สตูล - รองผู้บัญชาการกองกำลังเทพสตรีลงสตูลตรวจแนวเขตรั้วทางทะเล ไทย – มาเลเซีย เพื่อป้องกันเส้นทางการลักลอบของแรงงานต่างด้าว และของหนีภาษี พร้อมจัดชุดเฝ้าเวรยามตามเกาะ
วันนี้ (30 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พันเอก นพวงศ์ สุรวิชัย รองผู้บัญชาการกองกำลังเทพสตรีพร้อมคณะลงตรวจพื้นที่และรับทราบสถานการณ์และผลการปฏิบัติงานตามคำสั่งป้องกันชายแดน ที่หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 5 ส่วนหน้า โดยมี พ.ท สรุเทพ หนูแก้ว ผู้บัญชาการหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 5 ส่วนหน้าพร้อมด้วย ร.ต จตุพร ธานีพัฒน์ ผู้บัญชาการกองทหาร ร้อย ร. 5201 พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำ 3 กองกับการ 9 และ ตชด. 436 และหัวหน้าส่วนราชการให้การต้อนรับที่ ท่าเรือตำมะลัง ต.ตำมะลัง อ.เมือง จ.สตูล เพื่อลงเรือตรวจการที่ 521 ออกตรวจภูมิประเทศบริเวณหลักเขตที่ 1 แนวเขตรั้วชายแดนจังหวัดสตูลกับรัฐเปอร์ลิส (ไทย – มาเลยซีย) ต.ปูยู อ.เมือง จ.สตูล
พันเอก นพวงศ์ สุรวิชัย รองผู้บัญชาการกองกำลังเทพสตรี กล่าวว่า พื้นที่แนวเขตชายแดนทางทะเลจังหวัดสตูล เป็นเส้นทางที่สำคัญอย่างหนึ่งที่ต้องรักษาความปลอดภัยให้มาก และต้องจัดเจ้าหน้าที่ ที่รับผิดชอบออกตรวจตราเสมอ ถึงแม้เส้นทางทะเล บนเกาะแนวเขตรั่วชายแดนไทย – มาเลเซีย นั้น จะไม่ค่อยการลักลอบขนแรงงานผ่านมา หรือลักลอบขนยาเสพติด และของหนีภาษีมาทางนี้ แต่เส้นทางตรงนี้หากขาดออกตรวจตราบ่อยก็จะเป็นเส้นที่ลักลอบขน และทำสิ่งผิดกฎหมายได้ง่าย หากเจ้าหน้าที่ไม่เข้ม
ทางด้าน พ.ท สรุเทพ หนูแก้ว ผู้บัญชาการหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 5 ส่วนหน้า กล่าวว่า ทางจุดเส้นทางตรงนี้ เจ้าหน้าที่รับผิดชอบ เช่น กองทหารราบที่ 5 ส่วนหน้า และเจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำ 3 กองกับการ 9 และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องได้ออกลาดตะเวนตรวจหาสิ่งที่ผิดกฎหมายเป็นประจำ และไม่พบสิ่งที่ผิดกฎหมายแต่อย่างไร แต่ในระยะนี้มักจะมีข่าวการลักลอบของแรงงานต่างด้าวที่เข้ามาในประเทศไทย ทางกรมทหารราบที่5 ส่วนหน้าได้จัดชุดออกตรวจเข้มตลอด และจัดส่งชุดทหารเฝ้าเวรยามตามเกาะแก่งที่มีพื้นที่เสี่ยง และสามรถเกิดสิ่งผิดกฎหมายได้ตลอด
พร้อมกันนี้ทางพันเอก นพวงศ์ สุรวิชัย รองผู้บัญชาการกองกำลังเทพสตรี พร้อมด้วยคณะต่างออกตรวจตามจุดแนวเขตรั่ว และสั่งการให้เจ้าหน้าที่รับผิดชอบดูแลอย่างเข้มถึงแม้จะไม่มีเหตุร้ายหรือการทำผิดกฎหมายในน่านเขตรั่วแนวทะเลฝั่งไทย – มาเลเซีย เกิดขึ้น แต่ต้องรักษาแผ่นดินและท้องทะเลทำเพื่อชาติถวายแด่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ของเราต่อไป