หาม นร.โรงเรียนพิบูลฯภูเก็ตส่ง รพ.หลังดื่มนมแล้วปวดท้อง-อาเจียน

ศูนย์ข่าวภูเก็ต -หามนักเรียนโรงเรียนพิบูลสวัสดี ภูเก็ต 20 คน เข้ารักษาที่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต หลังดื่มดมแล้วมีอาการปวดท้อง คลื่นไส้-อาเจียน เบื้องต้นอาการปลอดภัย บางส่วนกลับบ้านได้

วันนี้ (18 มิ.ย.) ที่โรงเรียนพิบูลสวัสดี ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต เกิดเหตุเด็กนักเรียนชั้นป.5 โรงเรียนพิบูลสวัสดี ซึ่งเป็นโรงเรียนในสังกัดเทศบาลนครภูเก็ต ประมาณ 20 คน มีอาการแสบท้อง คลื่นไส้ อาเจียน อย่างรุนแรง หลังจากดื่มนม ซึ่งทางโรงเรียนมอบให้ นายยุทธนา อาสน์สุวรรณ หัวหน้าฝ่ายอนามัยโรงเรียนพิบูลสวัสดี และนายอภิรักษ์ อติพลอัครพันธุ์ อาจารย์ประจำชั้นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียน ได้นำนักเรียนทั้งชายและหญิง เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต

อาจารย์ประจำชั้น กล่าวภายหลังนำเด็กนักเรียนทั้งหมดส่งโรงพยาบาล ว่า หลังจากนำนมมาแจกให้กับนักเรียน คนละ 1 กล่อง เพื่อดื่มเหมือนกับทุกวันที่ผ่านมา หากเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-4 จะให้นมถุงพลาสเจอร์ไรส์ ซึ่งบริษัทนมจะนำมาส่งเช้า ส่วนนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5-6 จะรับเป็นนมกล่องซึ่งเป็นนม UHT

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5-6 กลุ่มหนึ่งได้ดื่มนมเข้าไป ก็มีอาการแสบท้อง คลื่นไส้ อาเจียน ซึ่งเป็นอาการที่ผิดปกติ และบางคนก็มีอาการหนัก จึงได้รีบนำนักเรียนดังกล่าวส่งเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลวชิระ ซึ่งขณะนี้นักเรียนทุกคนปลอดภัย

ส่วนสาเหตุที่ทำให้เด็กนักเรียนที่ดื่มนมเข้าไปแล้วมีอาการแสบท้อง คลื่นไส้ และอาเจียน ในเบื้องต้นทางหัวหน้าสำนักงานสาธารณสุขเทศบาลเมืองภูเก็ต ได้เข้าไปตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว พร้อมเก็บตัวอย่างนมและอาเจียนของนักเรียนไปทำการตรวจสอบ เพื่อหาสาเหตุว่า การที่นักเรียนปวดท้อง อาเจียน มีสาเหตุมาจากการดื่มนมหรือไม่อย่างไร

ขณะที่ นางสาวสมใจ สุวรณศุภพนา นายกเทศมนตรีนครภูเก็ต กล่าวว่า ได้รับรายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว และได้ไปเยี่ยมเด็กที่มีอาการดังกล่าวแล้ว มีนักเรียนเพียง 1 คน ส่วนที่เหลือกลับบ้านได้หมดแล้ว และจากการสอบถามทางโรงเรียนที่ ทราบว่า เด็กนักเรียนที่ดื่มนมกล่อง UHT ในวันนี้ (18 มิ.ย) มีจำนวน 216 คน ซึ่งในจำนวนดังกล่าวมีประมาณ 20% ที่ดื่มนมแล้วมีอาการท้องเสียและอาเจียน แต่ที่มีอาการค่อนข้างรุนแรงประมาณ 1 ใน 3 ของนักเรียนที่ท้องเสียและอาเจียน

ในเบื้องต้นได้เก็บตัวอย่างนมและอาเจียน เพื่อนำไปเพาะเชื้อ ส่งให้ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ภูเก็ตทำการตรวจสอบ ซึ่งต้องใช้เวลาประมาณ 24-72 ชั่วโมงจึงจะทราบผล

อย่างไรก็ตาม สำหรับนมกล่องที่มอบให้เด็กดื่ม เป็นนมที่ทางบริษัทนำมาส่งให้กับทางโรงเรียนตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงที่ปิดภาคเรียน และได้นำมาให้กับเด็กๆ ในช่วงเปิดเทอม และจากการตรวจสอบวันหมดอายุ พบว่านมดังกล่าวจะหมดอายุในเดือนพฤศจิกายน นี้ และอีกส่วนหนึ่งจะหมดอายุในช่วงต้นปีหน้า

ส่วนการแจกนมให้กับนักเรียน คงจะต้องหยุดแจกนมกล่องไปก่อน จนกว่าจะทราบผลการตรวจพิสูจน์