นครศรีธรรมราช – อนาถลูกทรพี โกรธแม่บังเกิดเกล้า ไม่ยอมประกันตัว หลังต้องคดี ยายประกันแทน ย้อนกลับสางแค้น “มาตุฆาต” แม่บังเกิดเกล้า-น้องสาว ดับ
เหตุการณ์สะเทือนขวัญในยุคสังคมต่ำทรามรายนี้ เกิดขึ้นเมื่อเวลา 22.30 น.ของวันที่ 27 มิ.ย. พ.ต.ต.ผจญ เนียมรินทร์ พนักงานสอบสวนเวร สภ.กะปาง อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งเกิดเหตุคนร้ายบุกเข้าไปปล้นทรัพย์ในร้านค้าริมถนน สายที่วัง-จุฬาภรณ์ หมู่ที่ 5 ต.ที่วัง หลังจากนั้น จึงพร้อมด้วย พ.ต.ท.พิมล ทองตะกุก สวญ.หัวหน้าสถานี พ.ต.ต.ชัชชัย แก้วอ่อน สวป.กำลังชุดสืบสวนและสายตรวจตำบล เจ้าหน้าที่มูลนิธิสยามร่วมใจปู่อินทร์ แพทย์เวรชันสูตร รพ.ทุ่งสง
ในที่เกิดเหตุพบว่าเป็นบ้านชั้นเดียวตอนหน้าเป็นร้านค้าของชำขนาดย่อม และยังมีบริการจำหน่ายน้ำมันแบบปั๊มหลอดแก้ว ภายในบ้านพบกองเลือดกระจัดกระจาย เบื้องต้นพบว่า เพื่อนบ้านใกล้เคียงได้นำผู้บาดเจ็บในเหตุการณ์เดียวกันส่ง รพ.ทุ่งสง ล่วงหน้าไปแล้ว 1 ราย ส่วนในที่เกิดเหตุในห้องน้ำหลังบ้านพบศพ นางอารีย์ นรากร อายุ 47 ปี เจ้าของร้านดังกล่าว สภาพศพนอนจมกองเลือดเสียชีวิตอยู่ในชุดโสร่ง สวมเสื้อแขนสั้นสีเทา ชันสูตรพบว่ามีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มม.ที่ขมับซ้าย 1 นัด กะโหลกเปิด ในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้เก็บปลอกกระสุนไว้ได้จำนวนหนึ่ง
ส่วนผู้บาดเจ็บที่ถูกเพื่อนบ้านนำตัวส่ง รพ.ก่อนหน้านั้นทราบชื่อ คือ น.ส.ขนิษฐา นรากร อายุ 18 ปี นักเรียนชั้น ม.6 โรงเรียนสตรีทุ่งสง เป็นบุตรสาวของ นางอารีย์ มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาดเดียวกันที่ศีรษะ 1 นัด หน้าอก 6 แผล บาดเจ็บสาหัส ต่อมา รพ.ทุ่งสง ได้เคลื่อนย้าย น.ส.ขนิษฐา ส่งต่อยัง รพ.มหาราช แต่ปรากฏว่าได้เสียชีวิตบนรถฉุกเฉินของ รพ.ทุ่งสง ในระหว่างการเดินทาง
เบื้องต้นจากการรวบรวมข้อมูลพบว่า นางอารีย์ เป็นหญิงม่าย เดิมเป็นภรรยาของ นายสุพล นรากร อายุ 50 ปี ทำงานเป็นพนักงานขับรถหัวหน้าศาลจังหวัดทุ่งสง ซึ่งเพิ่งเสียชีวิต เนื่องจากอุบัติเหตุไปเมื่อราว 4-5 เดือนที่ผ่านมา หลังจากที่สามีเสียชีวิตนางอารีย์ ยังค้าของชำในหมู่บ้านเป็นอาชีพหลัก ส่งเสียบุตรสาวเรียนหนังสือ ก่อนเกิดเหตุพอสรุปได้ว่าขณะที่ นางอารีย์ ปิดร้านไปแล้ว ได้มีคนร้าย ซึ่งคาดว่าน่าจะรู้จักกับ นางอารีย์ บุกเข้าในในร้าน แต่ นางอารีย์ ส่งเสียงดังขอความช่วยเหลือ พร้อมทั้งวิ่งเข้าไปหลบในห้องน้ำ คนร้ายได้ตามไปถีบประตูจนพังแล้วใช้อาวุธปืนยิงศีรษะจนกะโหลกเปิดเสียชีวิตทันที ส่วน น.ส.ขนิษฐา ลูกสาว นั่งอ่านหนังสืออยู่ในห้องนอนได้ยินเสียงปืน และแม่ร้องจึงวิ่งออกมาเพื่อช่วยเหลือกลับถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนขนาดเดียวกันยิงใส่ 7 นัด จนได้รับบาดเจ็บสาหัส ก่อนที่จะเก็บเอาทรัพย์สินไปจำนวนหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม มีพยานแจ้งว่า เห็นรถยนต์เก๋งสีขาวในช่วงที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่สันนิษฐานในเบื้องต้นว่าเป็นการเข้าปล้นทรัพย์หรือชิงทรัพย์ และพยายามที่จะวิทยุสกัดรถคันดังกล่าว แต่ไม่พบทุกเส้นทาง ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เชิญพยานในบ้านที่อยู่ใกล้เคียงกันไปสอบปากคำอย่างเร่งด่วน เพื่อหาข้อมูลของคนร้าย
ต่อมาความคืบหน้าเมื่อช่วงเช้าของวันนี้ (28 มิ.ย.) พ.ต.ต.ชัชชัย แก้วอ่อน สวป.สภ.กะปาง จ.นครศรีธรรมราช จากการสอบปากคำพยาน และลงพื้นที่สืบสวนข้อมูลตลอดคืนจนพบข้อมูลพยานและหลักฐานชัดเจนว่าคดีนี้ ไม่ได้เป็นการปล้นทรัพย์ และมีหลักฐานพยานยืนยันชัดว่าผู้ก่อเหตุ คือ นายสุขสวัสดิ์ นรากร อายุ 24 ปี บุตรชายในไส้ของ นางอารีย์ นั่นเอง และเป็นพี่ชายของ น.ส.ขนิษฐา ที่เสียชีวิตในเหตุการณ์เดียวกัน ไม่ได้ประกอบอาชีพเป็นหลักแหล่ง อาศัยอยู่กับมารดา มีความประพฤติในทางสำมะเลเทเมา ล่าสุดนั้น ได้ก่อคดีบุกชิงสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท ในร้านทองกลางเมืองทุ่งสง แต่ถูกตำรวจจับกุมตัวไว้ได้หลังเกิดเหตุ ซึ่งหลังจากที่ นางอารีย์ ทราบเรื่อง ปรากฏว่า นางอารีย์ ไม่ยอมมาประกันตัวลูกชาย เพราะอยากดัดนิสัย แต่ยายของ นายสุขสวัสดิ์ สงสารหลาน จึงเป็นผู้ไปประกันตัวแทน
“สาเหตุที่ นายสุขสวัสดิ์ ถึงขั้นฆ่าแม่และน้อง พบว่า มาจากความโกรธแค้นที่ นางอารีย์ ผู้เป็นแม่บังเกิดเกล้าไม่ยอมไปประกันตัวให้ตอนที่ นายสุขสวัสดิ์ ถูกจับในคดีชิงทรัพย์ที่ร้านทองในอำเภอทุ่งสง เมื่อประมาณ 3 เดือนที่ผ่านมา แต่ผู้เป็นยายไปประกันตัวในชั้นศาล หลังจากนั้นนายสุขสวัสดิ์ ได้หนีประกันชั้นศาลไปหลบอยู่ในพื้นที่ อ.ป่าพยอม จ.พัทลุง ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้พยายามติดตามตัวอยู่เช่นกัน ในคืนเกิดเหตุมีพยานเห็นชัดเจนว่า นายสุขสวัสดิ์ ขับรถจักรยานยนต์ย้อนมาที่บ้าน เมื่อมาถึงได้เข้าไปในบ้าน และต่อว่าต่อขาน นางอารีย์ อย่างรุนแรง และกล่าวหาว่า แม่ไม่รัก ไม่ใส่ใจ ใส่ใจแต่น้องสาว และยังมีการได้ยินอีกว่า “ที่ไม่ไปประกัน เพราะต้องการดัดสันดานแก” ขณะนั้นเองด้วยความตกใจนางอารีย์ขึงพยายามวิ่งเข้าไปในห้องน้ำ นายสุขสวัสดิ์ ได้ตามไปถีบประตูห้องน้ำจนพังแล้วใช้ปืนยิงนางอารีย์แม่บังเกิดเกล้าจนเสียชีวิต ส่วน น.ส.ขนิษฐา น้องสาวนั้นพยายามที่จะช่วยแม่ จึงโดนพี่ชายยิงจนเสียชีวิตอีกรายจนเป็นโศกนาฏกรรม”
สวป.สภ.กะปาง คาดว่า หมายจับ นายสุขสวัสดิ์ จะสามารถเสนอให้ศาลอนุมัติได้ในวันนี้ เนื่องจากพยานหลักฐานสมบูรณ์มาก ส่วนการติดตามนั้นเจ้าหน้าที่ได้เร่งติดตามไปแล้วตั้งแต่เมื่อคืน ซึ่งคาดว่า น่าจะได้ตัว นายสุขสวัสดิ์ มาดำเนินคดีได้อย่างแน่นอน สวป.สภ.กะปาง กล่าวในที่สุด
เหตุการณ์สะเทือนขวัญในยุคสังคมต่ำทรามรายนี้ เกิดขึ้นเมื่อเวลา 22.30 น.ของวันที่ 27 มิ.ย. พ.ต.ต.ผจญ เนียมรินทร์ พนักงานสอบสวนเวร สภ.กะปาง อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งเกิดเหตุคนร้ายบุกเข้าไปปล้นทรัพย์ในร้านค้าริมถนน สายที่วัง-จุฬาภรณ์ หมู่ที่ 5 ต.ที่วัง หลังจากนั้น จึงพร้อมด้วย พ.ต.ท.พิมล ทองตะกุก สวญ.หัวหน้าสถานี พ.ต.ต.ชัชชัย แก้วอ่อน สวป.กำลังชุดสืบสวนและสายตรวจตำบล เจ้าหน้าที่มูลนิธิสยามร่วมใจปู่อินทร์ แพทย์เวรชันสูตร รพ.ทุ่งสง
ในที่เกิดเหตุพบว่าเป็นบ้านชั้นเดียวตอนหน้าเป็นร้านค้าของชำขนาดย่อม และยังมีบริการจำหน่ายน้ำมันแบบปั๊มหลอดแก้ว ภายในบ้านพบกองเลือดกระจัดกระจาย เบื้องต้นพบว่า เพื่อนบ้านใกล้เคียงได้นำผู้บาดเจ็บในเหตุการณ์เดียวกันส่ง รพ.ทุ่งสง ล่วงหน้าไปแล้ว 1 ราย ส่วนในที่เกิดเหตุในห้องน้ำหลังบ้านพบศพ นางอารีย์ นรากร อายุ 47 ปี เจ้าของร้านดังกล่าว สภาพศพนอนจมกองเลือดเสียชีวิตอยู่ในชุดโสร่ง สวมเสื้อแขนสั้นสีเทา ชันสูตรพบว่ามีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มม.ที่ขมับซ้าย 1 นัด กะโหลกเปิด ในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้เก็บปลอกกระสุนไว้ได้จำนวนหนึ่ง
ส่วนผู้บาดเจ็บที่ถูกเพื่อนบ้านนำตัวส่ง รพ.ก่อนหน้านั้นทราบชื่อ คือ น.ส.ขนิษฐา นรากร อายุ 18 ปี นักเรียนชั้น ม.6 โรงเรียนสตรีทุ่งสง เป็นบุตรสาวของ นางอารีย์ มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาดเดียวกันที่ศีรษะ 1 นัด หน้าอก 6 แผล บาดเจ็บสาหัส ต่อมา รพ.ทุ่งสง ได้เคลื่อนย้าย น.ส.ขนิษฐา ส่งต่อยัง รพ.มหาราช แต่ปรากฏว่าได้เสียชีวิตบนรถฉุกเฉินของ รพ.ทุ่งสง ในระหว่างการเดินทาง
เบื้องต้นจากการรวบรวมข้อมูลพบว่า นางอารีย์ เป็นหญิงม่าย เดิมเป็นภรรยาของ นายสุพล นรากร อายุ 50 ปี ทำงานเป็นพนักงานขับรถหัวหน้าศาลจังหวัดทุ่งสง ซึ่งเพิ่งเสียชีวิต เนื่องจากอุบัติเหตุไปเมื่อราว 4-5 เดือนที่ผ่านมา หลังจากที่สามีเสียชีวิตนางอารีย์ ยังค้าของชำในหมู่บ้านเป็นอาชีพหลัก ส่งเสียบุตรสาวเรียนหนังสือ ก่อนเกิดเหตุพอสรุปได้ว่าขณะที่ นางอารีย์ ปิดร้านไปแล้ว ได้มีคนร้าย ซึ่งคาดว่าน่าจะรู้จักกับ นางอารีย์ บุกเข้าในในร้าน แต่ นางอารีย์ ส่งเสียงดังขอความช่วยเหลือ พร้อมทั้งวิ่งเข้าไปหลบในห้องน้ำ คนร้ายได้ตามไปถีบประตูจนพังแล้วใช้อาวุธปืนยิงศีรษะจนกะโหลกเปิดเสียชีวิตทันที ส่วน น.ส.ขนิษฐา ลูกสาว นั่งอ่านหนังสืออยู่ในห้องนอนได้ยินเสียงปืน และแม่ร้องจึงวิ่งออกมาเพื่อช่วยเหลือกลับถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนขนาดเดียวกันยิงใส่ 7 นัด จนได้รับบาดเจ็บสาหัส ก่อนที่จะเก็บเอาทรัพย์สินไปจำนวนหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม มีพยานแจ้งว่า เห็นรถยนต์เก๋งสีขาวในช่วงที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่สันนิษฐานในเบื้องต้นว่าเป็นการเข้าปล้นทรัพย์หรือชิงทรัพย์ และพยายามที่จะวิทยุสกัดรถคันดังกล่าว แต่ไม่พบทุกเส้นทาง ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เชิญพยานในบ้านที่อยู่ใกล้เคียงกันไปสอบปากคำอย่างเร่งด่วน เพื่อหาข้อมูลของคนร้าย
ต่อมาความคืบหน้าเมื่อช่วงเช้าของวันนี้ (28 มิ.ย.) พ.ต.ต.ชัชชัย แก้วอ่อน สวป.สภ.กะปาง จ.นครศรีธรรมราช จากการสอบปากคำพยาน และลงพื้นที่สืบสวนข้อมูลตลอดคืนจนพบข้อมูลพยานและหลักฐานชัดเจนว่าคดีนี้ ไม่ได้เป็นการปล้นทรัพย์ และมีหลักฐานพยานยืนยันชัดว่าผู้ก่อเหตุ คือ นายสุขสวัสดิ์ นรากร อายุ 24 ปี บุตรชายในไส้ของ นางอารีย์ นั่นเอง และเป็นพี่ชายของ น.ส.ขนิษฐา ที่เสียชีวิตในเหตุการณ์เดียวกัน ไม่ได้ประกอบอาชีพเป็นหลักแหล่ง อาศัยอยู่กับมารดา มีความประพฤติในทางสำมะเลเทเมา ล่าสุดนั้น ได้ก่อคดีบุกชิงสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท ในร้านทองกลางเมืองทุ่งสง แต่ถูกตำรวจจับกุมตัวไว้ได้หลังเกิดเหตุ ซึ่งหลังจากที่ นางอารีย์ ทราบเรื่อง ปรากฏว่า นางอารีย์ ไม่ยอมมาประกันตัวลูกชาย เพราะอยากดัดนิสัย แต่ยายของ นายสุขสวัสดิ์ สงสารหลาน จึงเป็นผู้ไปประกันตัวแทน
“สาเหตุที่ นายสุขสวัสดิ์ ถึงขั้นฆ่าแม่และน้อง พบว่า มาจากความโกรธแค้นที่ นางอารีย์ ผู้เป็นแม่บังเกิดเกล้าไม่ยอมไปประกันตัวให้ตอนที่ นายสุขสวัสดิ์ ถูกจับในคดีชิงทรัพย์ที่ร้านทองในอำเภอทุ่งสง เมื่อประมาณ 3 เดือนที่ผ่านมา แต่ผู้เป็นยายไปประกันตัวในชั้นศาล หลังจากนั้นนายสุขสวัสดิ์ ได้หนีประกันชั้นศาลไปหลบอยู่ในพื้นที่ อ.ป่าพยอม จ.พัทลุง ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้พยายามติดตามตัวอยู่เช่นกัน ในคืนเกิดเหตุมีพยานเห็นชัดเจนว่า นายสุขสวัสดิ์ ขับรถจักรยานยนต์ย้อนมาที่บ้าน เมื่อมาถึงได้เข้าไปในบ้าน และต่อว่าต่อขาน นางอารีย์ อย่างรุนแรง และกล่าวหาว่า แม่ไม่รัก ไม่ใส่ใจ ใส่ใจแต่น้องสาว และยังมีการได้ยินอีกว่า “ที่ไม่ไปประกัน เพราะต้องการดัดสันดานแก” ขณะนั้นเองด้วยความตกใจนางอารีย์ขึงพยายามวิ่งเข้าไปในห้องน้ำ นายสุขสวัสดิ์ ได้ตามไปถีบประตูห้องน้ำจนพังแล้วใช้ปืนยิงนางอารีย์แม่บังเกิดเกล้าจนเสียชีวิต ส่วน น.ส.ขนิษฐา น้องสาวนั้นพยายามที่จะช่วยแม่ จึงโดนพี่ชายยิงจนเสียชีวิตอีกรายจนเป็นโศกนาฏกรรม”
สวป.สภ.กะปาง คาดว่า หมายจับ นายสุขสวัสดิ์ จะสามารถเสนอให้ศาลอนุมัติได้ในวันนี้ เนื่องจากพยานหลักฐานสมบูรณ์มาก ส่วนการติดตามนั้นเจ้าหน้าที่ได้เร่งติดตามไปแล้วตั้งแต่เมื่อคืน ซึ่งคาดว่า น่าจะได้ตัว นายสุขสวัสดิ์ มาดำเนินคดีได้อย่างแน่นอน สวป.สภ.กะปาง กล่าวในที่สุด
