พัทลุง-ตำรวจทำคดีหมีควายฆ่าคนยังไม่คืบ ขณะชาวบ้านระบุหมีหลุดออกมาจากฟาร์มโคเนื้อของนักธุรกิจรายหนึ่งในพื้นที่ เนื่องจากผ่าพิสูจน์ในกระเพาะอาหาร พบอาหารที่มีอยู่ในหมู่บ้าน และน่าจะเป็น 1 ใน 2 ตัวที่หลุดมาและยังมีชีวิตหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ยังมีกระแสข่าวลือแพร่สะพัดพบรอยสัตว์ใหญ่ป่วนเปี้ยนในพื้นที่ ด้านจังหวัดจัดมอบเงินเป็นค่าเยียวยาให้กับครอบครัวผู้สูญเสียจำนวน 4 หมื่นบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดพัทลุงว่า หลังจากที่ได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่ศูนย์เพาะเลี้ยงสัตว์ป่าเขาบรรทัดว่า หมีควายที่กัดนายน้อม เสียชีวิตนั้น เป็นหมีเลี้ยงแน่นอน เนื่องจากผ่าพิสูจน์ในกระเพาะอาหารก็พบอาหารที่มีอยู่ในหมู่บ้าน และจากการพิสูจน์ส่วนอื่นๆก็ยืนยันว่าเป็นหมีเลี้ยง
ด้านนายวิญญู ทองสกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุงได้สั่งการให้นายปิติเลิศ สุวรรณเกศา นายอำเภอควนขนุน จ.พัทลุง เร่งสืบสวนหาตัวเจ้าของหมีมาลงโทษทางอาญาและให้ดำเนินคดีทางแพ่งด้วย ส่วนผู้เสียชีวิตก็ได้สั่งให้สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดพัทลุง ได้จัดมอบเงินเป็นค่าเยี่ยวยาให้กับครอบครัวจำนวน 4 หมื่นบาท
ทางด้าน พ.ต.ท.มานะ ทิพย์มณี สารวัตรเวรเจ้าของคดี กล่าวว่า ทางพนักงานสอบสวนยังไม่ได้รับไว้เป็นคดี เพียงแต่บุตรสาวของผู้ตายมาแจ้งไว้ว่านายน้อมเสียชีวิตผิดปกติเท่านั้น สำหรับหมีที่ถูกยิงตายจะเป็นหมีป่า หรือหมีที่ชาวบ้านแอบเลี้ยงไว้ ทางตำรวจยังไม่ได้รับแจ้งอย่างเป็นทางการจากเจ้าหน้าที่ศูนย์เพาะเลี้ยงสัตว์ป่า ซึ่งจำเป็นจะต้องรอเนื่องจากเป็นหลักฐานที่สำคัญ
ส่วนการสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่ อำเภอได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า สงสัยหมีควายตัวดังกล่าวจะหลุดกรงมาจากฟาร์มโคเนื้อแห่งหนึ่งในเขตเทศบาลตำบลมะกอเหนือ โดยก่อนหน้านี้เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมาชาวบ้านใกล้ฟาร์มดังกล่าวได้ยิงตายไป หนึ่งตัวหลังหลุดออกมาเดินอยู่ในหมู่บ้าน ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่นำหมายเข้าไปตรวจสอบที่ฟาร์มปศุสัตว์ของนักธุรกิจดังกล่าว เนื่องจากต้องรวบรวมหลักฐาน และข้อสรุปของเจ้าหน้าที่เพาะพันธ์สัตว์ป่าพัทลุง
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า แม้ว่าหมีควายที่กัดชาวบ้านจะถูกยิงตายไปแล้ว แต่ก็ยังมีข่าวลือแพร่สะพัดไปทั้งตำบลพนางตุง อ.ควนขนุนและตำบลชัยบุรี อ.เมืองพัทลุง ว่าชาวบ้านที่ออกไปหาปลาบริเวณป่าพรุบ้านท่าสำเภาเหนือ พบร่องรอยสัตว์ตัวขนาดใหญ่ ใช้เล็บปอกเปลือกไม้อยู่ในป่าพรุ ใหม่ ทำให้ชาวบ้านจำนวนมากหวั่นกลัวว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัย โดยเฉพาะนายประจวบ ราษฏรบ้านท่าช้าง หมู่ที่ 5 ต.พนางตุง อ.ควนขนุน เจ้าของต้นยางญวนผึ้งกลางหมู่บ้าน ซึ่งขณะนี้ก็มีผึ้งหลวงบินมาทำรังแล้วจำนวน 12 รัง ก็เกรงว่าหมีควายจะทำลายรังผึ้ง จึงได้เฝ้าระวังอยู่ตลอดเวลา
ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดพัทลุงว่า หลังจากที่ได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่ศูนย์เพาะเลี้ยงสัตว์ป่าเขาบรรทัดว่า หมีควายที่กัดนายน้อม เสียชีวิตนั้น เป็นหมีเลี้ยงแน่นอน เนื่องจากผ่าพิสูจน์ในกระเพาะอาหารก็พบอาหารที่มีอยู่ในหมู่บ้าน และจากการพิสูจน์ส่วนอื่นๆก็ยืนยันว่าเป็นหมีเลี้ยง
ด้านนายวิญญู ทองสกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุงได้สั่งการให้นายปิติเลิศ สุวรรณเกศา นายอำเภอควนขนุน จ.พัทลุง เร่งสืบสวนหาตัวเจ้าของหมีมาลงโทษทางอาญาและให้ดำเนินคดีทางแพ่งด้วย ส่วนผู้เสียชีวิตก็ได้สั่งให้สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดพัทลุง ได้จัดมอบเงินเป็นค่าเยี่ยวยาให้กับครอบครัวจำนวน 4 หมื่นบาท
ทางด้าน พ.ต.ท.มานะ ทิพย์มณี สารวัตรเวรเจ้าของคดี กล่าวว่า ทางพนักงานสอบสวนยังไม่ได้รับไว้เป็นคดี เพียงแต่บุตรสาวของผู้ตายมาแจ้งไว้ว่านายน้อมเสียชีวิตผิดปกติเท่านั้น สำหรับหมีที่ถูกยิงตายจะเป็นหมีป่า หรือหมีที่ชาวบ้านแอบเลี้ยงไว้ ทางตำรวจยังไม่ได้รับแจ้งอย่างเป็นทางการจากเจ้าหน้าที่ศูนย์เพาะเลี้ยงสัตว์ป่า ซึ่งจำเป็นจะต้องรอเนื่องจากเป็นหลักฐานที่สำคัญ
ส่วนการสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่ อำเภอได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า สงสัยหมีควายตัวดังกล่าวจะหลุดกรงมาจากฟาร์มโคเนื้อแห่งหนึ่งในเขตเทศบาลตำบลมะกอเหนือ โดยก่อนหน้านี้เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมาชาวบ้านใกล้ฟาร์มดังกล่าวได้ยิงตายไป หนึ่งตัวหลังหลุดออกมาเดินอยู่ในหมู่บ้าน ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่นำหมายเข้าไปตรวจสอบที่ฟาร์มปศุสัตว์ของนักธุรกิจดังกล่าว เนื่องจากต้องรวบรวมหลักฐาน และข้อสรุปของเจ้าหน้าที่เพาะพันธ์สัตว์ป่าพัทลุง
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า แม้ว่าหมีควายที่กัดชาวบ้านจะถูกยิงตายไปแล้ว แต่ก็ยังมีข่าวลือแพร่สะพัดไปทั้งตำบลพนางตุง อ.ควนขนุนและตำบลชัยบุรี อ.เมืองพัทลุง ว่าชาวบ้านที่ออกไปหาปลาบริเวณป่าพรุบ้านท่าสำเภาเหนือ พบร่องรอยสัตว์ตัวขนาดใหญ่ ใช้เล็บปอกเปลือกไม้อยู่ในป่าพรุ ใหม่ ทำให้ชาวบ้านจำนวนมากหวั่นกลัวว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัย โดยเฉพาะนายประจวบ ราษฏรบ้านท่าช้าง หมู่ที่ 5 ต.พนางตุง อ.ควนขนุน เจ้าของต้นยางญวนผึ้งกลางหมู่บ้าน ซึ่งขณะนี้ก็มีผึ้งหลวงบินมาทำรังแล้วจำนวน 12 รัง ก็เกรงว่าหมีควายจะทำลายรังผึ้ง จึงได้เฝ้าระวังอยู่ตลอดเวลา