ศูนย์ข่าวภูเก็ต-นายกอบจ.ภูเก็ตเผยยอดเก็บค่าธรรมเนียมห้องพักโรงแรม 6 เดือนทำได้แล้วกว่า 40 ล้านบาท ระบุวิกฤตเศรษฐกิจส่งผลยอดเก็บลด 20% แต่เชื่อไม่ส่งผลกระทบในระยะยาวโดยเฉพาะหลังประชุมสุดยอดอาเซียนที่ภูเก็ต จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเพิ่มมากขึ้นแน่นอน ทั้งปีตั้งเป้าเก็บค่าธรรมเนียมห้องพัก 70 ล้าน เตรียมแก้กฎหมายจากเก็บค่าธรรมเนียมเป็นเก็บภาษีเชื่อทำให้สามารถเก็บได้ครบ 100% ทำรายได้เพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว
นายไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงการจัดเก็บค่าธรรมเนียมห้องพักโรงแรมในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตว่า ในช่วงที่เกิดวิกฤติเศรษฐกิจและเหตุการณ์ความไม่สงบทางการเมือง ส่งผลให้ยอดรายได้จากการจัดเก็บค่าธรรมเนียมห้องพักลดลง 20 % แต่อย่างไรก็ตามมั่นใจว่า หลังจากที่มีการประชุมสุดยอดอาเซียนที่จังหวัดภูเก็ต จะส่งผลดีต่อการท่องเที่ยวของภูเก็ตแน่นอน
สิ่งที่จะตามมาหลังจากการประชุมคือจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น ซึ่งจะทำให้รายได้จากการจัดเก็บค่าธรรมเนียมห้องพักกลับมาเพิ่มขึ้นเหมือนเดิม
ในปีนี้ทั้งปีทางอบจ.ภูเก็ตได้ตั้งเป้าการจัดเก็บค่าธรรมเนียมห้องพักไว้ที่ 70 ล้าน และในช่วง 6 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2552 สามารถจัดเก็บได้แล้วจำนวนกว่า 40 ล้านบาท เชื่อว่าจะสามารถจัดเก็บค่าธรรมเนียมได้ตามเป้าที่วางไว้แน่นอน
“ปัจจุบันยังมีโรงแรมอีกหลายแห่งที่ยังไม่ยอมจ่ายค่าธรรมเนียมห้องพักให้กับทางอบจ. ซึ่งทางอบจ.ได้มีการพูดคุยกับภาคโรงแรมในพื้นที่เพื่อให้ผู้ประกอบการจ่ายค่าธรรมเนียมซึ่งรายได้ที่ได้จากการจัดเก็บนั้นนำไปใช้ในเรื่องของการส่งเสริมการท่องเที่ยว ซึ่งหลังจากนี้ในการไปร่วมงานส่งเสริมการท่องเที่ยว อบจ.จะให้สิทธิพิเศษกับผู้ที่จ่ายค่าธรรมเนียมห้องพักให้กับทางอบจ. รวมทั้งเรื่องของการจองห้องพักทางอินเตอร์เน็ต ในช่องทางบริการที่ทางอบจ.จัดทำขึ้น
นอกจากนั้นทางอบจ.ยังได้ทำโครงการร่วมกับทางท่าอากาศยานภูเก็ตในการจัดเคาเตอร์พิเศษให้บริการข้อมูลของโรงแรม ที่จ่ายค่าธรรมเนียมให้กับนักท่องเที่ยวที่มาติดต่อสอบถามที่พัก”นายไพบูลย์ กล่าวและว่า
ทั้งนี้ เพื่อให้การจัดเก็บค่าธรรมเนียมห้องพักทำได้ 100% อบจ.กำลังขอแก้กฎหมายจากการเก็บค่าธรรมเนียมอบจ.เป็นการจัดเก็บภาษีค่าห้องพักแทน ซึ่งถ้าหากเปลี่ยนได้จะทำให้สามารถจัดเก็บค่าธรรมเนียมห้องพักได้ 100% เพราะเมื่อเปลี่ยนเป็นค่าภาษีแล้วทุกโรงแรมจะต้องจ่ายภาษีตามที่กฎหมายใหม่กำหนด ซึ่งจะทำให้การจัดเก็บรายได้กล่าวเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวแน่นอน
แม้ว่าจะมีวิกฤติเศรษฐกิจเกิดขึ้น แต่เรื่องของขั้นตอนการแก้กฎหมายนั้นจะต้องใช้ระยะเวลา ทางอบจ.จึงได้ทำโครงการต่างๆขึ้นมาเพื่อสร้างแรกจูงใจให้กับผู้ที่ไม่จ่ายค่าธรรมเนียมหันมาจ่ายค่าธรรมเนียมให้กับทางอบจ. โดยจะให้สิทธิพิเศษกับผู้ที่จ่ายธรรมในหลายๆเรื่องและได้รับการบริการมากขึ้น ซึ่งเป็นผลประโยชน์ของผู้ประกอบการทั้งสิ้น
นายไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงการจัดเก็บค่าธรรมเนียมห้องพักโรงแรมในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตว่า ในช่วงที่เกิดวิกฤติเศรษฐกิจและเหตุการณ์ความไม่สงบทางการเมือง ส่งผลให้ยอดรายได้จากการจัดเก็บค่าธรรมเนียมห้องพักลดลง 20 % แต่อย่างไรก็ตามมั่นใจว่า หลังจากที่มีการประชุมสุดยอดอาเซียนที่จังหวัดภูเก็ต จะส่งผลดีต่อการท่องเที่ยวของภูเก็ตแน่นอน
สิ่งที่จะตามมาหลังจากการประชุมคือจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น ซึ่งจะทำให้รายได้จากการจัดเก็บค่าธรรมเนียมห้องพักกลับมาเพิ่มขึ้นเหมือนเดิม
ในปีนี้ทั้งปีทางอบจ.ภูเก็ตได้ตั้งเป้าการจัดเก็บค่าธรรมเนียมห้องพักไว้ที่ 70 ล้าน และในช่วง 6 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2552 สามารถจัดเก็บได้แล้วจำนวนกว่า 40 ล้านบาท เชื่อว่าจะสามารถจัดเก็บค่าธรรมเนียมได้ตามเป้าที่วางไว้แน่นอน
“ปัจจุบันยังมีโรงแรมอีกหลายแห่งที่ยังไม่ยอมจ่ายค่าธรรมเนียมห้องพักให้กับทางอบจ. ซึ่งทางอบจ.ได้มีการพูดคุยกับภาคโรงแรมในพื้นที่เพื่อให้ผู้ประกอบการจ่ายค่าธรรมเนียมซึ่งรายได้ที่ได้จากการจัดเก็บนั้นนำไปใช้ในเรื่องของการส่งเสริมการท่องเที่ยว ซึ่งหลังจากนี้ในการไปร่วมงานส่งเสริมการท่องเที่ยว อบจ.จะให้สิทธิพิเศษกับผู้ที่จ่ายค่าธรรมเนียมห้องพักให้กับทางอบจ. รวมทั้งเรื่องของการจองห้องพักทางอินเตอร์เน็ต ในช่องทางบริการที่ทางอบจ.จัดทำขึ้น
นอกจากนั้นทางอบจ.ยังได้ทำโครงการร่วมกับทางท่าอากาศยานภูเก็ตในการจัดเคาเตอร์พิเศษให้บริการข้อมูลของโรงแรม ที่จ่ายค่าธรรมเนียมให้กับนักท่องเที่ยวที่มาติดต่อสอบถามที่พัก”นายไพบูลย์ กล่าวและว่า
ทั้งนี้ เพื่อให้การจัดเก็บค่าธรรมเนียมห้องพักทำได้ 100% อบจ.กำลังขอแก้กฎหมายจากการเก็บค่าธรรมเนียมอบจ.เป็นการจัดเก็บภาษีค่าห้องพักแทน ซึ่งถ้าหากเปลี่ยนได้จะทำให้สามารถจัดเก็บค่าธรรมเนียมห้องพักได้ 100% เพราะเมื่อเปลี่ยนเป็นค่าภาษีแล้วทุกโรงแรมจะต้องจ่ายภาษีตามที่กฎหมายใหม่กำหนด ซึ่งจะทำให้การจัดเก็บรายได้กล่าวเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวแน่นอน
แม้ว่าจะมีวิกฤติเศรษฐกิจเกิดขึ้น แต่เรื่องของขั้นตอนการแก้กฎหมายนั้นจะต้องใช้ระยะเวลา ทางอบจ.จึงได้ทำโครงการต่างๆขึ้นมาเพื่อสร้างแรกจูงใจให้กับผู้ที่ไม่จ่ายค่าธรรมเนียมหันมาจ่ายค่าธรรมเนียมให้กับทางอบจ. โดยจะให้สิทธิพิเศษกับผู้ที่จ่ายธรรมในหลายๆเรื่องและได้รับการบริการมากขึ้น ซึ่งเป็นผลประโยชน์ของผู้ประกอบการทั้งสิ้น
