นครศรีธรรมราช – เจ้าหน้าตำรวจทางหลวงตั้งด่านตรวจค้น รถต้องสงสัย สามารถควมคุมตัว 2 สามี ภรรยา หวังรวยทางลัด ขนใบกระท่อมขายในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ผลิตเป็นน้ำต้มพืชกระท่อมสูตร 4 คูณ 100 ซึ่งราคาสูงถึง กิโลกรัมละ 800-1,000 บาท
วันนี้ (18 มิ.ย.) พ.ต.ต.บรรพต เดชมา สว.ทล.4 กก.ทล.7 (สถานีตำรวจทางหลวง 4 กองกำกับการตำรวจทางหลวง 7) นครศรีธรรมราช ได้แถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหา 2 สามีภรรยาขนพืชกระท่อมส่ง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมีผู้ต้องหา คือ นายอุมา มะ อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 194 ม.11 ต.โคกเคียน อ.เมือง จ.นราธิวาส และ นางคอดิเยาะ ลาเตะ อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 55/5 ม.3 ต.ยะต๊ะ อ.รามัน จ.ยะลา พร้อมใบพืชกระท่อมจำนวน 78 กิโลกรัม รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน กค-3229 ยะลาโดยผู้ต้องหาทั้งสองรายเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้ง ข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 5 (พืชกระท่อม) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย
พ.ต.ต.บรรพต เดชมา เปิดเผยว่า ได้รับคำสั่งให้มีการเข้มงวดกวดขันจับกุมสิ่งผิดกฎหมาย โดยเฉพาะเรื่องยาเสพติด อาวุธปืน อาวุธสงคราม และแรงงานต่างด้าวในส่วนของ ตำรวจทางหลวง ส.ทล.4 กก.ทล.7 จึงนำรถวิทยุตรวจการณ์จำนวน 2 คัน ออกตรวจในพื้นที่รับผิดชอบเส้นทางหลวงหมายเลข 408 กระทั้งเวลา 03.30 น.วันเดียวกัน ขณะขับรถตรวจการณ์มาถึงบริเวณ กม.ที่ 65-66 ม.9 ต.หน้าสตน อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช
พบรถเก๋งคันดังกล่าวแล่นมา และท่าทางมีพิรุธ จึงส่งสัญญาณให้หยุดเพื่อตรวจค้น พบ นายอุมา และ นางคอดีเยาะ สองภรรยานั่งคู่กันมา และจากการตรวจค้นพบพืชกระท่อมบรรจุในกระสอบปุ๋ยจำนวน 7 กระท่อม รวมน้ำหนัก 78 กิโลกรัม จึงควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางมาสอบสวน
ซึ่งจากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งสองให้การรับสารภาพว่า เพื่อนแนะนำให้มาซื้อพืชกระท่อมใน จ.นครศรีธรรมราช เพื่อนำไปจำหน่ายในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จึงพร้อมกันสองสามีภรรยาเดินทางมาซื้อพืชกระท่อมจำนวน 80 กก.ๆ ละ 150 บาท รวม 12,000 บาท แต่หาซื้อได้เพียง 78 กก.เท่านั้น จากนั้นก็นำมาใส่ไว้ในท้ายรถเก๋งก่อนจะขับรถมุ่งหน้านำส่งลูกค้าที่ จ.นราธิวาส
แต่ดวงไม่ดีมาพบตำรวจทางหลวงเรียกตรวจค้น และจับกุมดังกล่าว ในขณะที่ นายอุมา อ้างว่าเพิ่งทำเป็นครั้งแรกเพื่อหาเงินไปรักษาพ่อตาที่ป่วยเป็นอัมพาต หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวผู้ต้องหาสองสามีภรรยาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.หัวไทร นครศรีธรรมราช เพื่อดำเนินคดี และสอบสวนขยายผลต่อไป
ทางด้าน พ.ต.ต.บรรพต เดชมา สว.ทล.4 กก.ทล.7 นครศรีธรรมราช กล่าวว่า พืชกระท่อมกำลังแพร่ระบาดอย่างหนักในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ส่วนใหญ่จะนำไปแปรรูปผลิตเป็นน้ำต้มพืชกระท่อมสูตร 4 คูณ 100 และเข้ามาหาซื้อใบพืชกระท่อมสดจากจังหวัดภาคใต้ตอนบน จะถูกลำเลียงส่งไปจำหน่ายในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
ซึ่งจำหน่ายในราคาแพงมาก โดยมีการจำหน่ายกันกิโลกรัมละ 800-1,000 บาท ทางผู้บังคับบัญชาจึงสั่งการให้ตำรวจทางหลวงเข้มงวดกวดขันในการปฏิบัติการ และตรวจจับบนเส้นทางหลวงในพื้นที่รับผิดชอบจนกระทั่งสามารถตรวจจับกุมสองผู้ต้องหาพร้อมของกลางจำนวนมากดังกล่าว
วันนี้ (18 มิ.ย.) พ.ต.ต.บรรพต เดชมา สว.ทล.4 กก.ทล.7 (สถานีตำรวจทางหลวง 4 กองกำกับการตำรวจทางหลวง 7) นครศรีธรรมราช ได้แถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหา 2 สามีภรรยาขนพืชกระท่อมส่ง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมีผู้ต้องหา คือ นายอุมา มะ อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 194 ม.11 ต.โคกเคียน อ.เมือง จ.นราธิวาส และ นางคอดิเยาะ ลาเตะ อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 55/5 ม.3 ต.ยะต๊ะ อ.รามัน จ.ยะลา พร้อมใบพืชกระท่อมจำนวน 78 กิโลกรัม รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน กค-3229 ยะลาโดยผู้ต้องหาทั้งสองรายเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้ง ข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 5 (พืชกระท่อม) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย
พ.ต.ต.บรรพต เดชมา เปิดเผยว่า ได้รับคำสั่งให้มีการเข้มงวดกวดขันจับกุมสิ่งผิดกฎหมาย โดยเฉพาะเรื่องยาเสพติด อาวุธปืน อาวุธสงคราม และแรงงานต่างด้าวในส่วนของ ตำรวจทางหลวง ส.ทล.4 กก.ทล.7 จึงนำรถวิทยุตรวจการณ์จำนวน 2 คัน ออกตรวจในพื้นที่รับผิดชอบเส้นทางหลวงหมายเลข 408 กระทั้งเวลา 03.30 น.วันเดียวกัน ขณะขับรถตรวจการณ์มาถึงบริเวณ กม.ที่ 65-66 ม.9 ต.หน้าสตน อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช
พบรถเก๋งคันดังกล่าวแล่นมา และท่าทางมีพิรุธ จึงส่งสัญญาณให้หยุดเพื่อตรวจค้น พบ นายอุมา และ นางคอดีเยาะ สองภรรยานั่งคู่กันมา และจากการตรวจค้นพบพืชกระท่อมบรรจุในกระสอบปุ๋ยจำนวน 7 กระท่อม รวมน้ำหนัก 78 กิโลกรัม จึงควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางมาสอบสวน
ซึ่งจากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งสองให้การรับสารภาพว่า เพื่อนแนะนำให้มาซื้อพืชกระท่อมใน จ.นครศรีธรรมราช เพื่อนำไปจำหน่ายในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จึงพร้อมกันสองสามีภรรยาเดินทางมาซื้อพืชกระท่อมจำนวน 80 กก.ๆ ละ 150 บาท รวม 12,000 บาท แต่หาซื้อได้เพียง 78 กก.เท่านั้น จากนั้นก็นำมาใส่ไว้ในท้ายรถเก๋งก่อนจะขับรถมุ่งหน้านำส่งลูกค้าที่ จ.นราธิวาส
แต่ดวงไม่ดีมาพบตำรวจทางหลวงเรียกตรวจค้น และจับกุมดังกล่าว ในขณะที่ นายอุมา อ้างว่าเพิ่งทำเป็นครั้งแรกเพื่อหาเงินไปรักษาพ่อตาที่ป่วยเป็นอัมพาต หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวผู้ต้องหาสองสามีภรรยาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.หัวไทร นครศรีธรรมราช เพื่อดำเนินคดี และสอบสวนขยายผลต่อไป
ทางด้าน พ.ต.ต.บรรพต เดชมา สว.ทล.4 กก.ทล.7 นครศรีธรรมราช กล่าวว่า พืชกระท่อมกำลังแพร่ระบาดอย่างหนักในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ส่วนใหญ่จะนำไปแปรรูปผลิตเป็นน้ำต้มพืชกระท่อมสูตร 4 คูณ 100 และเข้ามาหาซื้อใบพืชกระท่อมสดจากจังหวัดภาคใต้ตอนบน จะถูกลำเลียงส่งไปจำหน่ายในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
ซึ่งจำหน่ายในราคาแพงมาก โดยมีการจำหน่ายกันกิโลกรัมละ 800-1,000 บาท ทางผู้บังคับบัญชาจึงสั่งการให้ตำรวจทางหลวงเข้มงวดกวดขันในการปฏิบัติการ และตรวจจับบนเส้นทางหลวงในพื้นที่รับผิดชอบจนกระทั่งสามารถตรวจจับกุมสองผู้ต้องหาพร้อมของกลางจำนวนมากดังกล่าว
