กระบี่ - สำนักงานสาธารณสุข จังหวัดกระบี่ ยังมึนสาเหตุ 2 นักท่องเที่ยวตายปริศนาบนเกาะพีพี จัดทีมลงเกาะสุ่มตรวจตัวอย่างอาหาร แต่ไม่พบสิ่งผิดปกติ รอผลพิสูจน์จากสถาบันนิติเวช และสำนักระบาดวิทยา คาดรู้ผลเร็วๆ นี้
จากกรณีนักท่องเที่ยวเสียชีวิต 2 ราย ที่เกาะพีพี คือ น.ส.จิลล์ เซนต์ ออนจี อายุ 27 ปี ชาวอเมริกา และอีกราย ชื่อ น.ส.จูเลีย มิเชลล์ เบิร์กไฮม์ อายุ 22 ปี ชาวนอร์เวย์ เหตุเกิดระหว่างวันที่ 3-4 พ.ค.52 ที่ผ่านมา
ความคืบหน้าเรื่องนี้ นายแพทย์บัญชา ค้าของ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า อาการของนักท่องเที่ยวทั้ง 2 คนที่เสียชีวิตนั้น มีอาการท้องร่วงรุนแรงจนทำให้ขาดน้ำ และเกลือแร่อย่างรุนแรงจนถึงแก่ชีวิต หลังได้รับรายงานได้นำทีมเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดกระบี่ ตรวจสอบข้อมูลย้อนหลังบนเกาะพีพี ตั้งแต่ช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา เพื่อตรวจสอบดูว่า มีผู้ป่วยรายใดมีอาการในลักษณะเดียวกันหรือไม่ ผลปรากฏว่าไม่พบแม้แต่รายเดียว
จากข้อมูลที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ตให้เพิ่มเติมว่า มีผู้ป่วยที่รอดชีวิตอีก 1 รายนั้น ทราบชื่อคือ น.ส.คารีน่า พบว่าได้ไปดื่มค็อกเทลที่บาร์เบียร์แห่งหนึ่งบนเกาะพีพี หรือค็อกเทลบัดเจด แต่เท่าที่ตรวจสอบอาหาร และเครื่องดื่มที่ร้านดังกล่าว ปรากฏว่าไม่มีอาหารในลักษณะเข้าข่ายต้องสงสัย ทั้งเหล้า เบียร์ หรืออื่นๆ ก็เป็นผลิตภัณฑ์ที่บรรจุสำเร็จรูป มีขายอยู่ในท้องตลาดทั่วไป ไม่ได้ผสมเอง รวมทั้งน้ำแข็งได้มาตรฐานสาธารณสุข
นอกจากนั้นยังได้ไปดูร้านจำหน่ายเครื่องดื่มอีก 2-3 ร้านบนเกาะพีพี ก็ไม่พบว่ามีอาหารหรือเครื่องดื่มที่เข้าข่ายต้องสงสัย ซึ่งข้อแตกต่างคือ ผู้เสียชีวิตทั้ง 2 รายเกิดอาการคนละเวลา และทั้ง 2 คน ไม่ได้กินอาหารที่ซ้ำกัน ซึ่งรายที่เป็นชาวอเมริกันก็ไม่มีประวัติการดื่มค็อกเทล เพียงแต่พักโรงแรมเดียวกันเท่านั้น
ส่วนกรณีที่มีการสันนิษฐานว่าอาหารเป็นพิษ โดยหลักการแล้วผู้ป่วยจะต้องมีอาการท้องร่วงด้วย แต่ผู้ป่วยทั้ง 2 ไม่มีอาการดังกล่าวเพียงแต่อาเจียน คาดว่าผู้ป่วยอาจได้รับสารอะไรบางอย่างเข้าสูร่างกาย แต่โดยทางใดนั้นยังไม่สามารถระบุได้ ทั้งนี้ สำนักงานสาธารณสุขมีข้อจำกัดอยู่ว่า ผู้ป่วยที่รอดชีวิตเดินทางออกจากพื้นที่ไปแล้ว
อย่างไรก็ตาม ได้เก็บตัวอย่างเลือด และน้ำจากกระเพาะอาหารที่พบในที่พักส่งไปยังสำนักระบาดวิทยา เพื่อค้นหาสาเหตุของการเสียชีวิต อย่างไรก็ตาม ทราบว่าศพทั้ง 2 คนยังอยู่ที่สถาบันนิติเวชวิทยา ซึ่งเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องติดตามผลต่อไป
จากกรณีนักท่องเที่ยวเสียชีวิต 2 ราย ที่เกาะพีพี คือ น.ส.จิลล์ เซนต์ ออนจี อายุ 27 ปี ชาวอเมริกา และอีกราย ชื่อ น.ส.จูเลีย มิเชลล์ เบิร์กไฮม์ อายุ 22 ปี ชาวนอร์เวย์ เหตุเกิดระหว่างวันที่ 3-4 พ.ค.52 ที่ผ่านมา
ความคืบหน้าเรื่องนี้ นายแพทย์บัญชา ค้าของ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า อาการของนักท่องเที่ยวทั้ง 2 คนที่เสียชีวิตนั้น มีอาการท้องร่วงรุนแรงจนทำให้ขาดน้ำ และเกลือแร่อย่างรุนแรงจนถึงแก่ชีวิต หลังได้รับรายงานได้นำทีมเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดกระบี่ ตรวจสอบข้อมูลย้อนหลังบนเกาะพีพี ตั้งแต่ช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา เพื่อตรวจสอบดูว่า มีผู้ป่วยรายใดมีอาการในลักษณะเดียวกันหรือไม่ ผลปรากฏว่าไม่พบแม้แต่รายเดียว
จากข้อมูลที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ตให้เพิ่มเติมว่า มีผู้ป่วยที่รอดชีวิตอีก 1 รายนั้น ทราบชื่อคือ น.ส.คารีน่า พบว่าได้ไปดื่มค็อกเทลที่บาร์เบียร์แห่งหนึ่งบนเกาะพีพี หรือค็อกเทลบัดเจด แต่เท่าที่ตรวจสอบอาหาร และเครื่องดื่มที่ร้านดังกล่าว ปรากฏว่าไม่มีอาหารในลักษณะเข้าข่ายต้องสงสัย ทั้งเหล้า เบียร์ หรืออื่นๆ ก็เป็นผลิตภัณฑ์ที่บรรจุสำเร็จรูป มีขายอยู่ในท้องตลาดทั่วไป ไม่ได้ผสมเอง รวมทั้งน้ำแข็งได้มาตรฐานสาธารณสุข
นอกจากนั้นยังได้ไปดูร้านจำหน่ายเครื่องดื่มอีก 2-3 ร้านบนเกาะพีพี ก็ไม่พบว่ามีอาหารหรือเครื่องดื่มที่เข้าข่ายต้องสงสัย ซึ่งข้อแตกต่างคือ ผู้เสียชีวิตทั้ง 2 รายเกิดอาการคนละเวลา และทั้ง 2 คน ไม่ได้กินอาหารที่ซ้ำกัน ซึ่งรายที่เป็นชาวอเมริกันก็ไม่มีประวัติการดื่มค็อกเทล เพียงแต่พักโรงแรมเดียวกันเท่านั้น
ส่วนกรณีที่มีการสันนิษฐานว่าอาหารเป็นพิษ โดยหลักการแล้วผู้ป่วยจะต้องมีอาการท้องร่วงด้วย แต่ผู้ป่วยทั้ง 2 ไม่มีอาการดังกล่าวเพียงแต่อาเจียน คาดว่าผู้ป่วยอาจได้รับสารอะไรบางอย่างเข้าสูร่างกาย แต่โดยทางใดนั้นยังไม่สามารถระบุได้ ทั้งนี้ สำนักงานสาธารณสุขมีข้อจำกัดอยู่ว่า ผู้ป่วยที่รอดชีวิตเดินทางออกจากพื้นที่ไปแล้ว
อย่างไรก็ตาม ได้เก็บตัวอย่างเลือด และน้ำจากกระเพาะอาหารที่พบในที่พักส่งไปยังสำนักระบาดวิทยา เพื่อค้นหาสาเหตุของการเสียชีวิต อย่างไรก็ตาม ทราบว่าศพทั้ง 2 คนยังอยู่ที่สถาบันนิติเวชวิทยา ซึ่งเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องติดตามผลต่อไป