ปัตตานี - ผบก.ภ.จ.ปัตตานี ระบุปรับแผนเชิงรุก ประชาชนในพื้นที่เข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาความไม่สงบ เนื่องจากเป็นหน่วยกำลังในพื้นที่ รู้ยุทธศาสตร์ทั้งพื้นที่ และบุคคลมากที่สุด
วันนี้ (3 ก.ค.) พล.ต.ต.กรีรินทร์ อินทร์แก้ว ผบก.ภ.จ.ปัตตานี เปิดเผยว่า หลังได้หารือร่วม 3 ฝ่าย เพื่อหามาตรการในการป้องกัน ปรับแผนเชิงรุก และเพิ่มประสิทธิภาพเจ้าหน้าที่ด้านงานมวลชนสัมพันธ์ เพื่อดึงประชาชนในพื้นที่เข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาความไม่สงบ ทั้งนี้เนื่องจากช่วงที่ผ่านมา กลุ่มก่อความไม่สงบได้ก่อเหตุรุนแรงในหลายรูปแบบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
ทั้ง 3 ฝ่ายเน้นให้มีการปรับแผนให้สอดคล้องกับสถานการณ์ตลอดเวลา ไม่ให้เกิดช่องว่างในการปฏิบัติ จัดทำแผนเผชิญเหตุในทุกพื้นที่ สถาปนาเครือข่ายการติดต่อสื่อสารให้ครอบคลุมทั้ง วิทยุ และเครื่องมือสื่อสารอื่นๆ โดยเฉพาะกองกำลังภาคประชาชนที่ต้องให้ความสำคัญมากที่สุด เนื่องจากเป็นหน่วยกำลังในพื้นที่ รู้ยุทธศาสตร์ทั้งพื้นที่ และบุคคลมากที่สุด
ส่วนเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติปรับให้มีการเพิ่มกำลังโดยใช้ยุทธวิธี กำชับให้มีการตรวจความพร้อมอาวุธยุทธโธปกรณ์ เครื่องมือสื่อสาร ตลอดจนอุปกรณ์อื่น ที่ใช้ปฏิบัติงาน และวิเคราะห์ทบทวนบทเรียนเหตุการณ์ต่างๆ อย่างสม่ำเสมอ จัดกำลังกองหนุนเตรียมพร้อม วิเคราะห์พื้นที่ปฏิบัติการณ์
นอกจากนี้ ได้มีการเพิ่มมาตรากาณ์ดูแลความปลอดภัย การตั้งจุดตรวจจุดสกัด การลาดตระเวน และการปิดล้อมตรวจค้นอย่างเข้มข้น ทั้งนี้เพื่อเป็นการเพิ่มศักยภาพการปฏิบัติปิดช่องวางของฝ่ายตรงข้าม แต่เพิ่มความกดดัน เพื่อที่จะสามารถจับกุมลดสถานการณ์ความรุนแรงที่อาจจะเกิดขึ้นในพื้นที่
วันนี้ (3 ก.ค.) พล.ต.ต.กรีรินทร์ อินทร์แก้ว ผบก.ภ.จ.ปัตตานี เปิดเผยว่า หลังได้หารือร่วม 3 ฝ่าย เพื่อหามาตรการในการป้องกัน ปรับแผนเชิงรุก และเพิ่มประสิทธิภาพเจ้าหน้าที่ด้านงานมวลชนสัมพันธ์ เพื่อดึงประชาชนในพื้นที่เข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาความไม่สงบ ทั้งนี้เนื่องจากช่วงที่ผ่านมา กลุ่มก่อความไม่สงบได้ก่อเหตุรุนแรงในหลายรูปแบบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
ทั้ง 3 ฝ่ายเน้นให้มีการปรับแผนให้สอดคล้องกับสถานการณ์ตลอดเวลา ไม่ให้เกิดช่องว่างในการปฏิบัติ จัดทำแผนเผชิญเหตุในทุกพื้นที่ สถาปนาเครือข่ายการติดต่อสื่อสารให้ครอบคลุมทั้ง วิทยุ และเครื่องมือสื่อสารอื่นๆ โดยเฉพาะกองกำลังภาคประชาชนที่ต้องให้ความสำคัญมากที่สุด เนื่องจากเป็นหน่วยกำลังในพื้นที่ รู้ยุทธศาสตร์ทั้งพื้นที่ และบุคคลมากที่สุด
ส่วนเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติปรับให้มีการเพิ่มกำลังโดยใช้ยุทธวิธี กำชับให้มีการตรวจความพร้อมอาวุธยุทธโธปกรณ์ เครื่องมือสื่อสาร ตลอดจนอุปกรณ์อื่น ที่ใช้ปฏิบัติงาน และวิเคราะห์ทบทวนบทเรียนเหตุการณ์ต่างๆ อย่างสม่ำเสมอ จัดกำลังกองหนุนเตรียมพร้อม วิเคราะห์พื้นที่ปฏิบัติการณ์
นอกจากนี้ ได้มีการเพิ่มมาตรากาณ์ดูแลความปลอดภัย การตั้งจุดตรวจจุดสกัด การลาดตระเวน และการปิดล้อมตรวจค้นอย่างเข้มข้น ทั้งนี้เพื่อเป็นการเพิ่มศักยภาพการปฏิบัติปิดช่องวางของฝ่ายตรงข้าม แต่เพิ่มความกดดัน เพื่อที่จะสามารถจับกุมลดสถานการณ์ความรุนแรงที่อาจจะเกิดขึ้นในพื้นที่
