ผวจ.นราฯ ศึกษาผลกระทบการก่อสร้างสะพานเชื่อมไทย-มาเลย์ในตากใบ

นราธิวาส - ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ติดตามผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมก่อสร้างสะพานเชื่อมไทย-มาเลย์ ในพื้นที่ ตากใบ หวังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันระหว่าง 2 ประเทศ

วันนี้ (17 มิ.ย.) นายวินัย ครุวรรณพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส เป็นประธานเปิดการประชุมโครงการศึกษาความเหมาะสมทางด้านเศรษฐกิจ วิศวกรรม และผลกระทบสิ่งแวดล้อม โครงการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโก-ลก บริเวณ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส โดยการประชุมได้จัดขึ้น ณ ห้องประชุมโรงแรมอิมพีเรียล อ.เมือง จ.นราธิวาส

ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวเกิดขึ้นจากแนวความคิดของคณะกรรมการร่วม เพื่อจัดทำยุทธศาสตร์การพัฒนาพื้นที่ชายแดนไทย-มาเลเซีย (JDS) ที่เล็งเห็นว่าการพัฒนาโครงการสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโกลก อ.ตากใบ จ.นราธิวาส จะเชื่อมโยงให้การคมนาคมขนส่งระหว่าง 2 ประเทศมีความสะดวกรวดเร็วขึ้น ลดการค่าใช้จ่ายในการเดินทาง เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคใต้ และส่งผลให้ความร่วมมือในการพัฒนาเศรษฐกิจการค้า และการลงทุนทั้ง 2 ประเทศเจริญรุดหน้ายิ่งขึ้น จึงมอบหมายให้กรมทางหลวงกระทรวงคมนาคมรับผิดชอบในการศึกษาความเหมาะสมทางด้านเศรษฐกิจ วิศวกรรม และผลกระทบสิ่งแวดล้อม โครงการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโกลก อ.ตากใบ จ.นราธิวาส

ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า ปัจจุบันการเดินทางระหว่างประเทศไทย และมาเลเซีย บริเวณแม่น้ำโก-ลก อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ไม่ได้รับความสะดวกเท่าที่ควร เนื่องจากต้องใช้เรือเฟอรี่ และแพขนานยนต์ในการขนส่งคน และสินค้าซึ่งทำให้เกิดความล่าช้า มีข้อจำกัดหลายอย่าง ซึ่งในไม่ช้าสะพานข้ามแม่น้ำโกลก อ.ตากใบ จ.นราธิวาส แห่งใหม่น่าจะเป็นศูนย์กลางในการเชื่อมโยง การค้า การลงทุน ด้านเศรษฐกิจ ด้านการท่องเที่ยว และความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันระหว่าง 2 ประเทศ