ปัตตานี - ผบ.ทบ.ลงพื้นที่ปัตตานี มอบพระพุทธรูป เพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กับกำลังพลที่ปฏิบัติงาน พร้อมติดตามผลการทำงานของหน่วยรบพิเศษจำนวน 3 กองร้อย ชี้ การเจรจาไม่ใช่หน้าที่ทหารต้องเป็นนโยบายของรัฐที่จะต้องทำ
วันนี้ (26 มิ.ย.) พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.เป็นประธานในพิธีมอบพระพุทธรูป พระพุทธโรจน์ฤทธิ์ ให้แก่ผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจ และผู้บังคับการตำรวจภูธร ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กับกำลังพลที่ปฏิบัติงาน ซึ่งพระพุทธรูปหลวงพ่อดำมีขนาดหน้าตักกว้าง 39 นิ้ว สูง 1 เมตร 80 ซม.โดยมีการบรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้ที่พระเศียร และจัดสร้างผู้มีจิตศรัทธาจากทั่วประเทศ
จากนั้น พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.พร้อมด้วย พลเอก ประยุทธ จันทร์โอชา เสนาธิการทหารบก และคณะ ร่วมประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้ง 3 ฝ่าย โดยประเด็นหลักที่ได้มีการหารือ คือ ผลการทำงานของหน่วยรบพิเศษจำนวน 3 กองร้อย ที่ได้ลงพื้นที่มาแล้วประมาณ 1 เดือน พร้อมทั้งวิเคราะห์เหตุการณ์ช่วงที่ผ่านมาที่มีความรุนแรง โดยให้หน่วยหาวิธีแก้ไข ซึ่งได้กำหนดแนวทางออกมาแล้ว แต่ไม่เป็นที่เปิดเผย
ส่วนกรณีการข่มขู่ทำร้ายผู้พิพากษา พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.กล่าวว่า พูดเป็นประเด็นก็กลายเป็นการรับรู้ของคนในชาติ ซึ่งเรื่องนี้ได้พูดมาก่อนหน้าแล้ว หากพูดไปอีกก็ไม่ดีจะเป็นการชี้จุดว่าเป็นเป้าหมายอ่อนแอ ในการป้องกันตนเอง ซึ่งก็ได้กำหนดแนวทางและมาตรการ ให้หน่วยระดับปฏิบัติการว่าจะต้องทำอย่างไร ส่วนกรณีข่าวการข้อเจรจากับกลุ่มก่อความไม่สงบนั้น ต้องดูอำนาจหน้าที่ ซึ่งการที่จะเอาคนมาจากที่ควบคุมนั้น อำนาจหน้าที่ทหารไม่มี รัฐก็สั่งไม่ได้
ตนไม่รู้ว่าสภาจะยอมรับหรือไม่ การที่จะปล่อยคนผิดออกจากคุก แล้วจะไปเจรจากับใคร ซึ่งคนที่ทำผิดกฎหมายอาญา หรือฆ่าคนแล้วจะไปเจรจา ตนไม่มีอำนาจหน้าที่ ถามตำรวจก็ทำไม่ได้ หากเจอแล้วก็ต้องจับ หาหลักฐานส่งและศาลตัดสินผิดหรือไม่ผิด ซึ่งการที่จะให้ทหารไปคุย ตนคิดว่าอำนาจหน้าที่ทหารทำไม่ได้ แต่อย่างไรก็ตาม ตนก็จะไม่ใช้มาตราการณ์รุนแรง โดยตนยืนยันว่าจะเอาการพัฒนาที่เรื่องว่า การเมืองไปดูแลจิตใจ ส่วนเรื่องการเจรจาต้องเป็นนโยบายของรัฐที่จะต้องทำ
วันนี้ (26 มิ.ย.) พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.เป็นประธานในพิธีมอบพระพุทธรูป พระพุทธโรจน์ฤทธิ์ ให้แก่ผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจ และผู้บังคับการตำรวจภูธร ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กับกำลังพลที่ปฏิบัติงาน ซึ่งพระพุทธรูปหลวงพ่อดำมีขนาดหน้าตักกว้าง 39 นิ้ว สูง 1 เมตร 80 ซม.โดยมีการบรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้ที่พระเศียร และจัดสร้างผู้มีจิตศรัทธาจากทั่วประเทศ
จากนั้น พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.พร้อมด้วย พลเอก ประยุทธ จันทร์โอชา เสนาธิการทหารบก และคณะ ร่วมประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้ง 3 ฝ่าย โดยประเด็นหลักที่ได้มีการหารือ คือ ผลการทำงานของหน่วยรบพิเศษจำนวน 3 กองร้อย ที่ได้ลงพื้นที่มาแล้วประมาณ 1 เดือน พร้อมทั้งวิเคราะห์เหตุการณ์ช่วงที่ผ่านมาที่มีความรุนแรง โดยให้หน่วยหาวิธีแก้ไข ซึ่งได้กำหนดแนวทางออกมาแล้ว แต่ไม่เป็นที่เปิดเผย
ส่วนกรณีการข่มขู่ทำร้ายผู้พิพากษา พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.กล่าวว่า พูดเป็นประเด็นก็กลายเป็นการรับรู้ของคนในชาติ ซึ่งเรื่องนี้ได้พูดมาก่อนหน้าแล้ว หากพูดไปอีกก็ไม่ดีจะเป็นการชี้จุดว่าเป็นเป้าหมายอ่อนแอ ในการป้องกันตนเอง ซึ่งก็ได้กำหนดแนวทางและมาตรการ ให้หน่วยระดับปฏิบัติการว่าจะต้องทำอย่างไร ส่วนกรณีข่าวการข้อเจรจากับกลุ่มก่อความไม่สงบนั้น ต้องดูอำนาจหน้าที่ ซึ่งการที่จะเอาคนมาจากที่ควบคุมนั้น อำนาจหน้าที่ทหารไม่มี รัฐก็สั่งไม่ได้
ตนไม่รู้ว่าสภาจะยอมรับหรือไม่ การที่จะปล่อยคนผิดออกจากคุก แล้วจะไปเจรจากับใคร ซึ่งคนที่ทำผิดกฎหมายอาญา หรือฆ่าคนแล้วจะไปเจรจา ตนไม่มีอำนาจหน้าที่ ถามตำรวจก็ทำไม่ได้ หากเจอแล้วก็ต้องจับ หาหลักฐานส่งและศาลตัดสินผิดหรือไม่ผิด ซึ่งการที่จะให้ทหารไปคุย ตนคิดว่าอำนาจหน้าที่ทหารทำไม่ได้ แต่อย่างไรก็ตาม ตนก็จะไม่ใช้มาตราการณ์รุนแรง โดยตนยืนยันว่าจะเอาการพัฒนาที่เรื่องว่า การเมืองไปดูแลจิตใจ ส่วนเรื่องการเจรจาต้องเป็นนโยบายของรัฐที่จะต้องทำ