ระนอง - กำลังทหารหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 25 รวบขบวนการค้าแรงงานเถื่อน ใช้เรือหางยาววิ่งเรืออ้อมจุดตรวจ แต่ไปไม่รอด ใช้เรือเร็วไล่ตามจับได้ทั้งลำ กลางทะเลอันดามัน ฝั่งจังหวัดระนอง สอบสวนเบื้องต้นรับสารภาพนายหน้าชาวพม่าสั่งให้ส่งนายหน้าชาวไทย ไปทำงานลูกเรือประมง-สวนยางพารา ที่จังหวัดชุมพร และสุราษฎร์ธานี
วันนี้ (13 พ.ค.) เมื่อเวลา 11.30 น.ขณะที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 25 ประจำจุดตรวจเกาะสาระนีย์ หมู่ 2 ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.ระนอง กำลังปฏิบัติหน้าที่ตรวจสอบชาวพม่า ที่ใช้เรือหางยาวโดยสารเดินทางเข้า-ออก ระหว่างจังหวัดเกาะสอง ประเทศพม่า กับจังหวัดระนอง สังเกตเห็นเรือหางยาว บรรทุกชาวพม่าเต็มลำ วิ่งมาทางด้านทิศตะวันตกของเกาะหม้อ ม.2 ต.ปากน้ำ มุ่งหน้าเข้าบ้านปากคลอง
โดยไม่ผ่านจุดตรวจของทหาร จ.ส.อ.สุรศาสน์ บัวเพชร รองหัวหน้าชุดประจำจุดตรวจ จึงได้นำกำลังทหารลงเรือเร็วไปสกัด เพื่อตรวจสอบ พบชาวพม่า จำนวน 13 คน เป็นชาย 8 คน ผู้หญิง 5 คนทั้งหมดไม่มีหนังเสือเดินทางเข้าเมือง จึงควบคุมตัวพร้อม สัมภาระ ส่ง ร.ต.อ.ฉัตรชัย หะยีมามะ รองสารวัตรด่านตรวจคนเข้ามาเมืองระนอง ทำการสอบสวน ที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองระนอง
สอบสวน นายทอน ชาวพม่า อายุ 24 ปี คนขับเรือ กล่าวว่า รับจ้างนายหน้าชาวพม่าที่อยู่จังหวัดเกาะสอง ให้ขับเรือนำชาวพม่าทั้งหมด ไปส่งขึ้นฝั่งที่ย่านสะพานปลาระนอง จากนั้นจะมีนายหน้าชาวไทยมารับเอง ซึ่งนายหน้าชาวพม่าคนดังกล่าว บอกว่า ได้เคลียร์เส้นทางกับเจ้าหน้าที่แล้ว ให้ขับอ้อมด่านตรวจของทหารบนเกาะสะระนีย์ได้เลย ได้ค่าจ้าง 1,000 บาท ส่วนเรือหางยาวนายหน้าชาวพม่าเป็นผู้จัดหามาให้
ด้านชาวพม่า กล่าวว่า พวกตนเดินทางมาจากจังหวัดเมาะละเหม่ง เพื่อเดินทางไปยังอำเภอหลังสวนจังหวัดชุมพร และจังหวัดสุราษฎร์ธานี ไปเป็นลูกเรือประมง แม่บ้าน และรับจ้างกรีดยาง หากไปหลังสวนเสียค่าใช้จ่ายคนละ 4,000 บาท ไปจังหวัดสุราษฎร์คนละ 12,000 บาท ส่วนใหญ่เคยไปทำงานมาแล้ว แต่กลับไปบ้านช่วงวันวิสาขบูชา และกำลังจะเดินทางไปทำงานใหม่อีกครั้ง
เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหา “เป็นบุคคลต่างด้าวเดินทางเข้ามาราชอาราจักโดยไม่รับอนุญาต” ส่วนคนขับเรือแจ้งข้อหา “เป็นบุคคลต่างด้าวเดินทางเข้ามาราชอาณาจักรโดยไม่รับอนุญาต และนำพาช่วยเหลือ ซ่อนเร้นด้วยประการใดๆ เพื่อให้พ้นจากการจับกุม” ส่งร้อยเวร สภ.ปากน้ำระนอง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
วันนี้ (13 พ.ค.) เมื่อเวลา 11.30 น.ขณะที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 25 ประจำจุดตรวจเกาะสาระนีย์ หมู่ 2 ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.ระนอง กำลังปฏิบัติหน้าที่ตรวจสอบชาวพม่า ที่ใช้เรือหางยาวโดยสารเดินทางเข้า-ออก ระหว่างจังหวัดเกาะสอง ประเทศพม่า กับจังหวัดระนอง สังเกตเห็นเรือหางยาว บรรทุกชาวพม่าเต็มลำ วิ่งมาทางด้านทิศตะวันตกของเกาะหม้อ ม.2 ต.ปากน้ำ มุ่งหน้าเข้าบ้านปากคลอง
โดยไม่ผ่านจุดตรวจของทหาร จ.ส.อ.สุรศาสน์ บัวเพชร รองหัวหน้าชุดประจำจุดตรวจ จึงได้นำกำลังทหารลงเรือเร็วไปสกัด เพื่อตรวจสอบ พบชาวพม่า จำนวน 13 คน เป็นชาย 8 คน ผู้หญิง 5 คนทั้งหมดไม่มีหนังเสือเดินทางเข้าเมือง จึงควบคุมตัวพร้อม สัมภาระ ส่ง ร.ต.อ.ฉัตรชัย หะยีมามะ รองสารวัตรด่านตรวจคนเข้ามาเมืองระนอง ทำการสอบสวน ที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองระนอง
สอบสวน นายทอน ชาวพม่า อายุ 24 ปี คนขับเรือ กล่าวว่า รับจ้างนายหน้าชาวพม่าที่อยู่จังหวัดเกาะสอง ให้ขับเรือนำชาวพม่าทั้งหมด ไปส่งขึ้นฝั่งที่ย่านสะพานปลาระนอง จากนั้นจะมีนายหน้าชาวไทยมารับเอง ซึ่งนายหน้าชาวพม่าคนดังกล่าว บอกว่า ได้เคลียร์เส้นทางกับเจ้าหน้าที่แล้ว ให้ขับอ้อมด่านตรวจของทหารบนเกาะสะระนีย์ได้เลย ได้ค่าจ้าง 1,000 บาท ส่วนเรือหางยาวนายหน้าชาวพม่าเป็นผู้จัดหามาให้
ด้านชาวพม่า กล่าวว่า พวกตนเดินทางมาจากจังหวัดเมาะละเหม่ง เพื่อเดินทางไปยังอำเภอหลังสวนจังหวัดชุมพร และจังหวัดสุราษฎร์ธานี ไปเป็นลูกเรือประมง แม่บ้าน และรับจ้างกรีดยาง หากไปหลังสวนเสียค่าใช้จ่ายคนละ 4,000 บาท ไปจังหวัดสุราษฎร์คนละ 12,000 บาท ส่วนใหญ่เคยไปทำงานมาแล้ว แต่กลับไปบ้านช่วงวันวิสาขบูชา และกำลังจะเดินทางไปทำงานใหม่อีกครั้ง
เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหา “เป็นบุคคลต่างด้าวเดินทางเข้ามาราชอาราจักโดยไม่รับอนุญาต” ส่วนคนขับเรือแจ้งข้อหา “เป็นบุคคลต่างด้าวเดินทางเข้ามาราชอาณาจักรโดยไม่รับอนุญาต และนำพาช่วยเหลือ ซ่อนเร้นด้วยประการใดๆ เพื่อให้พ้นจากการจับกุม” ส่งร้อยเวร สภ.ปากน้ำระนอง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
