได้อนุญาตกลับไปพักฟื้นที่บ้านได้
ส่วนความคืบหน้าการติดตามหาตัวกลุ่มคนร้าย ที่ลอบก่อเหตุในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ความมั่นคงในพื้นที่ อ.รามัน เปิดเผยว่า ทราบตัวกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุแล้ว เป็นกลุ่มของนายสาอูดิง โต๊ะเจ๊ะมะ อดีต นศ.คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง และนายอุสมาน เด็งสาแม สองแกนนำคนสำคัญที่สถาปนาตัวเองเป็นผู้ว่าการรัฐเขตโกตาบารู พร้อมพวก ซึ่งมีการเคลื่อนไหวในพื้นที่ ต.บือมัง ต.ยะต๊ะ ต.กาลอ ต.โกตาบารู ต.กาลูปัง อ.รามัน และ ต.เรียง อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส โดยมีกองกำลังติดอาวุธ กว่า 20 คน กลุ่มดังกล่าวนี้ยังเคยก่อเหตุ ขับรถยนต์กระบะ ใช้อาวุธสงครามกราดยิง นายอาแซ มาดีโมง อายุ 50 ปี เจ้าหน้าที่ อส.อ.รามัน ขณะขับรถยนต์ส่วนตัวไปทำงาน ที่ว่าการอำเภอรามันเสียชีวิต เหตุเกิดบนถนนสายโกตาบารู-รามัน บริเวณบ้านกาลูปัง หมู่ที่ 1 ต.กาลูปัง เมื่อวันที่ 26 พ.ย. 2551 อีกด้วย
สำหรับผู้ต้องสงสัยที่ทหาร ฉก.12 อ.รามัน ได้ควบคุมตัวในที่เกิดเหตุ จำนวน 9 คนเมื่อวานนี้นั้น จากการสอบสวนทั้งหมดปรากฏว่า 7 คนไม่พบสิ่งผิดปกติ เจ้าหน้าที่ได้ปล่อยตัวไปในเวลาต่อมา และอีก 2 คน ซึ่งพบว่าเป็นเครือญาติของ นายสาอูดิง และนายอุสมาน ตรวจสอบพบความพิรุธหลายอย่าง เจ้าหน้าที่ต้องสอบสวนเพื่อกดดันหาความจริงเพื่อประกอบผลในการติดตามคนร้ายกลุ่มนี้กันต่อไป
