เผาศพ “น้องแนน” นศ.มอ.เหยื่อทหารคลั่ง-ญาติยุติไม่ฟ้องร้อง

ศูนญ์ข่าวหาดใหญ่ – ญาตินำศพ “น้องแนน” นักศึกษา มอ.ที่ถูกทหารคลั่งยิงเสียชีวิต ทำพิธีเผาแล้ว หลังจากผู้บัญชาการกองพลพัฒนาที่ 4 ค่ายรัตนพล ไกล่เกลี่ยจนญาติยอมยุติการแห่ศพและการฟ้องร้อง เพื่อให้น้องแนนไปสู่สุคติ ท่ามกลางความเศร้าโศกของญาติๆ และเพื่อนๆ

เมื่อเวลา 15.00 น.วันนี้ (9 มิ.ย.) ที่วัดโคกเหรียง อ.คลองหอยโข่ง จ.สงขลา ได้มีพิธีฌาปนกิจศพของ น.ส.อัมราวดี มะหะหมัด อายุ 21 ปี หรือน้องแนน นักศึกษาชั้นปีที่ 3 คณะทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (ม.อ.) ที่ถูก พลทหาร ยุสรี สาแม อายุ 23 ปี ทหารประจำกองร้อยกองบังคับการกองพลพัฒนาที่ 4 ค่ายรัตนพล อ.คลองหอยโข่ง ซึ่งเกิดคลุ้มคลั่งใช้อาวุธปืน เอช.เค.กราดยิงเสียชีวิตที่หน้าค่ายรัตนพล เมื่อคืนวันที่ 4 มิถุนายน ที่ผ่านมา ขณะไปกดเงินที่ตู้เอทีเอ็มหน้าค่ายรัตนพล

ท่ามกลางความเศร้าโศกของญาติพี่น้อง รวมทั้งเพื่อนนักศึกษาร่วมคณะ และอาจารย์ที่เดินทางมาร่วมไว้อาลัยเป็นครั้งสุดท้าย โดยมี พล.ต.เบ็ญจรงค์ เจริญพร ผู้บัญชาการกองพลพัฒนาที่ 4 ค่ายรัตนพล พร้อมคณะทหารเดินทางมาร่วมในพิธีด้วย

อย่างไรก็ตาม ก่อนที่จะมีพิธีฌาปนกิจศพของ น้องแนน ในช่วงเที่ยงของวันเดียวกัน นางชมพู ขุนอินทร์ แม่ของน้องแนน รวมทั้งญาติๆ ได้เตรียมการที่จะแห่โลงศพไปประท้วงที่หน้าค่ายรัตนพล และจะทำแค่พิธีเผาหลอกโดยจะเก็บศพไว้ 100 วัน รวมทั้งยื่นเรื่องร้องเรียนไปยังมูลนิธิ ปวีณา หงสกุล เพื่อขอความเป็นธรรม เนื่องจากยังไม่สามารถหาข้อยุติในเรื่องของเงินเยียวยาที่เรียกร้องไปยังผู้บังคับบัญชากองพลพัฒนาที่ 4 ได้ ซึ่งญาติต้องการเงินเยียวยาอย่างน้อย 1 ล้านบาท แต่ทางกองพลพัฒนาที่ 4 เสนอให้แค่ 3 แสนบาทเท่านั้น

แต่หลังจากที่ พล.ต.เบ็ญจรงค์ เจริญพร ผู้บัญชาการกองพลพัฒนาที่ 4 ค่ายรัตนพล ได้เจรจากับ นางชมพู และญาติๆ อีกครั้งสถานการณ์ก็เริ่มคลี่คลาย โดยทางญาติยอมรับข้อเสนอของ พล.ต.เบ็ญจรงค์ ซึ่งจะจ่ายค่าเยียวยาให้ 3 แสนบาท รวมทั้งค่าบำเพ็ญกุศลศพตลอด 5 คืนอีก 25,000 บาท

ทั้งนี้ เงินทั้งหมดเป็นเงินที่ทหารกองพลพัฒนาที่ 4 ช่วยกันเรี่ยไรเพื่อช่วยเหลือครอบครัวของน้องแนน จากนั้นจึงมีการฌาปนกิจกิจศพน้องแนน โดยมีเพื่อนนักศึกษาช่วยกันหามโลงศพขึ้นเมรุท่ามกลางเสียงร้องไห้และน้ำตาของเพื่อนร่วมคณะ โดยเฉพาะ นางชมพู ผู้เป็นแม่นั่งมองร่างของลูกสาวด้วยน้ำตาที่ไหลพราก

นางชมพู กล่าวว่า แม้การเยียวยาจะเทียบไม่ได้กับความสูญเสียของลูกสาว ซึ่งน้องแนนเป็นคนโตในพี่น้อง 4 คน และกำลังจะเรียนจบในปีหน้า แต่ต้องการให้ลูกไปสู่สุคติไม่ต้องมีเรื่องกังวลใจใดๆ และทางญาติพี่น้องจะขอยุติเรื่องทั้งหมดเพียงแค่นี้จะไม่มีการฟ้องร้องใดๆ เพื่อให้ลูกสาวไปอย่างสบาย แม้ว่าความรู้สึกของตนจะรับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่หน้าค่ายรัตนพล เพราะขณะเกิดเหตุทหารซึ่งเฝ้าเวรยามอยู่หน้าค่าย ไม่มีใครคิดที่จะเข้าไปช่วยลูกสาว ทั้งที่มีปืน แต่ไม่คิดที่จะยิงผู้ก่อเหตุปล่อยให้เข้าไปยิงซ้ำจนลูกสาวเสียชีวิต