นราธิวาส – รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ร่วมกับชาวบ้าน อ.เจาะไอร้อง กว่า 500 คน ละหมาดขอพรจากพระผู้เป็นเจ้า รวมทั้งประณามกลุ่มโจรใต้
เมื่อช่วงบ่ายวันนี้ (27 เม.ย.) ที่ลานหน้าเสาธงของโรงเรียนบูกิตประชาอุปถัมภ์ ม.10 บ.ปีแนมูดอ ต.บูกิต อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส นายนิพนธ์ นราพิทักษ์กุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส เดินทางไปเป็นประธานในพิธีละหมาดฮายัต เพื่อขอพรจากพระผู้เป็นเจ้า รวมทั้งประณามโจรใต้
ภายหลังเกิดเหตุคนร้ายลอบเผาอาคารไม้ 2 ชั้นของโรงเรียน ได้รับความเสียหายกว่า 2 ล้านบาท โดยเหตุเกิดเช้ามืดที่ผ่านมา โดยมีผู้นำศาสนา ผู้นำชุมชน และชาวบ้านในพื้นที่ 14 หมู่บ้านของ ต.บูกิต รวมทั้ง พ.ต.อ.พีระพล ณ พัทลุง ผกก.สภ.เจาะไอร้อง นายสมศักดิ์ สิทธิวรกาญจน์ นายอำเภอเจาะไอร้อง และ พ.ท.ยุทธนา สายประเสริฐ ผบ.ฉก.นราธิวาส 31 เข้าร่วมพิธี พร้อมกับนักเรียนและชาวบ้านที่ถือป้ายเขียนข้อความประณามการก่อเหตุ
ซึ่งในที่สุดผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากการกระทำดังกล่าว ก็คือ ลูกหลานและญาติพี่น้องของคนในพื้นที่ทั้งสิ้น อย่างไรก็ตาม การจัดพิธีละหมาดและประณามในครั้งนี้ ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครองกระจายกำลังดูแลความปลอดภัยอย่างเข้มงวด
ต่อมาหลังจากประกอบพิธีละหมาดแล้วเสร็จ นายนิพนธ์ นราพิทักษ์กุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส กล่าวกับผู้ที่เข้าร่วมพิธีพอสรุปใจความว่า เหตุร้ายที่เกิดขึ้นแบบซ้ำซากในพื้นที่นั้น เพราะทุกคนยังมีความรับผิดชอบในความเป็นพลเมืองดียังไม่เต็มร้อย จนปล่อยให้กลุ่มคนร้ายแฝงตัวลอบก่อเหตุร้ายขึ้นได้ จนส่งผลกระทบต่อการศึกษาของบุตรหลาน รวมทั้งส่งผลกระทบต่อกระแสไฟฟ้าที่ทุกคนไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้ ซึ่งทุกๆ อย่าง คือ สมบัติของชาวบ้านทุกคน ที่ต้องช่วยกันดูแล และเหตุร้ายที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ขอให้ถือว่าเป็นครั้งสุดท้าย และเป็นบทเรียนที่ทุกคนต้องจดจำ เพื่อร่วมกันสกัดกั้นไม่ให้คนร้ายก่อเหตุขึ้นอีก
ส่วนความคืบหน้าการตระเวนตรวจสอบจุดเกิดเหตุทั้ง 5 อำเภอของเจ้าหน้าที่นั้น ในช่วงเช้าพบมีจำนวน 11 จุด ส่วนในช่วงบ่ายพบคนร้ายก่อเหตุเพิ่มเติมพื้นที่อำเภอเจาะไอร้อง อีก 5 จุด รวมเป็น 16 จุด คือ ลอบวางระเบิดหม้อแปลงไฟฟ้าและเผาสถานีทวนสัญญาณโทรศัพท์มือถือ
ส่วนความคืบหน้าทางด้านคดีนั้น โดยเฉพาะเหตุลอบเผาโรงเรียน ล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เจาะไอร้อง ได้เรียกชุดรักษาความปลอดภัยโรงเรียนบูกิตประชาอุปถัมภ์ จำนวน 6 คน ไปสอบปากคำเพื่อหาเบาะแสของกลุ่มคนร้าย โดยพบว่าคนร้ายมีจำนวน 4-5 คน ได้ฉวยโอกาสขณะชุด ชรบ.ได้กระทำพิธีละหมาด เข้าไปใช้ระเบิดเพลิงขว้างใส่อาคารเรียนไม้ ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่พบที่จะทราบข้อมูลเกี่ยวกับกลุ่มคนร้ายเบื้องต้นบ้างแล้ว ว่าเป็นกลุ่มก่อความไม่สงบกลุ่มใด แต่ไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลเชิงลึกได้
ขณะที่ นายอับดุลกอเดย์ อิบรอฮิม ผอ.โรงเรียนบูกิตประชาอุปถัมภ์เปิดเผยว่า สำหรับนักเรียนชั้น ม.2 ม.5 และ ม.6 จำนวนกว่า 100 คน ซึ่งได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์เผาโรงเรียนในครั้งนี้ ตนเองได้เตรียมความพร้อมโดยจะให้ขยับขยายไปใช้ห้องเรียนเดิมที่มีอยู่ของอาคารอีกหลัง แต่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ ส่วนอุปกรณ์ต่างๆ อาทิ โต๊ะและเก้าอี้จะได้ขอสนับสนุนจากทางสำนักงานพื้นที่การศึกษานราธิวาสเขต 3 เพื่อที่จะสามารถมีความพร้อมรับเปิดเทอมภาคเรียนที่ 1 ในวันที่ 13 พฤษภาคมนี้ต่อไป
เมื่อช่วงบ่ายวันนี้ (27 เม.ย.) ที่ลานหน้าเสาธงของโรงเรียนบูกิตประชาอุปถัมภ์ ม.10 บ.ปีแนมูดอ ต.บูกิต อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส นายนิพนธ์ นราพิทักษ์กุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส เดินทางไปเป็นประธานในพิธีละหมาดฮายัต เพื่อขอพรจากพระผู้เป็นเจ้า รวมทั้งประณามโจรใต้
ภายหลังเกิดเหตุคนร้ายลอบเผาอาคารไม้ 2 ชั้นของโรงเรียน ได้รับความเสียหายกว่า 2 ล้านบาท โดยเหตุเกิดเช้ามืดที่ผ่านมา โดยมีผู้นำศาสนา ผู้นำชุมชน และชาวบ้านในพื้นที่ 14 หมู่บ้านของ ต.บูกิต รวมทั้ง พ.ต.อ.พีระพล ณ พัทลุง ผกก.สภ.เจาะไอร้อง นายสมศักดิ์ สิทธิวรกาญจน์ นายอำเภอเจาะไอร้อง และ พ.ท.ยุทธนา สายประเสริฐ ผบ.ฉก.นราธิวาส 31 เข้าร่วมพิธี พร้อมกับนักเรียนและชาวบ้านที่ถือป้ายเขียนข้อความประณามการก่อเหตุ
ซึ่งในที่สุดผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากการกระทำดังกล่าว ก็คือ ลูกหลานและญาติพี่น้องของคนในพื้นที่ทั้งสิ้น อย่างไรก็ตาม การจัดพิธีละหมาดและประณามในครั้งนี้ ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครองกระจายกำลังดูแลความปลอดภัยอย่างเข้มงวด
ต่อมาหลังจากประกอบพิธีละหมาดแล้วเสร็จ นายนิพนธ์ นราพิทักษ์กุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส กล่าวกับผู้ที่เข้าร่วมพิธีพอสรุปใจความว่า เหตุร้ายที่เกิดขึ้นแบบซ้ำซากในพื้นที่นั้น เพราะทุกคนยังมีความรับผิดชอบในความเป็นพลเมืองดียังไม่เต็มร้อย จนปล่อยให้กลุ่มคนร้ายแฝงตัวลอบก่อเหตุร้ายขึ้นได้ จนส่งผลกระทบต่อการศึกษาของบุตรหลาน รวมทั้งส่งผลกระทบต่อกระแสไฟฟ้าที่ทุกคนไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้ ซึ่งทุกๆ อย่าง คือ สมบัติของชาวบ้านทุกคน ที่ต้องช่วยกันดูแล และเหตุร้ายที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ขอให้ถือว่าเป็นครั้งสุดท้าย และเป็นบทเรียนที่ทุกคนต้องจดจำ เพื่อร่วมกันสกัดกั้นไม่ให้คนร้ายก่อเหตุขึ้นอีก
ส่วนความคืบหน้าการตระเวนตรวจสอบจุดเกิดเหตุทั้ง 5 อำเภอของเจ้าหน้าที่นั้น ในช่วงเช้าพบมีจำนวน 11 จุด ส่วนในช่วงบ่ายพบคนร้ายก่อเหตุเพิ่มเติมพื้นที่อำเภอเจาะไอร้อง อีก 5 จุด รวมเป็น 16 จุด คือ ลอบวางระเบิดหม้อแปลงไฟฟ้าและเผาสถานีทวนสัญญาณโทรศัพท์มือถือ
ส่วนความคืบหน้าทางด้านคดีนั้น โดยเฉพาะเหตุลอบเผาโรงเรียน ล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เจาะไอร้อง ได้เรียกชุดรักษาความปลอดภัยโรงเรียนบูกิตประชาอุปถัมภ์ จำนวน 6 คน ไปสอบปากคำเพื่อหาเบาะแสของกลุ่มคนร้าย โดยพบว่าคนร้ายมีจำนวน 4-5 คน ได้ฉวยโอกาสขณะชุด ชรบ.ได้กระทำพิธีละหมาด เข้าไปใช้ระเบิดเพลิงขว้างใส่อาคารเรียนไม้ ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่พบที่จะทราบข้อมูลเกี่ยวกับกลุ่มคนร้ายเบื้องต้นบ้างแล้ว ว่าเป็นกลุ่มก่อความไม่สงบกลุ่มใด แต่ไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลเชิงลึกได้
ขณะที่ นายอับดุลกอเดย์ อิบรอฮิม ผอ.โรงเรียนบูกิตประชาอุปถัมภ์เปิดเผยว่า สำหรับนักเรียนชั้น ม.2 ม.5 และ ม.6 จำนวนกว่า 100 คน ซึ่งได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์เผาโรงเรียนในครั้งนี้ ตนเองได้เตรียมความพร้อมโดยจะให้ขยับขยายไปใช้ห้องเรียนเดิมที่มีอยู่ของอาคารอีกหลัง แต่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ ส่วนอุปกรณ์ต่างๆ อาทิ โต๊ะและเก้าอี้จะได้ขอสนับสนุนจากทางสำนักงานพื้นที่การศึกษานราธิวาสเขต 3 เพื่อที่จะสามารถมีความพร้อมรับเปิดเทอมภาคเรียนที่ 1 ในวันที่ 13 พฤษภาคมนี้ต่อไป