ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ตำรวจภูธรสงขลาเร่งคลี่คลายคดีคนร้ายยิงถล่มทนายพร้อมลูกความดับ 2 ศพ ด้าน พ.ต.ท.ผู้ถูกกล่าวหาเดินทางมาพบพนักงานสอบสวนให้ปากคำแล้วพร้อมปฏิเสธข้อกล่าวหา ยืนยันขณะเกิดเหตุปฏิบัติหน้าที่ในการจับกุมยาเสพติด ซึ่งมีที่อยู่และพยานชัดเจน ส่วนคนเจ็บที่รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสงขลาพ้นขีดอันตรายแล้ว
ความคืบหน้ากรณีคนร้ายใช้อาวุธปืนสงครามยิงถล่มรถกระบะ อีซูซุ สี่ประตูสีบรอนซ์ หมายเลขทะเบียน กธ 5247 สงขลา ทำให้นายภูมิเดช ปทุมมาศ ทนายความ และ น.ส.ส่าฝีนะ กู้หลีจู้ ลูกความ เสียชีวิตคาที่ 2 ศพ และนายไตรเทพ มูเก็ม หรือ อ๊อด เมมเบอร์ ผู้ต้องหาคดีฆ่า ด.ต.พิเชษฐ ขาวแก้ว ตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติดสงขลา ซึ่งคาดว่าจะเป็นเป้าหมายในการก่อเหตุครั้งนี้ ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย และ น.ส.มาลี กู้หลีจู้ ได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 12 มิถุนายนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้ทำการสอบปากคำนายไตรเทพ มูเก็ม ผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ไปเมื่อคืนวันที่ 12 มิ.ย.โดยกล่าวหาคนยิงเป็นตำรวจยศ พ.ต.ท.คู่กรณีตามมาเก็บตนเอง แต่ทนายความกับลูกความสาวรับเคราะห์แทน
วันนี้ (13 มิ.ย.) ที่ห้องประชุม ศปก.สถานีตำรวจภูธรเมืองสงขลา พ.ต.อ.วีรสิทธิ์ เพชรคล้าย รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา พร้อมด้วย พ.ต.อ.พัชรพงศ์ พานิชประเสริฐ ผกก.สภ.เมืองสงขลา พ.ต.ท.สกุลเกียรติ นาขวัญ รอง ผกก.สส. ได้ทำการสอบปากคำนายตำรวจยศ พ.ต.ท.ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นคนยิงถล่มรถของนายภูมิเดช หลังจาก พ.ต.อ.พัชรพงศ์ ได้ติดต่อทางโทรศัพท์เพื่อให้ตำรวจที่ถูกกล่าวหามารับทราบข้อกล่าวหาและสอบปากคำ โดยตำรวจที่ถูกกล่าวหาได้ให้การปฏิเสธ ยืนยันขณะเกิดเหตุตนปฏิบัติหน้าที่ในการจับกุมยาเสพติด ซึ่งมีที่อยู่และพยานชัดเจน และขอไปให้การในชั้นศาล
หลังเสร็จสิ้นการประชุม พ.ต.อ.วีรสิทธิ์ เพชรคล้าย รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา กล่าวว่า ทางผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสงขลาได้สั่งการให้เข้ามาช่วยดูแลคดีนี้ร่วมกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสงขลา เนื่องจากมีความเชื่อมโยงกับคดีที่นายไตรเทพ มูเก็ม ผู้ต้องหาคดีฆ่า ด.ต.พิเชษฐ ขาวแก้ว ตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติดสงขลาที่ด่านนอกอำเภอสะเดา จึงต้องเข้ามาดูแลด้วยตนเอง
สำหรับในการสอบสวนในขณะนี้ยังไม่ฟันธงว่าเป้าหมายจะเป็นนายไตรเทพ โดยให้มีการตรวจสอบความสัมพันธ์ระหว่างทนายความ หญิงสาวทั้งสอง และนายไตรเทพ ว่าเกี่ยวพันกันอย่างไร และตรวจสอบว่าแต่ละคนมีปัญหาความขัดแย้งกับใครเรื่องอะไรบ้าง ไม่ได้มุ่งเน้นที่ตัวนายไตรเทพเพียงอย่างเดียว
ส่วนการที่นายไตรเทพ อ้างว่าเป็นฝีมือของเจ้าหน้าที่นั้น เป็นเรื่องที่สามารถพูดได้ตามสิทธิ์และความเข้าใจ เนื่องจากก่อนหน้านี้เคยมีปัญหากับเจ้าหน้าที่จนถึงขั้นลอบยิงกันมาแล้ว ซึ่งทางพนักงานสอบสวนก็จะรับฟัง แต่ในเรื่องของคดีก็ว่ากันไปตามพยานหลักฐาน ทั้งนี้คงจะต้องมีการประมวลหาสาเหตุความขัดแย้งของผู้เสียชีวิตทั้งสอง และตัวนายไตรเทพเองว่ามีความขัดแย้งกับคนกลุ่มใดบ้าง
ทางด้าน น.ส.มาลี กู้หลีจู้ ซึ่งได้รับบาดเจ็บสาหัสและอยู่ในการดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิดที่โรงพยาบาลสงขลา ล่าสุดเมื่อช่วงเที่ยงที่ผ่านมา แพทย์ได้นำตัวไปทำการเอกซเรย์ดูกระสุนที่ฝังในว่าถูกส่วนสำคัญของร่างกายจุดใดบ้างบริเวณลำตัว ส่วนบริเวณศีรษะเป็นเพียงรอยถากของกระสุนเท่านั้น สำหรับผลจากการเอกซเรย์พบว่ากระสุนหลายนัดที่ถูกยิงเข้าลำตัวไม่ถูกส่วนสำคัญของอวัยวะภายใน และแพทย์จะทำการผ่าเอาหัวกระสุนออกภายในสัปดาห์นี้
หลังจากที่ผู้บาดเจ็บพักฟื้นร่างกายจนพ้นขีดอันตรายสามารถกินอาหารอ่อนได้แล้ว ทางด้านพนักงานสอบสวนคงจะขออนุญาตจากแพทย์เจ้าของไข้ เพื่อทำการสอบปากคำ เนื่องจากต้องการให้ผู้ป่วยพักผ่อนได้เต็มที่
สำหรับศพของน.ส.ส่าฝีนะ กู้หลีจู้ น้องสาวของ น.ส.มาลี ทางพ่อแม่และญาติได้ประกอบพิธีฝังศพที่กุโบร์บ้านบางมวง ต. ฝาละมี อ.ปากพะยูน จังหวัดพัทลุงเมื่อเวลา 14.00 น. วันนี้(13 มิ.ย.) เรียบร้อยแล้ว ท่ามกลางเพื่อนร่วมงานและประชาชนไปร่วมงานอย่างคับคั่ง
ความคืบหน้ากรณีคนร้ายใช้อาวุธปืนสงครามยิงถล่มรถกระบะ อีซูซุ สี่ประตูสีบรอนซ์ หมายเลขทะเบียน กธ 5247 สงขลา ทำให้นายภูมิเดช ปทุมมาศ ทนายความ และ น.ส.ส่าฝีนะ กู้หลีจู้ ลูกความ เสียชีวิตคาที่ 2 ศพ และนายไตรเทพ มูเก็ม หรือ อ๊อด เมมเบอร์ ผู้ต้องหาคดีฆ่า ด.ต.พิเชษฐ ขาวแก้ว ตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติดสงขลา ซึ่งคาดว่าจะเป็นเป้าหมายในการก่อเหตุครั้งนี้ ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย และ น.ส.มาลี กู้หลีจู้ ได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 12 มิถุนายนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้ทำการสอบปากคำนายไตรเทพ มูเก็ม ผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ไปเมื่อคืนวันที่ 12 มิ.ย.โดยกล่าวหาคนยิงเป็นตำรวจยศ พ.ต.ท.คู่กรณีตามมาเก็บตนเอง แต่ทนายความกับลูกความสาวรับเคราะห์แทน
วันนี้ (13 มิ.ย.) ที่ห้องประชุม ศปก.สถานีตำรวจภูธรเมืองสงขลา พ.ต.อ.วีรสิทธิ์ เพชรคล้าย รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา พร้อมด้วย พ.ต.อ.พัชรพงศ์ พานิชประเสริฐ ผกก.สภ.เมืองสงขลา พ.ต.ท.สกุลเกียรติ นาขวัญ รอง ผกก.สส. ได้ทำการสอบปากคำนายตำรวจยศ พ.ต.ท.ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นคนยิงถล่มรถของนายภูมิเดช หลังจาก พ.ต.อ.พัชรพงศ์ ได้ติดต่อทางโทรศัพท์เพื่อให้ตำรวจที่ถูกกล่าวหามารับทราบข้อกล่าวหาและสอบปากคำ โดยตำรวจที่ถูกกล่าวหาได้ให้การปฏิเสธ ยืนยันขณะเกิดเหตุตนปฏิบัติหน้าที่ในการจับกุมยาเสพติด ซึ่งมีที่อยู่และพยานชัดเจน และขอไปให้การในชั้นศาล
หลังเสร็จสิ้นการประชุม พ.ต.อ.วีรสิทธิ์ เพชรคล้าย รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา กล่าวว่า ทางผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสงขลาได้สั่งการให้เข้ามาช่วยดูแลคดีนี้ร่วมกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสงขลา เนื่องจากมีความเชื่อมโยงกับคดีที่นายไตรเทพ มูเก็ม ผู้ต้องหาคดีฆ่า ด.ต.พิเชษฐ ขาวแก้ว ตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติดสงขลาที่ด่านนอกอำเภอสะเดา จึงต้องเข้ามาดูแลด้วยตนเอง
สำหรับในการสอบสวนในขณะนี้ยังไม่ฟันธงว่าเป้าหมายจะเป็นนายไตรเทพ โดยให้มีการตรวจสอบความสัมพันธ์ระหว่างทนายความ หญิงสาวทั้งสอง และนายไตรเทพ ว่าเกี่ยวพันกันอย่างไร และตรวจสอบว่าแต่ละคนมีปัญหาความขัดแย้งกับใครเรื่องอะไรบ้าง ไม่ได้มุ่งเน้นที่ตัวนายไตรเทพเพียงอย่างเดียว
ส่วนการที่นายไตรเทพ อ้างว่าเป็นฝีมือของเจ้าหน้าที่นั้น เป็นเรื่องที่สามารถพูดได้ตามสิทธิ์และความเข้าใจ เนื่องจากก่อนหน้านี้เคยมีปัญหากับเจ้าหน้าที่จนถึงขั้นลอบยิงกันมาแล้ว ซึ่งทางพนักงานสอบสวนก็จะรับฟัง แต่ในเรื่องของคดีก็ว่ากันไปตามพยานหลักฐาน ทั้งนี้คงจะต้องมีการประมวลหาสาเหตุความขัดแย้งของผู้เสียชีวิตทั้งสอง และตัวนายไตรเทพเองว่ามีความขัดแย้งกับคนกลุ่มใดบ้าง
ทางด้าน น.ส.มาลี กู้หลีจู้ ซึ่งได้รับบาดเจ็บสาหัสและอยู่ในการดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิดที่โรงพยาบาลสงขลา ล่าสุดเมื่อช่วงเที่ยงที่ผ่านมา แพทย์ได้นำตัวไปทำการเอกซเรย์ดูกระสุนที่ฝังในว่าถูกส่วนสำคัญของร่างกายจุดใดบ้างบริเวณลำตัว ส่วนบริเวณศีรษะเป็นเพียงรอยถากของกระสุนเท่านั้น สำหรับผลจากการเอกซเรย์พบว่ากระสุนหลายนัดที่ถูกยิงเข้าลำตัวไม่ถูกส่วนสำคัญของอวัยวะภายใน และแพทย์จะทำการผ่าเอาหัวกระสุนออกภายในสัปดาห์นี้
หลังจากที่ผู้บาดเจ็บพักฟื้นร่างกายจนพ้นขีดอันตรายสามารถกินอาหารอ่อนได้แล้ว ทางด้านพนักงานสอบสวนคงจะขออนุญาตจากแพทย์เจ้าของไข้ เพื่อทำการสอบปากคำ เนื่องจากต้องการให้ผู้ป่วยพักผ่อนได้เต็มที่
สำหรับศพของน.ส.ส่าฝีนะ กู้หลีจู้ น้องสาวของ น.ส.มาลี ทางพ่อแม่และญาติได้ประกอบพิธีฝังศพที่กุโบร์บ้านบางมวง ต. ฝาละมี อ.ปากพะยูน จังหวัดพัทลุงเมื่อเวลา 14.00 น. วันนี้(13 มิ.ย.) เรียบร้อยแล้ว ท่ามกลางเพื่อนร่วมงานและประชาชนไปร่วมงานอย่างคับคั่ง