นราธิวาส - เกิดเหตุคนร้ายลอบวางระเบิด จนท.ทหารชุดลาดตระเวนเส้นทาง บริเวณถนนกลางทุ่งนาบ้านกาโด๊ะ หมู่ 4 ตำบลรือเสาะออก แรงระเบิดส่งผลให้ทหาร เสียชีวิต 1 นาย ได้รับบาดเจ็บ 8 นาย สิ้นเสียงระเบิดกลุ่มคนร้ายได้ใช้อาวุธปืนสงครามยิงถล่มซ้ำ จนทั้ง 2 ฝ่ายได้เปิดฉากยิงปะทะกันนาน 5 นาที จนกระทั่งกำลังเจ้าหน้าที่เข้าสนับสนุน กลุ่มคนร้ายจึงได้ล่าถอยไป
เมื่อเช้าที่ผ่านมา วันนี้ (8 มิ.ย.) ร.ต.ท.แดนชัย มูลป้อม ร้อยเวร สภ.รือเสาะ จังหวัดนราธิวาส รับแจ้งเหตุคนร้ายจุดชนวนระเบิดดักสังหารเจ้าหน้าที่ทหารชุดลาดตระเวน สังกัดร้อย ร.1114 หน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส 30 ได้รับบาดเจ็บหลายนาย เหตุเกิดบริเวณถนนกลางทุ่งนาบ้านกาโด๊ะ หมู่ 4 ตำบลรือเสาะออก อำเภอรือเสาะ จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผกก.สภ.รือเสาะ นายจำลอง ไกรดิษฐ์ นายอำเภอรือเสาะ พ.ต.ท.จันที แจ่มจันทร์ หน.กองวิยาการ จ.นราธิวาส และชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด นปพ.จ.นราธิวาส รวมทั้งกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครองจำนวนหนึ่งรุดเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
พบหลุมระเบิดกลางถนน ลึก 1.5 เมตร กว้าง 3 เมตร โดยมีสายไฟฟ้าสีฟ้าลากจากปากหลุมระเบิดไปยังป่ารกทึบ ประมาณ 300 เมตร และบริเวณริมถนนด้านขวาตรงข้ามหลุมระเบิด พบซากรถยนต์กระบะยี่ห้อมิตซูบิซิ แบบตอนเดียว สีน้ำเงิน ทะเบียน 4 ผ-7730 นราธิวาส สภาพหงายพังยับเยิน และมีเศษชิ้นส่วนของระเบิดแสวงเครื่องที่คนร้ายประกอบใส่ไว้ในถังดับเพลิง หนัก 20 กก. จุดชนวนด้วยแบตเตอรี่ ตกกระจายเกลื่อนพื้นถนน และบริเวณทุ่งนาในรัศมีกว้าง 30 เมตร เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน
ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บมีเพื่อนทหารได้นำตัวส่งรักษาโรงพยาบาลรือเสาะไปก่อนหน้าแล้ว จำนวน 9 นาย ซึ่งถูกสะเก็ดระเบิดตามบริเวณลำตัว ทราบชื่อต่อมาคือ 1.ส.อ.กิตติ วรรณชาติ เสียชีวิตที่โรงพยาบาล 2.ส.ท.มานิตย์ แก้วเสียง 3.พลฯ กาย บุญกาศ 4.พลฯ ไชยา ศรีสุรักษ์ 5.พลฯ อดิเรก ทองบุญเหลือง 6.พลฯ สิทธิพงศ์ นิกรพล ซึ่งสาหัสหนักที่สุดโดยถูกสะเก็ดที่บริเวณขาจนเกือบขาดทั้ง 2 ข้าง ส่วนที่เหลืออีก 3 นาย คือ ส.อ.อนุสรณ์ บุญปลอด หัวหน้าชุดและพลทหาร มีอาการเคล็ดขัดยอกตามร่างกาย รวมทั้งหูอื้อและแน่นหน้าอกจากแรงอัดของระเบิด
จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ ส.อ.อนุสรณ์ หัวหน้าชุด ได้ระดมกำลังทหาร รวม 14 นายออกจากฐานเพื่อลาดตระเวนตรวจสอบความเรียบร้อยเส้นทางให้กับชุด รปภ.ครู เมื่อถึงที่เกิดเหตุได้มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนแฝงตัวอยู่ในป่ารกทึบริมทางได้ใช้แบตเตอรี่จุดชนวนระเบิดแสวงเครื่องที่ประกอบใส่ไว้ในถังดับเพลิง หนัก 20 กก.ที่ลอบนำไปฝังไว้กลางถนน และได้เกิดระเบิดขึ้นขณะที่รถยนต์ทหารขับผ่าน จนรถยนต์กระบะที่แล่นอยู่บนถนนลอยขึ้นไปบนท้องฟ้าแล้วตกลงมาหงายท้อง แล้วกลุ่มคนร้ายได้ใช้อาวุธปืนสงครามยิงถล่มซ้ำใส่เจ้าหน้าที่ จนทั้ง 2 ฝ่ายได้เปิดฉากยิงปะทะกันนาน 5 นาที เมื่อเจ้าหน้าที่เข้าสนับสนุนกลุ่มคนร้ายจึงได้ล่าถอยไป
เมื่อเช้าที่ผ่านมา วันนี้ (8 มิ.ย.) ร.ต.ท.แดนชัย มูลป้อม ร้อยเวร สภ.รือเสาะ จังหวัดนราธิวาส รับแจ้งเหตุคนร้ายจุดชนวนระเบิดดักสังหารเจ้าหน้าที่ทหารชุดลาดตระเวน สังกัดร้อย ร.1114 หน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส 30 ได้รับบาดเจ็บหลายนาย เหตุเกิดบริเวณถนนกลางทุ่งนาบ้านกาโด๊ะ หมู่ 4 ตำบลรือเสาะออก อำเภอรือเสาะ จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผกก.สภ.รือเสาะ นายจำลอง ไกรดิษฐ์ นายอำเภอรือเสาะ พ.ต.ท.จันที แจ่มจันทร์ หน.กองวิยาการ จ.นราธิวาส และชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด นปพ.จ.นราธิวาส รวมทั้งกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครองจำนวนหนึ่งรุดเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
พบหลุมระเบิดกลางถนน ลึก 1.5 เมตร กว้าง 3 เมตร โดยมีสายไฟฟ้าสีฟ้าลากจากปากหลุมระเบิดไปยังป่ารกทึบ ประมาณ 300 เมตร และบริเวณริมถนนด้านขวาตรงข้ามหลุมระเบิด พบซากรถยนต์กระบะยี่ห้อมิตซูบิซิ แบบตอนเดียว สีน้ำเงิน ทะเบียน 4 ผ-7730 นราธิวาส สภาพหงายพังยับเยิน และมีเศษชิ้นส่วนของระเบิดแสวงเครื่องที่คนร้ายประกอบใส่ไว้ในถังดับเพลิง หนัก 20 กก. จุดชนวนด้วยแบตเตอรี่ ตกกระจายเกลื่อนพื้นถนน และบริเวณทุ่งนาในรัศมีกว้าง 30 เมตร เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน
ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บมีเพื่อนทหารได้นำตัวส่งรักษาโรงพยาบาลรือเสาะไปก่อนหน้าแล้ว จำนวน 9 นาย ซึ่งถูกสะเก็ดระเบิดตามบริเวณลำตัว ทราบชื่อต่อมาคือ 1.ส.อ.กิตติ วรรณชาติ เสียชีวิตที่โรงพยาบาล 2.ส.ท.มานิตย์ แก้วเสียง 3.พลฯ กาย บุญกาศ 4.พลฯ ไชยา ศรีสุรักษ์ 5.พลฯ อดิเรก ทองบุญเหลือง 6.พลฯ สิทธิพงศ์ นิกรพล ซึ่งสาหัสหนักที่สุดโดยถูกสะเก็ดที่บริเวณขาจนเกือบขาดทั้ง 2 ข้าง ส่วนที่เหลืออีก 3 นาย คือ ส.อ.อนุสรณ์ บุญปลอด หัวหน้าชุดและพลทหาร มีอาการเคล็ดขัดยอกตามร่างกาย รวมทั้งหูอื้อและแน่นหน้าอกจากแรงอัดของระเบิด
จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ ส.อ.อนุสรณ์ หัวหน้าชุด ได้ระดมกำลังทหาร รวม 14 นายออกจากฐานเพื่อลาดตระเวนตรวจสอบความเรียบร้อยเส้นทางให้กับชุด รปภ.ครู เมื่อถึงที่เกิดเหตุได้มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนแฝงตัวอยู่ในป่ารกทึบริมทางได้ใช้แบตเตอรี่จุดชนวนระเบิดแสวงเครื่องที่ประกอบใส่ไว้ในถังดับเพลิง หนัก 20 กก.ที่ลอบนำไปฝังไว้กลางถนน และได้เกิดระเบิดขึ้นขณะที่รถยนต์ทหารขับผ่าน จนรถยนต์กระบะที่แล่นอยู่บนถนนลอยขึ้นไปบนท้องฟ้าแล้วตกลงมาหงายท้อง แล้วกลุ่มคนร้ายได้ใช้อาวุธปืนสงครามยิงถล่มซ้ำใส่เจ้าหน้าที่ จนทั้ง 2 ฝ่ายได้เปิดฉากยิงปะทะกันนาน 5 นาที เมื่อเจ้าหน้าที่เข้าสนับสนุนกลุ่มคนร้ายจึงได้ล่าถอยไป
