ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ผู้ว่าฯ ภูเก็ตบี้หน่วยงานเกี่ยวข้องแก้ปัญหายาเสพติด ตามยุทธศาสตร์ 5 รั้วของรัฐบาลให้เห็นผลเป็นรูปธรรมภายใน 4 เดือน เน้นต้องดำเนินการปราบปราม จับกุมและบำบัดรักษา ให้ได้ตามเป้าที่กำหนด
นายวิชัย ไพรสงบ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงการป้องกันและปราบปรามการแพร่ระบาดของยาเสพติดในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต หลังจากเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการศูนย์ต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติดจังหวัดภูเก็ตวาระพิเศษ ซึ่งจัดขึ้นที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดภูเก็ต ว่า ในการประชุมคณะกรรมการศูนย์ต่อสู้ เพื่อเอาชนะยาเสพติดจังหวัดภูเก็ตวาระพิเศษครั้งนี้ เพื่อมอบนโยบายและติดตามผลการป้องกันและแก้ปัญหายาเสพติด ตามยุทธศาสตร์ 5 รั้วป้องกันของรัฐบาล
หน่วยงานทุกภาคส่วนในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต จะต้องให้ให้ความสำคัญและเร่งดำเนินการให้เกิดผลเป็นรูปธรรมภายใน 4 เดือน ของปีงบประมาณ 2552
สำหรับการดำเนินการแก้ไขปัญหายาเสพติดติให้ประสบความสำเร็จ และเห็นเป็นรูปธรรมนั้นจะต้องดำเนินการใน 9 ข้อด้วยกัน ประกอบด้วย 1.การปรับแผนป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ 5 รั้วป้องกัน เป้าประสงค์และตัวชี้วัดที่ชัดเจน 2.การให้ความสำคัญกับการทำประชาคมโดยวิธีลับ เพื่อค้นหาผู้ค้า ผู้เสพ ผู้เกี่ยวข้องด้วยความโปร่งใส 3.ผู้ว่าราชการจังหวัดและส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ประชุมด้วยตนเองและบูรณาการทำงานอย่างเข้มแข็ง
4.ให้ ศตส.จ.ยึดเป้าหมายในการป้องกัน และแก้ไขปัญหายาเสพติดที่ชัดเจน เพื่อนำผู้เสพเข้ารับการบำบัดให้เห็นเป็นรูปธรรม 5.ให้ทุกจังหวัดสร้างระบบการร้องเรียน ร้องทุกข์อย่างจริงจัง เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการแก้ปัญหาที่ ตู้ ปณ.11 กระทรวงมหาดไทย หรือที่ผู้ว่าราชการจังหวัด 6.ขอความช่วยเหลือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จัดทำแผนงานป้องกันและแก้ปัญหายาเสพติดโดยการจัดสรรงบประมาณและมีส่วนร่วมกิจกรรมต่างๆ ทั้งระยะสั้น และระยะยาว
7.ให้จังหวัดมีโครงการ 1 จังหวัด 1 Best Practice เพื่อยกย่องเชิดชูโดยการทำความดี 8.การประกาศเป็นหมู่บ้านยาเสพติด (หมู่บ้านสีขาว) และต้องรักษาความยั่งยืนให้ได้ และ 9.การสร้างกระแสให้ประชาชนประกาศสงครามกับยาเสพติดเพื่อกดดันให้ ผู้ค้าหยุด ผู้เสพเลิก ผู้เกี่ยวข้องตระหนัก และเข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหา
นายวิชัยกล่าวต่อไปว่า คณะอนุกรรมการฝ่ายต่างๆ ที่ประกอบด้วยฝ่ายสกัดกั้นยาเสพติดตามแนวชายแดน การสร้างการมีส่วนร่วมของชุมชน, การจัดระเบียบสังคมแบบบูรณาการ, การแก้ไขปัญหาในสถานศึกษา, การส่งเสริมความเข้มแข็งของครอบครัว, การปราบปรามยาเสพติด, การบำบัดรักษาฟื้นฟู และการประชาสัมพันธ์จะต้องเร่งดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหาในเชิงรุก ให้สามารถปราบปราม จับกุมผู้ค้ารายใหญ่-รายย่อยให้ได้ตามเป้าหมายที่กำหนดและเป้าหมายการนำผู้เสพเข้ารับการบำบัดและฟื้นฟู ให้ได้ตามเป้าหมาย 581 คน ทั้งจังหวัดภายในปีงบประมาณนี้
นายวิชัย ไพรสงบ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงการป้องกันและปราบปรามการแพร่ระบาดของยาเสพติดในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต หลังจากเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการศูนย์ต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติดจังหวัดภูเก็ตวาระพิเศษ ซึ่งจัดขึ้นที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดภูเก็ต ว่า ในการประชุมคณะกรรมการศูนย์ต่อสู้ เพื่อเอาชนะยาเสพติดจังหวัดภูเก็ตวาระพิเศษครั้งนี้ เพื่อมอบนโยบายและติดตามผลการป้องกันและแก้ปัญหายาเสพติด ตามยุทธศาสตร์ 5 รั้วป้องกันของรัฐบาล
หน่วยงานทุกภาคส่วนในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต จะต้องให้ให้ความสำคัญและเร่งดำเนินการให้เกิดผลเป็นรูปธรรมภายใน 4 เดือน ของปีงบประมาณ 2552
สำหรับการดำเนินการแก้ไขปัญหายาเสพติดติให้ประสบความสำเร็จ และเห็นเป็นรูปธรรมนั้นจะต้องดำเนินการใน 9 ข้อด้วยกัน ประกอบด้วย 1.การปรับแผนป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ 5 รั้วป้องกัน เป้าประสงค์และตัวชี้วัดที่ชัดเจน 2.การให้ความสำคัญกับการทำประชาคมโดยวิธีลับ เพื่อค้นหาผู้ค้า ผู้เสพ ผู้เกี่ยวข้องด้วยความโปร่งใส 3.ผู้ว่าราชการจังหวัดและส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ประชุมด้วยตนเองและบูรณาการทำงานอย่างเข้มแข็ง
4.ให้ ศตส.จ.ยึดเป้าหมายในการป้องกัน และแก้ไขปัญหายาเสพติดที่ชัดเจน เพื่อนำผู้เสพเข้ารับการบำบัดให้เห็นเป็นรูปธรรม 5.ให้ทุกจังหวัดสร้างระบบการร้องเรียน ร้องทุกข์อย่างจริงจัง เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการแก้ปัญหาที่ ตู้ ปณ.11 กระทรวงมหาดไทย หรือที่ผู้ว่าราชการจังหวัด 6.ขอความช่วยเหลือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จัดทำแผนงานป้องกันและแก้ปัญหายาเสพติดโดยการจัดสรรงบประมาณและมีส่วนร่วมกิจกรรมต่างๆ ทั้งระยะสั้น และระยะยาว
7.ให้จังหวัดมีโครงการ 1 จังหวัด 1 Best Practice เพื่อยกย่องเชิดชูโดยการทำความดี 8.การประกาศเป็นหมู่บ้านยาเสพติด (หมู่บ้านสีขาว) และต้องรักษาความยั่งยืนให้ได้ และ 9.การสร้างกระแสให้ประชาชนประกาศสงครามกับยาเสพติดเพื่อกดดันให้ ผู้ค้าหยุด ผู้เสพเลิก ผู้เกี่ยวข้องตระหนัก และเข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหา
นายวิชัยกล่าวต่อไปว่า คณะอนุกรรมการฝ่ายต่างๆ ที่ประกอบด้วยฝ่ายสกัดกั้นยาเสพติดตามแนวชายแดน การสร้างการมีส่วนร่วมของชุมชน, การจัดระเบียบสังคมแบบบูรณาการ, การแก้ไขปัญหาในสถานศึกษา, การส่งเสริมความเข้มแข็งของครอบครัว, การปราบปรามยาเสพติด, การบำบัดรักษาฟื้นฟู และการประชาสัมพันธ์จะต้องเร่งดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหาในเชิงรุก ให้สามารถปราบปราม จับกุมผู้ค้ารายใหญ่-รายย่อยให้ได้ตามเป้าหมายที่กำหนดและเป้าหมายการนำผู้เสพเข้ารับการบำบัดและฟื้นฟู ให้ได้ตามเป้าหมาย 581 คน ทั้งจังหวัดภายในปีงบประมาณนี้